วันนี้ (10 สิงหาคม) เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พาร์ตเนอร์คนขับ GrabBike และกลุ่มสมาชิก Grab สันทนาการ (บนแพลตฟอร์ม Facebook) จำนวนกว่า 500 คน ได้ออกมารวมตัวกันบริเวณหน้าอาคารธนภูมิ ทาวเวอร์ สำนักงานใหญ่ของ Grab ประเทศไทย ชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องแพลตฟอร์มซูเปอร์แอปฯ กรณีดูแลพาร์ตเนอร์ไม่เป็นธรรม รวมถึงข้อกล่าวหาการถูกเอารัดเอาเปรียบ
พรเทพ ชัชวาลอมรกุล พาร์ตเนอร์คนขับ GrabBike และแอดมินกลุ่ม Grab สันทนาการ ในฐานะตัวแทนผู้นำการชุมนุมได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ระบุว่า สาเหตุที่ตัดสินใจออกมาประท้วง เกิดจากการที่กลุ่มพาร์ตเนอร์คนขับ GrabBike รู้สึกว่าพวกตน ‘ถูกเอารัดเอาเปรียบจนเกินไป’
ตั้งแต่กรณีการบังคับให้ซื้อเสื้อแจ็กเก็ต กระเป๋าจัดเก็บพัสดุ ไม่สามารถเลือกรับงานหรือยกเลิกงานได้ ไม่มีประกันอุบัติเหตุหรือประกันชีวิตคุ้มครองให้ในกรณีที่พาร์ตเนอร์คนขับประสบอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต ไปจนถึงการไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมจากบริษัท Grab ประเทศไทย ในกรณีที่ถูกวินมอเตอร์ไซค์ทำร้ายร่างกาย
“วันนี้ เราได้เป็นตัวแทนมายื่นจดหมายจำนวน 5-6 ฉบับ จากตัวแทน Grab ในจังหวัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พิษณุโลก, เชียงใหม่, สุราษฎร์ธานี, นครปฐม หรือขอนแก่น ให้ทาง Grab พิจารณาแก้ไขปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบที่เกิดขึ้น”
ตัวอย่างเช่น การทำงานของพาร์ตเนอร์คนขับ GrabFood ในต่างจังหวัด จะต้องขับรถออกไปซื้ออาหารในระยะทางประมาณ 7-8 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาการรอประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วขับไปส่งอาหารให้กับลูกค้าประมาณ 4-5 กิโลเมตร เพื่อแลกกับเงินค่าตอบแทนราว 15 บาท ซึ่งไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากร้านอาหารในต่างจังหวัดมีจำนวนน้อยกว่าร้านอาหารในกรุงเทพฯ ประกอบกับต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่สูงกว่า (ค่าตอบแทนพาร์ตเนอร์ในกรุงเทพฯ เริ่มต้นที่ราว 40 บาท)
สำหรับข้อเสนอที่กลุ่มพาร์ตเนอร์ Grab ได้ออกมาเรียกร้องในวันนี้ คือการขอให้ Grab ประเทศไทย พิจารณาการให้ค่าตอบแทนพาร์ตเนอร์คนขับในต่างจังหวัดให้สอดคล้องกับความเป็นจริง การันตีรายได้ที่แน่นอน ให้ความคุ้มครองดูแลพาร์ตเนอร์กรณีที่ประสบอุบัติเหตุจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสม รวมถึงแก้ปัญหาเรื่องการบังคับซื้อเสื้อและอุปกรณ์ต่างๆ ให้ได้ โดยจะให้ระยะเวลา 7-10 วันต่อจากนี้ในการดำเนินการ หากไม่เห็นท่าทีหรือสัญญาณเชิงบวกจาก Grab พรเทพก็ยืนยันว่าตนและกลุ่มพาร์ตเนอร์คนขับก็พร้อมจะออกมารวมตัวเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง
ขณะที่หลังเกิดเหตุชุมนุมประท้วง ทีมผู้บริหาร Grab ประเทศไทยก็ได้รับจดหมายจากตัวแทนพาร์ตเนอร์คนขับ พร้อมปล่อยแถลงการณ์ออกมา โดยระบุว่า “Grab ประเทศไทย ได้รับทราบถึงปัญหาและข้อเสนอแนะจากพาร์ตเนอร์คนขับในประเด็นต่างๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้ทำการติดต่อตัวแทนพาร์ตเนอร์คนขับ ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มคนขับในเขตกรุงเทพฯ โดยได้เชิญเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารเพื่อรับฟังถึงประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยกลุ่มตัวแทนพาร์ตเนอร์คนขับยืนยันที่จะรวมตัวกันที่บริเวณหน้าอาคาร ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทฯ”
โดยได้ชี้แจงข้อมูลในประเด็นที่เกี่ยวข้อง 3 ประเด็น ประกอบด้วย
- ปัญหาการรับงานที่เกิดขึ้นจากการแบ่งเขตพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี: Grab จึงได้ประกาศยกเลิกการแบ่งเขตพื้นที่ดังกล่าว โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจนกว่าระบบจะมีความพร้อมในการให้บริการแบบแบ่งเขตพื้นที่ และจะทำการสื่อสารให้พาร์ตเนอร์คนขับทราบรายละเอียดหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในอนาคต
- การเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในการเรียกใช้บริการจัดส่งพัสดุผ่าน GrabExpress: ที่ผ่านมา Grab ได้ประกาศให้พาร์ตเนอร์คนขับที่รับงานจัดส่งพัสดุผ่านบริการ GrabExpress จะต้องมีกระเป๋า Grab เพื่อบรรจุและจัดเก็บสินค้าหรือพัสดุที่ผู้ใช้บริการต้องการจัดส่ง อย่างไรก็ดี ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมเป็นต้นไป การจัดส่งสินค้าหรือพัสดุผ่านบริการ GrabExpress ด้วยรถจักรยานยนต์จะถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือต้องการกระเป๋า และไม่ต้องการกระเป๋า โดยผู้ใช้บริการจะสามารถเลือกได้ว่าต้องการใช้บริการแบบใด (สำหรับพาร์ตเนอร์คนขับที่เคยถูกยกเลิกไม่ให้รับงานหากไม่มีกระเป๋า บริษัทฯ ได้เปิดสิทธิให้สามารถรับงานจัดส่งพัสดุผ่านบริการ GrabExpress ได้แล้วนับตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา)
- การให้ความคุ้มครองในระหว่างการรับงาน: ที่ผ่านมาอาจมีพาร์ตเนอร์คนขับบางรายที่ไม่ทราบว่า Grab ได้จัดทำประกันอุบัติเหตุเพื่อให้ความคุ้มครองกับพาร์ตเนอร์คนขับของเราในทุกเที่ยวของการให้บริการ โดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างการรับงาน และให้ความคุ้มครองสูงสุด 200,000 บาท ในกรณีที่เสียชีวิต ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้มีการประกาศให้พาร์ตเนอร์คนขับรับทราบอีกครั้งผ่านทางแอปพลิเคชันของพาร์ตเนอร์คนขับ
“Grab ประเทศไทย ขอน้อมรับทุกความคิดเห็นของผู้ใช้บริการ รวมทั้งรับฟังข้อเสนอแนะจากพาร์ตเนอร์คนขับของเรา เพื่อนำมาใช้พิจารณาและปรับปรุงการให้บริการ ตลอดจนการบริหารงานในด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” Grab ประเทศไทย กล่าวผ่านแถลงการณ์
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์