เกิดอะไรขึ้น:
SCBS ได้ทำพรีวิวผลประกอบการไตรมาส 4/63 ของ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ซึ่งคาดว่าจะประกาศผลประกอบการวันที่ 26 มกราคม 2564
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น SCGP ปรับตัวขึ้น 5.4%MoM สู่ระดับ 43.75 บาท Underperform SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 6.0%MoM สู่ระดับ 1,536.44 จุด ข้อมูล ณ วันที่ 8 มกราคม 2564
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/63 ของ SCGP ที่ระดับ 1.36 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%YoY และเพิ่มขึ้น 2%QoQ หากหักรายการพิเศษจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 65 ล้านบาท กำไรปกติจะอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%YoY แต่ลดลง 12%QoQ
โดยกำไรปกติที่เพิ่มขึ้น YoY ได้รับการสนับสนุนจากอุปสงค์ของสินค้าในสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร (ซึ่งคิดเป็น 86% ของยอดขาย) ที่ดีขึ้นในอาเซียน ซึ่งสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้น
ด้านอัตรากำไรมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากฐานต่ำของปีก่อน เพราะการแข่งขันทางราคาที่รุนแรงในธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ภายในประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยสนับสนุนจากการบริหารแหล่งวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลงจากการชำระหนี้คืนโดยใช้เงินที่ได้จาก IPO
สำหรับต้นทุนราคาเศษกระดาษรีไซเคิล (RCP) มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากจีนมีคำสั่งห้ามนำเข้าขยะมูลฝอยทุกประเภทตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 แต่อย่างไรก็ดี แนวโน้มราคา RCP อาจจะยังทรงตัวได้ในระดับสูง เพราะต้นทุนค่าระวางที่สูงขึ้น เนื่องจากความไม่สมดุลของ Containers Flow
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดว่ากำไรปกติของ SCGP ปี 2564 จะเติบโต 25%YoY โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากรายได้ที่ดีขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตเพิ่ม รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีการผลิตใหม่ และการจัดหาวัตถุดิบได้ดีขึ้นในสายธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร
ทั้งนี้ ต้องติดตามความคืบหน้าดีล M&A เพิ่มเติมหลังจาก SCGP ได้ประกาศว่าจะเข้าซื้อธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในประเทศเวียดนาม รวมถึงติดตามการเปิดเผยรายละเอียดของการซื้อกิจการ Go-Pak เช่น มูลค่าการลงทุน และส่วนแบ่งกำไรในช่วงดังกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์