โกลบอล เพาเวอร์ โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 3/63 เพิ่มขึ้น 188% จากต้นทุนขายลดลง รวมทั้งปริมาณขายไฟฟ้าในเขตนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในไตรมาส 3 ปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิรวม 2,574 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 892.91 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,682 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 188%
สำหรับผลดำเนินงานที่ดีขึ้นส่วนหนึ่งมาจากราคาก๊าซธรรมชาติและราคาถ่านหินปรับลดลง ส่งผลให้ต้นทุนขายลดลง ช่วยให้ผลดำเนินงานจากการขายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม ถึงแม้ว่าจะมีการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) สำหรับการเรียกเก็บเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563 ลงเล็กน้อย 0.83 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งส่งผลให้ราคาขายไฟฟ้าให้ลูกค้าอุตสาหกรรมเฉลี่ยลดลงเล็กน้อยก็ตาม
นอกจากนั้นได้สำรวจและติดตามแผนการดำเนินงานของลูกค้าอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิด และพบว่า ปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าอุตสาหกรรม ทั้งลูกค้าอุตสาหกรรมในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ลูกค้าอุตสาหกรรมกลุ่มธุรกิจยานยนต์ในเขตนิคมอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์นอินดัสเตรียลพาร์ค และอื่นๆ ได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้ากว่า 36%
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีมาตรการรองรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยมีการเตรียมมาตรการความพร้อมเพื่อสร้างความมั่นคงต่อระบบผลิตไฟฟ้าและสาธารณูปโภคให้ดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการผลิตต่างๆ จะสามารถดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง สามารถตอบสนองต่อความต้องการใช้ไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภคของกลุ่มลูกค้าได้อย่างดี
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล