×

ทรัมป์เผย ยังไม่คิดเจรจาข้อตกลงการค้าเฟส 2 กับจีน, Toyota กลับมาผลิตรถเต็มกำลังอีกครั้ง: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (13 ก.ค. 2563)

โดย FINNOMENA
13.07.2020
  • LOADING...
  • วันศุกร์ที่ผ่านมาทางการจีนเปิดเผยยอดการขอสินเชื่อใหม่ประจำเดือนมิถุนายนออกมาที่ 1.81 ล้านล้านหยวน สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เล็กน้อยที่ 1.80 ล้านล้านหยวน โดยเป็นการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า 22% ขณะที่ปริมาณเงินหยวนตามความหมายแบบกว้าง (Money Supply M2) ขยายตัว 11.1% (YoY) สะท้อนการเสริมสภาพคล่องและความต้องการใช้เงินกู้ที่เพิ่มขึ้น หลังจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ผล ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

 

  • เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่คิดถึงการเจรจาข้อตกลงการค้าเฟส 2 กับจีน หลังจากที่บรรลุข้อตกลงการค้าเฟส 1 ไปเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งระบุว่าความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศนั้นถูกทำลายไปมาก สืบเนื่องจากการระบาดของโควิด-19  

 

  • CNBC รายงานว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาเคยขึ้นไปถึง 2,000 รายต่อวันเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ปรับตัวลดลงจนน้อยกว่า 600 รายต่อวันในช่วงปลายเดือนมิถุนายนจนถึงช่วงต้นเดือนกรกฎาคม แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันจะปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 2 เท่าตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ขณะที่นักระบาดวิทยาเตือนว่า จำนวนผู้เสียชิวิตจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยเวลานี้จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันพุ่งทะลุค่าเฉลี่ย 600 รายต่อวัน เป็นระยะเวลา 3 วันติดต่อกัน ด้านลาร์รี เลวิตต์ รองประธานทีมนโยบายสาธารณสุขของมูลนิธิ Kaiser Family กล่าวว่า นี่เป็นเหตุการณ์ที่คาดเดาได้ เมื่อจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้จำนวนผู้เข้าโรงพยาบาลจะมากขึ้น และในท้ายที่สุดจำนวนผู้เสียชิวิตจะเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน

 

  • บริษัท Toyota Motor Corp. ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก เริ่มกลับมาดำเนินการผลิตเต็มกำลังอีกครั้ง หลังจากที่ลดกำลังการผลิตครั้งแรกสู่ระดับ 66.2% ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยในปัจจุบันมีเพียงโรงงานในประเทศเวเนซุเอลาที่ยังคงระงับการผลิตอยู่ แต่คาดว่าจะกลับมาดำเนินการผลิตอย่างเป็นทางการในวันนี้

 

  • วันเสาร์ที่ผ่านมาพรรคกิจประชาชน (People’s Action Party หรือ PAP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของสิงคโปร์ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุง ได้ออกแถลงการณ์ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไป โดยมี ส.ส. ได้รับการเลือกตั้ง 83 ที่นั่ง จากทั้งหมด 93 ตำแหน่ง คิดเป็นกว่า 89% ของที่นั่งทั้งหมด อย่างไรก็ตามคะแนน Popular Vote หรือความนิยมทั้งหมดนั้นลดลงจากการเลือกตั้งครั้งก่อนหน้าที่ 69.9% เหลือเพียง 61.24% เท่านั้น จากความไม่พอใจต่อการเปิดรับชาวต่างชาติจำนวนมาก ส่งผลให้ชาวสิงคโปร์ตกงาน ปัญหาค่าครองชีพสูง และการเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงที่สุดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 

 

ภาวะตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น แม้ว่าจำนวนผู้ติดโควิด-19 จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม แต่จากความคืบหน้าของการผลิตยารักษาโรคโควิด-19 ของบริษัท Gilead ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังคลายความกังวลจากปัจจัยดังกล่าวสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังตัวเลขเศรษฐกิจของฝรั่งเศสและอิตาลีออกมาดีกว่าที่คาด บ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

 

  • สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์ของ IEA ที่ปริมาณความต้องการใช้น้ำมันโลกเริ่มเพิ่มขึ้น หลังหลายๆ ประเทศเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ ด้านสัญญาทองคำปรับตัวลงจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าที่คาดในช่วงก่อนหน้านี้ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมา

 

สหรัฐฯ

  • Dow Jones อยู่ที่ 26075.3 เพิ่มขึ้น 369.21 (1.44%)
  • S&P 500 อยู่ที่ 3185.04 เพิ่มขึ้น 32.99 (1.05%)
  • Nasdaq อยู่ที่ 10617.44 เพิ่มขึ้น 69.69 (0.66%)

 

ยุโรป

  • DAX อยู่ที่ 12633.71 เพิ่มขึ้น 144.25 (1.15%)
  • FTSE 100 อยู่ที่ 6095.41 เพิ่มขึ้น 45.79 (0.76%)
  • Euro Stoxx 50 อยู่ที่ 3296.22 เพิ่มขึ้น 35.05 (1.07%)
  • FTSE MIB อยู่ที่ 19767.6 เพิ่มขึ้น 261.65 (1.34%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 อยู่ที่ 22290.81 ลดลง -238.48 (-1.06%)
  • S&P/ASX 200 อยู่ที่ 5919.2 ลดลง -36.3 (-0.61%)
  • Shanghai อยู่ที่ 3383.32 ลดลง -67.27 (-1.95%)
  • SZSE Component อยู่ที่ 13671.24 ลดลง -83.5 (-0.61%)
  • China A50 อยู่ที่ 15824.7 ลดลง -405.59 (-2.5%)
  • Hang Seng อยู่ที่ 25727.41 ลดลง -482.75 (-1.84%)
  • Taiwan Weighted อยู่ที่ 12073.68 ลดลง -119.01 (-0.98%)
  • SET อยู่ที่ 1350.5 ลดลง -15.31 (-1.12%)
  • KOSPI อยู่ที่ 2150.25 ลดลง -17.65 (-0.81%)
  • IDX Composite อยู่ที่ 5031.26 ลดลง -21.54 (-0.43%)
  • BSE Sensex อยู่ที่ 36594.33 ลดลง -143.36 (-0.39%)
  • PSEi Composite อยู่ที่ 6197.38 เพิ่มขึ้น 4.8 (0.08%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI อยู่ที่ 40.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.91 (2.3%)
  • ราคาน้ำมันเบรนท์ อยู่ที่ 43.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.93 (2.2%)
  • ราคาทองคำ อยู่ที่ 1799.3 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -4.72 (-0.26%)

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: 

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuters
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising