วันนี้ (30 พฤศจิกายน) นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวถึงระเบียบวาระในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (1 ธันวาคม) ว่าที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาจะร่วมกันพิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วจำนวน 1 เรื่อง คือ ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ( ฉบับที่ ) พ.ศ… และเรื่องด่วน เรื่องร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ… ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ เพื่อเป็นร่างพระราชบัญญัติที่ในการรองรับการออกเสียงประชามติในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
ขณะเดียวกัน นพ.สุกิจ ยังกล่าวถึงร่างพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ที่เสนอมายังประธานรัฐสภาเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า รายละเอียดของกฎหมายออกเสียงประชามติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเงิน จึงจำเป็นที่จะต้องส่งต่อไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อลงนามรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว โดยรัฐสภาได้ส่งร่างกฎหมายของพรรคร่วมฝ่ายค้านไปยังนายกรัฐมนตรีแล้วเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีจะต้องลงนามรับรองในร่างกฎหมายดังกล่าวภายใน 30 วันนับแต่ส่งร่างกฎหมายไป ดังนั้น ภายในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ หากนายกรัฐมนตรียังไม่เซ็นรับรองร่างกฎหมายลงประชามติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะส่งผลให้ร่างกฎหมายดังกล่าวต้องตกไป
นอกจากนี้ ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา จะร่วมกันพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง ขอเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2563 ข้อที่ 31 ให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 (2) ที่ไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ และสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา เป็นผู้เสนอ โดยญัตติดังกล่าวเป็นญัตติที่ไพบูลย์และสมชาย ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เป็นการยื่นญัตติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญกำหนดไว้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภามีมติเห็นชอบให้เสนอญัตติดังกล่าวส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ ให้ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของที่ประชุม
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์