เฉินสือจง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว BBC เตือนว่าแม้การให้วัคซีนจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ทั่วโลกยังคงต้องระมัดระวังอย่างเข้มข้นต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดยเฉินกล่าวว่า จนถึงตอนนี้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความทนทานในประสิทธิภาพของวัคซีนนั้นยังคงไม่เพียงพอ และไม่ชัดเจนว่าวัคซีนนั้นจะคุ้มครองผู้ที่ได้รับวัคซีนนานแค่ไหน
“ในช่วงการให้วัคซีนครั้งแรก ประชาชนควรมีความระมัดระวังต่อไป” เฉินกล่าว ขณะที่เขาไม่ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของวัคซีน หรือวัคซีนนั้นสร้างภูมิคุ้มกันหรือไม่
ไต้หวันนั้นเป็นหนึ่งในชาติที่ประสบผลสำเร็จสูงสุดในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยจนถึงตอนนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อในไต้หวันเพียง 724 ราย และเสียชีวิต 7 ราย และยังไม่เคยต้องล็อกดาวน์ปิดเมืองแบบประเทศอื่นๆ
ซึ่งความสำเร็จในการต่อสู้และรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ในไต้หวัน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการดำเนินการที่รวดเร็วและเข้มงวดในการควบคุมพื้นที่ชายแดน ห้ามชาวต่างชาติเข้าไต้หวัน และกักตัวชาวไต้หวันทุกคนที่กลับมาจากต่างประเทศ
อีกทั้งประชาชน 23 ล้านคนทั่วไต้หวันยังตื่นตัวเรื่องการสวมใส่หน้ากากอนามัยตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งนอกจากจะป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังทำให้ผู้ป่วยโรคไข้หวัดและไข้หวัดลงกระเพาะนั้นลดลงอย่างชัดเจนถึง 90%
ขณะที่เฉินเชื่อว่าหากการให้วัคซีนมีการดำเนินการเป็นวงกว้างแล้ว การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะบรรเทาลง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขากังวลว่าผู้คนทั่วโลกจะหละหลวมและลดการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส พร้อมย้ำเตือนว่าไม่ควรลืมบทเรียนในการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ว่าการระบาดของไวรัสจะสิ้นสุด เนื่องจากอาจมีโรคระบาดอื่นๆ เกิดขึ้นในอนาคต และความถี่นั้นอาจเพิ่มสูงขึ้น
“ดังนั้นในช่วงก่อนการฉีดวัคซีน ทั่วโลกควรให้ความสนใจว่าท่าทีที่ผ่อนคลายนี้จะนำไปสู่จุดสูงสุดในการแพร่ระบาดอีกครั้งหรือไม่ ผมเชื่อว่าโลกจะกลับสู่สภาวะปกติอย่างแน่นอน สิ่งเดียวที่มักเกิดขึ้นคือเมื่อโรคระบาดแพร่กระจาย ทุกคนได้เรียนรู้บทเรียน แต่หลังจากช่วงเวลาผ่านไป ผู้คนก็จะลืมบทเรียนที่เคยได้รับ” เฉินกล่าว
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: