Fast Retailing บริษัทแม่ของแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นยักษ์ใหญ่ Uniqlo และ GU ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ผลประกอบการในปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม 2021 จะสูงเป็น ‘ประวัติการณ์’ โดยเฉพาะในแง่ของ ‘กำไร’ หลังจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มดีขึ้น และยอดขายในตลาดสำคัญเริ่มฟื้นตัว
ยักษ์ใหญ่ฟาสต์แฟชั่นประเมินว่า ‘กำไรสุทธิ’ ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดลงเดือนสิงหาคม 2021 จะเพิ่มขึ้น 82% เป็น 1.65 แสนล้านเยน หรือราว 4.88 หมื่นล้านบาท มากที่สุดในประวัติการณ์ และสูงกว่าปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2019 ซึ่งสามารถทำกำไรได้ 1.62 แสนล้านเยน หรือ 4.79 หมื่นล้านบาท
ยอดขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9.5% เป็น 2.2 ล้านล้านเยน หรือราว 6.5 แสนล้านบาท ซึ่งถ้าเทียบกับปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2019 ถือว่าลดลง เพราะในปี 2019 สามารถสร้างยอดขายได้ 2.29 ล้านล้านเยน หรือราว 6.7 แสนล้านบาทด้วยกัน
สำหรับผลประกอบการที่สิ้นสุดลงในเดือนสิงหาคม 2020 พบว่า กำไรสุทธิร่วงลง 44% เป็น 9 หมื่นล้านเยน หรือราว 2.66 หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดขายลดลง 12% เหลือ 2 ล้านล้านเยน หรือ 5.91 แสนล้านบาท กระนั้นตัวเลขยอดขายถือว่าสูงกว่าตัวเลขที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้เล็กน้อย ซึ่งคาดว่าจะมียอดขาย 1.99 ล้านล้านเยน เนื่องจากการฟื้นตัวที่ดีเกินคาดในญี่ปุ่นและจีน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณที่สิ้นสุดลงในเดือนสิงหาคม 2020 ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ที่ Fast Retailing ประสบปัญหาทั้งกำไรสุทธิและยอดขายที่ลดลง แต่โชคยังช่วยเพราะยอดขายอีคอมเมิร์ซและเสื้อผ้าสำหรับใส่อยู่ในบ้านได้เข้ามาช่วยชดเชยรายได้ไม่ให้ตกหนักกว่านี้
ในปีงบประมาณที่ผ่านมา Uniqlo มีสัดส่วนรายได้ 80% ของ Fast Retailing ซึ่งพบว่ายอดขายในต่างประเทศลดลงมากกว่าประเทศบ้านเกิด โดยยอดขายในญี่ปุ่นของ Uniqlo ลดลง 7.6% เป็น 8.068 แสนล้านเยน ซึ่งเกิดจากการปิดร้านชั่วคราวและเวลาทำการที่ลดลง ส่วนยอดขายในต่างประเทศของ Uniqlo ลดลง 17.7% เป็น 8.439 แสนล้านเยน
แม้จีนและไต้หวันมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งเกินคาดในช่วงปลายปีงบประมาณที่แล้ว เนื่องจากทั้งสองประสบความสำเร็จในการจัดการการระบาดของโรคนี้ แต่ยอดขายในตลาดต่างประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป ยังคงได้รับผลกระทบที่หนักหน่วงจากโรคระบาดและคาดว่าจะต้องใช้เวลาให้ตลาดเหล่านี้ฟื้นตัว
ขณะเดียวกัน Fast Retailing คาดว่าการฟื้นตัวโดยรวมจะเป็นไปอย่างช้าๆ จนถึงเดือนกุมภาพันธ์เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แต่คาดว่ายอดขายจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2021 โดยยังคงมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ 40 สาขาต่อปีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และภูมิภาคโอเชียเนีย
‘จีน’ ถือเป็นความหวังของ Uniqlo ซึ่งคาดว่ารายได้และกำไรจะขยายตัวตลอดทั้งปีงบประมาณ เห็นได้จากยอดขายอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นสองหลักในแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และไต้หวัน ส่วนแนวโน้มของญี่ปุ่นยังอยู่ในเกณฑ์ดีเนื่องจากคาดว่ายอดขายสาขาเดิมจะเพิ่มขึ้น 4% ภายในเดือนสิงหาคม
“โรคระบาดเป็นวิกฤตระดับโลก แต่สำหรับเราแล้วมันกลายเป็นจุดเปลี่ยน” ทาดาชิ ยาไน ประธานและซีอีโอของ Fast Retailing กล่าวในงานแถลงข่าว พร้อมเสริมว่า เมื่อเวลาเปลี่ยนไปวิถีชีวิตก็เปลี่ยนไปตามความต้องการของลูกค้า ดังนั้นเพื่อเผชิญกับสถานการณ์ปัจจุบัน บริษัทต้องเปลี่ยนแปลง โดยต้องเสริมเรื่องดิจิทัลเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า
ทาดาชิ ระบุว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการทำงานต่างๆ จะต้องเปลี่ยนเป็นดิจิทัล และ ‘หุ่นยนต์กับระบบอัตโนมัติ’ จะเป็นกุญแจสำคัญในทุกส่วนของห่วงโซ่อุปทาน
ขณะที่โอกาสในการเติบโตในประเทศจีน ทาดาชิได้กล่าวย้ำถึงวิสัยทัศน์ของเขาว่า “มีความเป็นไปได้ที่จะเปิดร้านค้า 3,000 แห่งในประเทศจีน” ขณะนี้จีนเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ Uniqlo โดยมีร้านค้าราว 780 สาขาด้วยกัน
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง: