×

เกาะติด #ม็อบ17พฤศจิกา หน้ารัฐสภา

โดย THE STANDARD TEAM
17.11.2020
  • LOADING...
ม็อบ 17 พฤศจิกายน

22.05 น.

สภาพถนนสามเสน บริเวณแยกเกียกกาย หลังมวลชนราษฎรยุติการชุมนุม หลงเหลือไว้เพียงเป็ดยางเป่าลมที่ผู้ชุมนุมเตรียมมาเพื่อทำกิจกรรมถูกวางทิ้งไว้ ก่อนที่จะมีมวลชนมาเก็บกลับบ้าน

 

เป็ดยางเป่าลมที่ผู้ชุมนุมเตรียมมาเพื่อทำกิจกรรมถูกวางทิ้งไ

 


 

21.07 น.

กลุ่มราษฎรปล่อยลูกโป่งขึ้นฟ้าแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ หลัง เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ปราศรัยปิดเวทีหน้ารัฐสภาเป็นคนสุดท้าย พร้อมประกาศชุมนุมที่แยกราชประสงค์และหน้า สตช. เวลา 16.00 น.

 


 

21:05 น.

ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้เดินออกมาสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่มาปักหลักอยู่หน้ารัฐสภา โดยชวนกล่าวถึงกรณีที่ผู้ชุมนุมระบุว่า หากรัฐสภาไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเข้าพิจารณาจะมีการยกระดับการชุมนุมว่า สภาเป็นสถานที่ชุมนุมอยู่แล้ว แต่ขอให้ชุมนุมโดยสงบ ที่ผ่านมาก็มีหลายกลุ่มเดินทางมาร่วมชุมนุม แต่ขอให้พูดคุยกันดีๆ ทั้งนี้ส่วนตัวแล้วรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 


 

20.57 น.

เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ปราศรัยให้ผู้ชุมนุมนำกระป๋องสีคนละ 1 กระป๋องติดตัวมาในการชุมนุมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ที่ราชประสงค์ โดยระบุว่าจะเดินไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อทำกิจกรรมแสดงออก พร้อมย้ำว่าการชุมนุมพรุ่งนี้เป็นการยกระดับเข้าสู่ศักราชใหม่ของการต่อสู้ พร้อมประกาศยุติการชุมนุมในวันนี้

 

โดยก่อนหน้านี้ อานนท์ นำภา ได้ปราศรัยพร้อมนัดหมายชุมนุมใหญ่ โดยขอให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ระบุว่าจะเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุด

 

เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ ปราศรัยให้ผู้ชุมนุมนำกระป๋องสีคนละ 1 กระป๋องติดตัว

 


 

20.42 น.

อานนท์ นำภา ปราศรัยระบุว่า วันนี้เป็นการแสดงออกเพื่อให้รู้ว่ารัฐสภาเป็นของประชาชนทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง พร้อมทั้งกล่าวถึงปรากฏการณ์ของสังคมตลอด 3-4 เดือนที่ผ่านมาที่มีการพูดถึงข้อเสนอการปฏิรูปสถาบันฯ อย่างกว้างขวาง

 

อานนท์ นำภา ปราศรัยระบุว่า วันนี้เป็นการแสดงออกเพื่อให้รู้ว่ารัฐสภาเป็นของประชาชนทุกคน ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง

 


 

20.38 น.

ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกลำเลียงออกจากพื้นที่บริเวณแยกเกียกกายตัดกับถนนทหาร หลังเกิดเหตุชุลมุน มีเสียงดังคล้ายประทัดหรือวัตถุระเบิด

 

ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกลำเลียงออกจากพื้นที่บริเวณแยกเกียกกายตัดกับถนนทหาร หลังเกิดเหตุชุลมุน มีเสียงดังคล้ายประทัดหรือวัตถุระเบิด

 


 

20.30 น.

บรรยากาศหลังเหตุชุลมุนที่มีเสียงดังคล้ายประทัดหรือวัตถุระเบิด ขณะกลุ่มการ์ดราษฎรพยายามเคลียร์แนวกั้นบริเวณแยกเกียกกายออก เพื่อเปิดทางให้รถพยาบาลได้เข้าพื้นที่และลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่

 


 

20.20 น.

เกิดเหตุชุลมุนในการชุมนุมของกลุ่มราษฎรอีกครั้งบริเวณแยกเกียกกายตัดกับถนนทหารที่มีมวลชนสวมเสื้อเหลืองปักหลักอยู่ มีเสียงคล้ายประทัดหรือวัตถุระเบิดดังขึ้น

 

ม็อบ 17 พฤศจิกายน

 


 

19.58 น.

มีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงที่บริเวณแยกเกียกกาย ห้ามมวลชนเดินผ่านบริเวณรถเมล์ เนื่องจากมีรายงานว่าแก๊สจากรถเมล์รั่ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่

 

ม็อบ 17 พฤศจิกายน

 


 

19.46 น.

กลุ่มราษฎรเคลื่อนมวลชนจากแยกเกียกกายถึงหน้าอาคารรัฐภา หลังต้องเผชิญแนวกั้นเจ้าหน้าที่ที่ฉีดน้ำแรงดันสูงและใช้แก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตำรวจถอนกำลังออกมาฝั่งเกียกกาย ขณะที่เจอผู้ชุมนุมตั้งคำถาม “คนไหนฉีดแก๊สน้ำตาใส่เพื่อนหนูคะ”

 

ม็อบ 17 พฤศจิกายน

 


 

19.25 น.

บรรยากาศการเคลื่อนขบวนของกลุ่มราษฎรที่มุ่งหน้าสู่อาคารรัฐสภา หลังสามารถผ่านแนวกั้นของตำรวจได้สำเร็จ

 


 

19.00 น.

หน้าคารรัฐสภา (ฝั่งบุญรอดฯ) มีการใช้แก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่องตั้งช่วงเวลา 14.30 น. และมีรถพยาบาลเข้าออกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย

 


 

18.59 น.

กลุ่มมวลชนราษฎร ตั้งแถวส่งน้ำต่อกัน เพื่อลำเลียงไปยังแนวหน้าบริเวณแยกเกียกกาย

 


 

18.42 น.

แก๊สน้ำตาตกลงมากลางมวลชนบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา (ฝั่งบุญรอดฯ) หลังจากที่มวลชนพยายามใช้เชือกลากรถเมล์ที่กั้นเป็นแนว โดยที่บริเวณนี้มีการฉีดน้ำ ใช้แก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 14.30 น.

 

 


 

18.30 น.

นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษา ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้รับการสั่งการให้มาติดตามผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุม แต่ นพ.สุกิจ ไม่สามารถออกไปยังพื้นที่การชุมนุมได้ เพราะเจ้าหน้าที่ปิดทางเข้าฝั่งวัดแก้วฟ้าถาวร ทำให้ต้องประสานทางโทรศัพท์ให้รถพยาบาลและรถกู้ภัยเข้ามารับผู้บาดเจ็บในพื้นที่การชุมนุม

 


 

18.20 น.

มวลชนราษฎรยังคงพยายามเข้าพื้นที่รัฐสภา โดยที่บริเวณแยกเกียกกาย มวลชนช่วยกันดึงรถเมล์ที่จอดเป็นแนวกั้นอยู่เพื่อเปิดทางให้สามารถเข้าไปยังบริเวณรัฐสภาได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง

 

 

 


 

18.06 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจฉีดน้ำสกัดกลุ่มราษฎร หลังเคลื่อนมวลชนเข้ายึดแยกเกียกกาย และพยายามมุ่งหน้าชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภา

 

 


 

17.52 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณท่าเรือเกียกกาย ชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี และสมาชิกอีก 1 คน ได้สวมห่วงยางที่แขวนอยู่บริเวณท่าเรือ ก่อนกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยา และว่ายน้ำพยายามขึ้นฝั่งรัฐสภา โดยระบุว่าจะเข้าไปยื่นหนังสือถึง ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำที่ลอยเรือรักษาความปลอดภัยพยายามจะนำตัวขึ้นมา เพราะน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากำลังไหลเชี่ยว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่บนท่าเรือตะโกนว่า “อย่าแตะเพื่อนเรา” ซึ่งทั้ง 2 คนได้ว่ายขึ้นฝั่งรัฐสภาโดยมีเจ้าหน้าที่สภาคอยรับตัวอยู่

 


 

17.40 น.

บรรยากาศบริเวณแยกเกียกกาย หลังมวลชนราษฎรและมวลชนสวมเสื้อเหลืองเผชิญหน้าและขว้างปาสิ่งของใส่กัน ก่อนจะมีการประชาสัมพันธ์ให้มวลชนทั้งสองฝั่งหลีกเลี่ยงการปะทะ ขณะที่มวลชนด้านหน้าของทั้งสองฝั่งกล่าวขอโทษซึ่งกันและกัน ปรบมือ ยกนิ้วโป้ง และความตึงเครียดเริ่มคลี่คลาย

 


 

17.20 น.

มีการเผชิญหน้ากันระหว่างมวลชนราษฎรและมวลชนสวมเสื้อเหลือง โดยทั้งสองฝ่ายต่างขว้างปาสิ่งของใส่กันเป็นระยะ จากการสังเกตการณ์ของผู้สื่อข่าวพบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการอยู่ที่บริเวณนี้ ต่อมาเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายเมื่อมวลชนทั้งสองฝั่งต่างประชาสัมพันธ์ให้หลีกเลี่ยงการปะทะ

 


 

17.15 น.

ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวในที่ประชุมว่า ได้ออกไปติดตามสถานการณ์และได้ย้ำกำชับเจ้าหน้าที่ว่า หากผู้ชุมนุมมาอย่างสงบ ก็ขออย่าให้เจ้าหน้าที่ทำอะไรเกินเหตุ เพราะการชุมนุมเป็นเสรีภาพ และขอให้สมาชิกปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด ส่วนข้างนอกเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ส่วนอะไรที่ไม่ถูกต้อง และหากผู้ชุมนุมมาอย่างสงบแต่เจ้าหน้าที่ทำอะไรเกินเหตุ ผู้ที่รับผิดชอบต้องรับผิดชอบ เพราะมีการบันทึกไว้ตลอด

 


 

17.06 น.

ที่บริเวณท่าเรือเกียกกาย ระหว่างที่ ส.ว.-ส.ส. ทยอยเดินทางกลับ มีมวลชนกลุ่มราษฎรมาปักหลักที่ท่าเรือ พร้อมเปิดปราศรัยถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 

 


 

16.55 น.

มีรายงานว่า ส.ว. และ ส.ส. บางส่วนทยอยเดินทางออกจากรัฐสภาแล้ว โดยใช้ท่าเรือเกียกกาย ขณะที่การลงมติจะมีในวันพรุ่งนี้ ส่วนกลุ่มราษฎรบริเวณแยกเกียกกายยังอยู่ในแนวเผชิญหน้า ขณะที่เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมเป็นระยะ และมวลชนสวมเสื้อเหลืองยังคงปราศรัยต่อเนื่อง

 


 

16.47 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นมาบนสะพานลอยแยกเกียกกาย พร้อมประกาศให้สื่อและประชาชนบนสะพานลงไปข้างล่าง เพื่อให้อยู่ห่างจากแนวการทำงานของตำรวจ ขณะที่มีการเสริมรถฉีดน้ำเข้ามาที่แยกเกียกายเพิ่มอีก 1 คัน เป็นการสับเปลี่ยนคันเดิมที่ปฏิบัติการก่อนหน้านี้

 

 


 

16.42 น. รังสิมันต์ โรม ส.ส. ก้าวไกล เข้าพูดคุยกับ พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. หลังตำรวจใช้มาตรการสลายการชุมนุมกลุ่มราษฎรที่บริเวณโดยรอบอาคารรัฐสภา

 

 


 

16.29 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังฉีดน้ำแรงดันสูงและน้ำผสมสารเคมีใส่กลุ่มราษฎรที่ปักหลักแยกเกียกกาย บริเวณหน้ากรมการอุตสาหกรรมทหาร โดยมวลชนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หยุดฉีดน้ำสลายการชุมนุม และให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนในฐานะที่รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชน

 

 


 

15.45 น.

บริเวณแยกเกียกกายยังคงตึงเครียด โดยเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม พร้อมประกาศเตือนไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าใกล้แนวสิ่งกีดขวางในระยะ 50 เมตร เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ ขณะที่ฝั่งผู้ชุมนุมปราศรัยตอบโต้

 


 

15.20 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจฉีดน้ำสกัดกลุ่มราษฎร ฝั่งแยกเขียวไข่กาอีกครั้ง หลังพยายามที่จะเข้าพื้นที่หน้าอาคารรัฐสภา

 


 

15.15 น.

พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจ ยืนยันว่าการยิงแก๊สน้ำตาของตำรวจไม่ใช่การสลายการชุมนุม หลังพบผู้ชุมนุมทำลายแนวกั้น ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พร้อมย้ำว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน โดยเบื้องต้นจะเจรจาให้กลุ่มผู้ชุมนุมหยุดทำลายสิ่งกีดขวาง แต่หากไม่หยุดเจ้าหน้าที่จะใช้การฉีดน้ำ โดยกล่าวถึงการฉีดน้ำที่แยกเขียวไข่กาเมื่อเวลา 14.30 น. ที่ผ่านมาว่า การฉีดน้ำ 3 ครั้งแรกเป็นน้ำเปล่า ส่วนครั้งที่ 4 เป็นน้ำผสมแก๊สน้ำตา

 

 


 

15.05 น.

ภาพบรรยากาศบริเวณแยกเกียกกาย ผู้ชุมนุมบางส่วนนำเรือเป็ดเป่าลมมาเพื่อทำกิจกรรมตามที่ประกาศไว้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตรึงกำลังอย่างเข้มข้น และมีแนวกั้นที่ประกอบไปด้วยรถเมล์ รั้วลวดหนาม และรถฉีดน้ำแรงดันสูง

 

ชุมนุม 17 พฤศจิกายน

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising