เซอร์เวนคาตรามัน รามกฤษณัน ศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาและประธานราชสมาคมแห่งลอนดอน (Royal Society) อันเป็นสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยรายงานผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัยสองฉบับ แสดงให้เห็นหลักฐานยืนยันว่าหน้ากากอนามัยนั้นสามารถปกป้องผู้สวมใส่และคนที่อยู่ใกล้เคียงจากการติดโควิด-19 ได้ พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย หากออกจากบ้านหรืออยู่ในที่สาธารณะที่มีฝูงชนจำนวนมาก
ศาสตราจารย์รามกฤษณันระบุว่า ประชาชนในสหราชอาณาจักรมีอัตราการใช้หน้ากากอนามัยที่น้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับหลายประเทศ ถึงแม้ปัจจุบันรัฐบาลจะมีข้อแนะนำให้ประชาชนทั่วประเทศสวมหน้ากากอนามัยหากอยู่ในที่สาธารณะ และบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อใช้บริการระบบขนส่งต่างๆ ซึ่งสวนทางกับท่าทีของกระทรวงสาธารณสุขสหราชอาณาจักรที่เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าไม่มีความจำเป็นที่ประชาชนต้องสวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน
ข้อมูลในปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่า มีประชาชนในสหราชอาณาจักรเพียง 25% ที่สวมหน้ากากอนามัย ซึ่งน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับอิตาลี ที่มีประชาชนสวมหน้ากากอนามัยกว่า 83.4% สหรัฐอเมริกา 65.8% และสเปน 63.8%
จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ประชาชนจำนวนมากยังคง ‘กังขา’ เกี่ยวกับประโยชน์ของการสวมหน้ากากอนามัย โดยศาสตราจารย์รามกฤษณันชี้ว่า สาเหตุมาจากความไม่ชัดเจนในการส่งข้อความของรัฐ อีกทั้งการให้ข้อแนะนำที่ไม่แน่นอน
“สิ่งที่เราต้องการสำหรับรัฐบาลคือความแข็งแกร่งและชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการส่งข้อความ และต้องการให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะที่มีฝูงชนแออัด ซึ่งคุณไม่สามารถรักษาระยะห่างจากบุคคลอื่นได้เกิน 2 เมตร” ศาสตราจารย์รามกฤษณันกล่าว พร้อมเสริมว่า การไม่สวมหน้ากากอนามัยควรถูกพิจารณาว่าเป็นการกระทำที่ต่อต้านสังคม เช่นเดียวกับเมาแล้วขับ หรือไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
“การไม่สวมหน้ากากอนามัยจะเพิ่มความเสี่ยงแก่ทุกคน ตั้งแต่บุคลากรทางการแพทย์ไปจนถึงยายของคุณ” เขากล่าว
ที่ผ่านมามีความเห็นหลากหลายจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในหน่วยงานที่ปรึกษาของรัฐบาลสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย โดยบางคนระบุหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการสวมหน้ากากอนามัยไม่ช่วยชะลอการระบาดของไวรัสในประเทศเอเชียได้ และกังวลว่าอาจเป็นการสร้างความรู้สึกปลอดภัยจากการติดเชื้อแบบผิดๆ
อย่างไรก็ตาม ข้อสรุปที่เป็นฉันทามติคือหน้ากากอนามัยนั้น อาจช่วยลดความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะแพร่กระจายไวรัสไปยังบุคคลอื่น
“เรามีความชัดเจนมากเกี่ยวกับประโยชน์ในการสวมหน้ากากอนามัย และการสวมหน้ากากช่วยให้เราปกป้องผู้อื่นและลดการแพร่กระจายของไวรัส หากมีผู้ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ” โฆษกทำเนียบนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรกล่าวภายหลังการแสดงความเห็นของศาสตราจารย์รามกฤษณัน และย้ำว่าควรสวมหน้ากากอนามัยปิดทั้งปากและจมูก เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อทางละอองฝอยที่มาจากการไอ จาม หรือพูด
ทางด้านศาสตราจารย์พอล เอเดลสไตน์ จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ในสหรัฐฯ ซึ่งเขียนรายงานผลการวิจัยอีกฉบับเกี่ยวกับประโยชน์และประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัย พบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการสวมหน้ากากอนามัยนั้นสามารถปกป้องผู้สวมใส่และคนรอบข้างได้ เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ติดโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการจำนวนมากและออกไปนอกบ้านเป็นประจำทุกวัน ซึ่งการสวมหน้ากากอนามัยจะช่วยป้องกันผู้ติดเชื้อไม่ให้แพร่กระจายไวรัสไปยังบุคคลอื่นได้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: