เกิดอะไรขึ้น:
วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2563 บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการของธุรกิจกลุ่มค้าปลีกไตรมาส 4/63 จะฟื้นตัว QoQ เนื่องจากการให้ส่วนลดค่าเช่าน้อยลง และได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคจากทางภาครัฐฯ อย่างไรก็ดี ผลประกอบการธุรกิจกลุ่มค้าปลีกไตรมาส 4/63 จะยังคงอ่อนแอลง YoY เนื่องจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป รวมถึงสัดส่วนยอดขายสินค้าที่ให้อัตรากำไรสูงลดน้อยลง
ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/63 ของกลุ่มธุรกิจอื่นๆ สามารถเติบโต YoY โดยกลุ่มธุรกิจสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ได้ปัจจัยสนับสนุนจากลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น และยอดขายกระป๋องในเวียดนามดีขึ้นท่ามกลางต้นทุนเชื้อเพลิงที่ต่ำลง ขณะที่กลุ่มธุรกิจสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภคได้ปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายกลุ่มธุรกิจอุปโภค และกลุ่มธุรกิจต่างประเทศที่ดีขึ้น
กระทบอย่างไร:
วันนี้ (23 พฤศจิกายน 2563) ราคาหุ้น BJC ปรับตัวขึ้น 8.03%DoD สู่ระดับ 37.00 บาท โดยปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นไทยที่ได้อานิสงส์จากโมเมนตัมกระแสเงินทุนไหลเข้าจากนักลงทุนต่างชาติ
มุมมองระยะสั้น:
SCBS คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/63 ของ BJC จะลดลง YoY แต่จะดีกว่าไตรมาส 2 และ 3/63 โดยยอดขายจากธุรกิจค้าปลีก ไตรมาส 4/63 จะปรับตัวดีขึ้น QoQ โดยได้อานิสงส์จากมาตรการภาครัฐฯ เช่น ช้อปดีมีคืน รวมถึงเป็นช่วงฤดูกาลจับจ่ายใช้สอย และการทยอยให้ส่วนลดค่าเช่าน้อยลง จนกระทั่งไม่มีการให้ส่วนลดมาจนถึงสิ้นปีนี้ จะทำให้รายได้ค่าเช่าทยอยปรับตัวขึ้น
นอกจากนี้แล้ว BJC ยังได้เปลี่ยนกำหนดการตรวจสอบสต๊อกสินค้า ซึ่งโดยปกติบริษัทจะบันทึกรายได้การโอนกลับค่าเผื่อการด้อยค่าของสต๊อกค้างจ่าย ซึ่งรายการนี้จะโอนกลับเข้ามาในไตรมาส 4/63 แต่อย่างไรก็ดี ยอดขายจากธุรกิจค้าปลีกไตรมาส 4/63 ยังมีแนวโน้มที่อ่อนแอ YoY เนื่องจากกำลังซื้อที่อ่อนแอ และไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยยอดขายจาก Hypermarket Store ในแหล่งท่องเที่ยวคิดเป็น 15% ของยอดขายจากธุรกิจค้าปลีก
สำหรับผลประกอบการของธุรกิจสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ไตรมาส 4/63 มีแนวโน้มดีขึ้น YoY เนื่องจากการขายบรรจุภัณฑ์แก้วให้กลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น และยอดขายกระป๋องอะลูมิเนียมเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีขึ้นในเวียดนาม นอกจากนี้อัตรากำไรของธุรกิจนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบโซดาแอชที่ต่ำลง
ด้านผลประกอบการของธุรกิจสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภคไตรมาส 4/63 มีแนวโน้มเติบโต YoY โดยได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายสินค้าอุปโภคและกลุ่มธุรกิจต่างประเทศที่ดีขึ้น แต่อัตรากำไรอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนราคาน้ำมันปาล์ม น้ำตาล และเยื่อกระดาษที่อยู่ในระดับสูง
มุมองระยะยาว:
SCBS คาดว่าแนวโน้มกำไรปี 2564 ของ BJC จะฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/64 เนื่องจากเป็นการฟื้นตัวของยอดขายสาขาเดิม (SSS) และรายได้ค่าเช่าจากฐานต่ำในปี 2563 ขณะที่กำลังซื้อจะมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศคลี่คลาย นอกจากนี้การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2564 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนต่อการฟื้นตัวของกำไร
ข้อมูลเพิ่มเติม:
โครงสร้างสัดส่วนรายได้ของ BJC ในไตรมาส 3/63
– รายได้จากธุรกิจค้าปลีกคิดเป็น 67% ของรายได้ไตรมาส 3/63
– รายได้จากธุรกิจสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์คิดเป็น 14% ของรายได้ไตรมาส 3/63
– รายได้จากธุรกิจสินค้าและบริการทางอุปโภคคิดเป็น 14% ของรายได้ไตรมาส 3/63
– รายได้จากธุรกิจสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และทางเทคนิคคิดเป็น 5% ของรายได้ไตรมาส 3/63
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์