สำนักข่าว Reuters รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ธนาคารอาวุโสสามคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงว่า Deutsche Bank ธนาคารยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี กำลังมองหาวิธีที่จะยุติความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ เนื่องจากข่าวในเชิงลบที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง
Deutsche Bank มีเงินกู้ประมาณ 340 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.3 หมื่นล้านบาท ที่ค้างอยู่กับ Trump Organization ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจภายใต้ร่มเงาของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ปัจจุบันดูแลโดยลูกชายสองคนของเขา โดยเงินกู้นั้นจะครบกำหนดการชำระในอีก 2 ปี และมีการค้ำประกันโดยตรงจากทรัมป์
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Deutsche Bank ให้เงินกู้แก่ธุรกิจของประธานาธิบดีทรัมป์อย่างน้อย 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 6 หมื่นล้านบาท ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างการเป็น ‘เจ้าหนี้’ และ ‘ลูกหนี้’ ถูกวุฒิสมาชิกสหรัฐกลุ่มหนึ่งนำโดย เอลิซาเบธ วอร์เรน ซึ่งเขียนถึง Deutsche Bank เพื่อเรียกร้องรายละเอียดเกี่ยวกับการติดต่อทางธุรกิจของทรัมป์ หลังจากที่ The New York Times รายงานว่า Trump Organization ขอให้ธนาคารผ่อนปรนการกู้ยืมบางส่วนอันเป็นผลมาจากความยากลำบากที่ต้องเผชิญท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19
“รายงานฉบับนี้สร้างความกังวลใหม่ๆ ที่น่าหนักใจเกี่ยวกับขอบเขตที่ Deutsche Bank สามารถใช้ประโยชน์ทางการเงินเหนือประธานาธิบดีและครอบครัวของเขา และผลกระทบของความสัมพันธ์ทางการเงินที่กำลังดำเนินอยู่นี้” เอลิซาเบธ วอร์เรน กล่าวในคำร้องขอสอบสวน
ถึงเรื่องดังกล่าวจะถูกปฏิเสธในที่สุด ทว่าการสืบสวนอาจได้รับการรื้อฟื้นอีกครั้ง หากพรรครีพับลิกันไม่ชนะการเลือกตั้ง และพรรคเดโมแครตเข้าควบคุมทำเนียบขาวและสภาคองเกรส อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์เช่นนี้ผู้บริหารของ Deutsche Bank เชื่อว่าพวกเขาจะมีอิสระมากขึ้นในการจัดการกับเงินกู้ และยุติความสัมพันธ์กับทรัมป์ โดยพวกเขาหวังว่าการทำเช่นนั้นอาจช่วยลดการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้บ้าง
การประชุมในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารของ Deutsche Bank ที่ดูแลความเสี่ยงด้านชื่อเสียงและความเสี่ยงอื่นๆ สำหรับผู้ให้กู้ในภูมิภาคอเมริกา ได้หารือเกี่ยวกับวิธีที่จะยุติเส้นทางความสัมพันธ์ของทั้งสองลง โดยหนึ่งในคณะกรรมการได้เสนอวิธีขายเงินกู้ออกไป แต่วิธีดังกล่าวก็ไม่ได้รับการตอบรับมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีความชัดเจนว่าใครจะต้องการซื้อเงินกู้ และปัญหาของผู้ดูแลที่มาพร้อมกับเงินกู้ดังกล่าว
แม้ว่า Deutsche Bank จะไม่ได้กังวลมากนักเกี่ยวกับความสามารถในการชำระคืนเงินกู้ของทรัมป์ เนื่องจากได้มีการค้ำประกันเป็นส่วนบุคคล Deutsche Bank จึงสามารถยึดทรัพย์สินของทรัมป์ได้หากเขาไม่สามารถชำระคืน
แต่หากทรัมป์ชนะเป็นสมัยที่สอง เรื่องนี้จะยากขึ้น เพราะจะส่งผลเชิงลบต่อธนาคารทันที หากมีการยึดทรัพย์สินจากประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะขยายเงินกู้จนกว่าทรัมป์จะออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือ เรื่องดังกล่าวจะยังไม่ได้รับการตัดสินใจจนกว่าจะเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/article/us-usa-election-deutsche-bank-exclusive/exclusive-tired-of-trump-deutsche-bank-games-ways-to-sever-ties-with-the-president-sources-idUSKBN27J0G0
- https://www.forbes.com/sites/jonathanponciano/2020/11/03/deutsche-bank-eager-to-dump-340-million-in-loans-to-trump-businesses-after-election/