วันนี้ (4 มิถุนายน) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษรฎรได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. … ซึ่งมีหลักการและเหตุคือ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำเป็นต้องใช้งบประมาณในการแก้ไขผลกระทบต่างๆ ดังนั้นรัฐบาลจึงเห็นควรนำงบประมาณส่วนที่ยังไม่ได้เบิกจ่าย อาทิ งบดูงาน สัมมนา ประชุม หรือเดินทางไปต่างประเทศ หรืองบประชาสัมพันธ์ จ้างที่ปรึกษา และไม่มีภาระผูกพัน โดยโอนงบประมาณรายจ่ายที่หน่วยรับงบประมาณได้รับจัดสรรตาม พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ไปตั้งไว้เป็นงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
โดยในวันนี้มีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วง 09.30 น. ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าชี้แจงหลักการและเหตุผลต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนั้นเป็นการอภิปรายของสมาชิก โดยใช้เวลา 10 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 19.00 น. ได้อภิปรายเสร็จสิ้นและลงมติในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการ โดยมีมติดังนี้
จำนวนผู้ลงมติ 454 คน
เห็นด้วย 264 คน
ไม่เห็นด้วย 4 คน
งดออกเสียง 185 คน
ไม่ลงคะแนนเสียง 1 คน
จากนั้นจึงได้มีการเสนอตั้งกรรมาธิการ โดย อรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ เสนอตั้งกรรมาธิการวิสามัญ 49 คน โดยแบ่งสัดส่วนดังต่อนี้
- คณะรัฐมนตรี จำนวน 12 คน
- พรรคเพื่อไทย จำนวน 10 คน
- พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 9 คน
- พรรคภูมิใจไทย จำนวน 5 คน
- พรรคก้าวไกล จำนวน 4 คน
- พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 4 คน
- พรรคชาติไทยพัฒนา จำนวน 1 คน
- พรรคเสรีรวมไทย จำนวน 1 คน
- พรรคประชาชาติ จำนวน 1 คน
- พรรคเศรษฐกิจใหม่ จำนวน 1 คน
- พรรครวมพลังประชาชาติไทย จำนวน 1 คน
- พรรคเพื่อชาติ จำนวน 1 คน
- พรรคพลังท้องถิ่นไทย จำนวน 1 คน
ทั้งนี้ได้กำหนดเวลาของการแปรญัตติไว้ 3 วัน โดยมีการนัดประชุมนัดแรกในวันพรุ่งนี้ (5 มิถุนายน) เวลา 09.30 น. ซึ่งเมื่อกรรมาธิการแปรญัตติเสร็จสิ้นในวาระที่ 2 จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งในวาระที่ 3 ก่อนที่จะส่งต่อในวุฒิสภาพิจารณาและนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้ต่อไป