บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา พบว่าบริษัทมีรายได้รวมสูงกว่า 13,140 ล้านบาท ส่งผลให้ครึ่งปีแรก 2563 บริษัทมีรายได้รวมทั้งจากธุรกิจสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโดฯ ที่ 19,960 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 1,830 ล้านบาท
ภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เอพี (ไทยแลนด์) ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก โดยมี Empower Living เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญขององค์กร
“ทั้งนี้ท่ามกลางสภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น บริษัทยังสามารถสร้างสถิติการเติบโตทางด้านรายได้ครั้งใหม่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยในครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบและกลุ่มคอนโดฯ (100% JV) มากถึง 19,960 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิ (Net Profit) 2 ไตรมาสแรกสูงถึง 1,830 ล้านบาท หากดูในส่วนของรายได้รวม (100% JV) เฉพาะไตรมาส 2 ที่ 13,140 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ แต่บริษัทยังคงดำเนินการขายและโอนกรรมสิทธิ์โครงการได้เกินจากที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนได้ถึงความมั่นใจของผู้บริโภค ตลอดจนกำลังซื้อที่ยังคงมีอยู่ และเชื่อว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น
“วันนี้คงต้องยอมรับว่าสินค้าแนวราบได้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งปีไปแล้ว อีกทั้งกลุ่มเป้าหมายของสินค้าก็อายุน้อยลง โดยในส่วนของสินค้าทาวน์โฮม จากการเฝ้าสังเกตเทรนด์การอยู่อาศัยและการตัดสินใจซื้อพบว่าลูกค้าที่ซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ทาวน์โฮมอายุน้อยลง โดยกว่า 40% เป็นกลุ่มลูกค้าที่อายุ 26-30 ปี ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพผู้นำตลาดทาวน์โฮมในเมืองอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงเดินหน้าตามแผนพลิกโฉมการอยู่อาศัยในทาวน์โฮมใหม่ภายใต้ The Longevity Matrix แนวคิดเพื่อสร้างพื้นที่ชีวิตที่เหนือกว่าทาวน์เฮาส์แบบเดิมๆ ด้วยการเชื่อมต่อสุนทรียะการอยู่อาศัยเข้ากับการออกแบบสเปซใน 3 องค์ประกอบสำคัญคือ 1. การพัฒนาส่วนกลางสำหรับคนทุกวัย 2. การสร้างพื้นที่อยู่อาศัยที่ให้ความเป็นส่วนตัวและคุ้มค่า และ 3. การสร้างสังคมแห่งการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ซึ่งทั้งหมดจะสะท้อนผ่านทาวน์โฮมแบรนด์บ้านกลางเมืองและพลีโน่ในมิติที่แตกต่างกันตามโพสิชันของแบรนด์ กับ 13 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 15,350 ล้านบาท” ภมรกล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้หากดูยอดขาย 7 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวมแล้วกว่า 18,175 ล้านบาท คิดเป็น 55% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ (เป้ายอดขายรวม 33,500 ล้านบาท) โดย 15,540 ล้านบาทเป็นยอดขายที่เกิดขึ้นจากสินค้าแนวราบ โตขึ้น 11% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และคิดเป็น 70% ของเป้ายอดขายแนวราบทั้งปีที่ 22,500 ล้านบาท ซึ่งยอดขายสินค้าแนวราบทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากโครงการที่อยู่ระหว่างการขายกว่า 85 โครงการ มูลค่าคงเหลือขาย 46,750 ล้านบาท (รวมโครงการแนวราบที่เปิดตัวใหม่ในครึ่งปีแรก 14 โครงการ มูลค่า 15,475 ล้านบาท)
ภมรกล่าวทิ้งทายว่า เอพียังคงมั่นใจว่าภาพรวมการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดแนวราบ โดยเฉพาะโครงการทาวน์โฮมในเครือเอพี สะท้อนจากเซนทิเมนต์ลูกค้าเยี่ยมชม ยอดจองและโอนทาวน์โฮมเครือเอพีเริ่มกลับสู่สภาวะปกติ (เฉลี่ยยอดขายแนวราบต่อสัปดาห์ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท) ตั้งแต่ในช่วงหลังการคลายล็อกดาวน์ ประกอบกับความพร้อมขององค์กรและทีมงานที่ยึดถือความต้องการของลูกค้าเป็นหัวใจในการดำเนินงานพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย จนสามารถส่งมอบสินค้าคุณภาพ ช่วยเติมเต็มทุกการใช้ชีวิตได้ตามที่ลูกค้าต้องการ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์