ความหวังของการพัฒนาวัคซีนรักษาโรคโควิด-19 ดูจะยิ่งไกลห่างออกไปมากขึ้นทุกที เมื่อล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Johnson & Johnson บริษัทผู้พัฒนายา สินค้าอุปโภค-บริโภค และอุปกรณ์ทางการแพทย์จากสหรัฐอเมริกา ได้ตัดสินใจระงับการทดสอบวัคซีนโควิด-19 ลงชั่วคราวแล้ว หลังพบว่าอาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองวัคซีนมีอาการป่วย
รายงานในแถลงการณ์ของบริษัท Johnson & Johnson ระบุว่า “เราได้หยุดการใช้งานวัคซีนโควิด-19 ในการทดสอบทางคลินิกของพวกเราลงชั่วคราวทั้งหมด รวมถึงการทดสอบในเฟสที่ 3 หลังกลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมการทดสอบได้เกิดอาการป่วยโดยไม่สามารถอธิบายถึงสาเหตุ”
อย่างไรก็ดี Johnson & Johnson ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกและรายละเอียดเพิ่มเติมของอาการป่วยกลุ่มตัวอย่างแต่อย่างใด โดยให้เหตุผลว่าเพื่อความเป็น ‘ส่วนตัว’ ของอาสาสมัครที่เข้ารับการทดสอบวัคซีน
เมื่อการทดสอบโควิด-19 ในครั้งนี้ถูกระงับลงชั่วคราว นั่นหมายความว่า การทดสอบวัคซีนในเฟสที่ 3 ของ Johnson & Johnson ซึ่งตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะต้องดำเนินการทดสอบทางคลินิกกับกลุ่มตัวอย่างราว 60,000 คนในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศทั่วโลก ได้แก่ บราซิล, อาร์เจนตินา, โคลอมเบีย, ชิลี, เม็กซิโก, เปรูและแอฟริกาใต้ ก็มีอันต้องหยุดชะงักลงไปด้วย
ทั้งนี้ Johnson & Johnson ถือเป็นบริษัทผู้พัฒนาวัคซีนโควิด-19 รายที่สิบของโลก และรายที่สี่ของสหรัฐอเมริกาที่เข้าสู่กระบวนการทดลองในเฟสที่ 3 โดยพวกเขาได้รับเงินทุนจากรัฐบาลราว 1.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเร่งกระบวนการพัฒนาวัคซีนให้เร็วยิ่งขึ้น
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: