×

ตอบ 13 ข้อสงสัยสำหรับมือใหม่หัดปลูกต้นไม้ โดย วิทย์ ศิริวิทย์ แห่ง Little Tree Garden

27.05.2020
  • LOADING...

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจากสถานการณ์ที่ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องทำงานจากที่บ้านหรือ Work from Home การมีเวลาได้อยู่บ้านและลดการใช้ชีวิตบนท้องถนนลงบ้างทำให้หลายคนค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ตัวเองชอบ ความสามารถใหม่ๆ หรือมีโอกาสลงมือทำในสิ่งที่อยากลองทำมาเนิ่นนาน แต่โอกาสไม่เป็นใจสักที จนกระทั่งเวลานี้มาถึง 

 

การทดลองปลูกต้นไม้เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งจากเดิมที่การเกษตรเคยเป็นแค่วิชา หรือการปลูกต้นไม้คืองานอดิเรกของคุณพ่อคุณแม่ ทุกวันนี้ไม่ว่าจะวัยไหนต่างก็หันมาให้ความสนใจและพร้อมจะศึกษาหาความรู้กันเพิ่มเติมเพื่อปลูกต้นไม้และจัดสวนในบ้านให้สำเร็จด้วยกันทั้งนั้น 

 

นั่นเป็นที่มาของกิจกรรม POP Live ครั้งที่ 16 เมื่อวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ทางทีมงานของเราเดินทางไปเยี่ยมบ้านสวน ร้านอาหาร และคาเฟ่ของ วิทย์-ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง นักจัดสวนและเจ้าของร้าน Little Tree Garden เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเทรนด์การปลูกต้นไม้ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ส่งคำถามที่ตัวเองอยากรู้เข้ามาไขข้อข้องใจภายในรายการ ซึ่งสำหรับใครที่ดูไม่ทัน เราได้รวบรวมข้อสงสัย 13 คำถามสำหรับมือใหม่หัดปลูกไว้ให้ได้อ่านและนำไปปฏิบัติตามกันได้เลย   

 

  1. คำว่าแดดรำไรคือกี่เปอร์เซ็นต์ของพระอาทิตย์ 

คำว่าแดดรำไรคืออย่างน้อยๆ ต้นไม้โดนแดดสักประมาณ 3 ชั่วโมงต่อวัน หรือแสงจากพระอาทิตย์ตอนเช้าริมหน้าต่าง หรือการได้รับแดดจากใต้ต้นไม้ใหญ่ คนส่วนใหญ่จะนึกถึงแดดรำไรก็คือการนำต้นไม้ (ที่ต้องการแดดรำไร) ไปวางใต้ต้นไม้ใหญ่อีกที ซึ่งกรณีนี้อาจจะต้องระวังไม่ให้ใต้ต้นไม้ใหญ่นั้นร่มเกินไป คอยดูว่าให้ได้รับแสงในปริมาณที่พอเหมาะด้วย 

 

  1. ระหว่างกระถางดินเผากับกระถางพลาสติก อะไรดีกว่ากัน  

ดีคนละอย่าง กระถางดินเผาเหมาะสำหรับการปลูกเฟิร์นหรือพืชที่ต้องการความเย็น ความชื้น ตัวสปอร์มันอาจจะปลิวขึ้นไปตามส่วนต่างๆ ของดินเผาได้ ด้วยความที่เป็นวัสดุธรรมชาติ เนื้อของมันมีรูพรุนอยู่ กลายเป็นที่เพาะของต้นเฟิร์นได้ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเมื่อปลูกด้วยกระถางพลาสติก

ข้อดีของกระถางพลาสติกคือเบา เคลื่อนย้ายได้ง่าย ราคาถูกกว่า กระถางพลาสติกเหมาะสำหรับการเพาะชำ เพราะสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย และกรณีที่เอาไว้ในบ้าน อาจจะใส่ต้นไม้ในกระถางพลาสติกแล้วสวมด้วยกระถางดินเผาสวยๆ ไว้ตกแต่งอีกรอบ ทีนี้ถ้าต้องการเปลี่ยนต้นไม้หรือยกออกไปรับแดดชั่วคราวก็สามารถทำได้ง่าย 

 

  1. สัญญาณที่บ่งบอกว่าต้นไม้ของเรากำลังจะตาย 

วิธีที่ง่ายที่สุดคือการสังเกตใบ ต้นไม้ไม่สามารถพูดกับเราได้ ฉะนั้นเราต้องเป็นคนช่างสังเกตเอง สำหรับใบนั้นไม่ควรรอให้ร่วง เหลือง หรือหลุด หากสังเกตว่าใบมีอาการเหี่ยวหรือสลด เริ่มหงอย ซึมๆ หรือห่อลงมา อย่าด่วนสรุปว่าขาดน้ำอย่างเดียว เพราะการให้น้ำมากเกินไปแล้วรากเน่าก็ทำให้ใบแสดงอาการแบบนี้เหมือนกัน ถ้าต้นไม้เริ่มแสดงอาการแบบนี้ให้เช็กที่วัสดุปลูก เอานิ้วจิ้มดูว่าวัสดุปลูกของเราแห้งหรือชื้น ถ้าแห้งเป็นฝุ่นคือขาดน้ำ แต่ถ้าชื้นๆ อยู่แสดงว่าข้างล่างอาจจะมีเชื้อราหรือแบคทีเรีย แบบนี้ต้นไม้ก็จะเหี่ยวคาต้น 


เพราะฉะนั้นถ้าใบเริ่มสลด เราสามารถสังเกตระบบการให้น้ำก่อน บางทีอาจจะต้องรื้อขึ้นมาดูว่ารากเน่าหรือไม่ มีแมลงอะไรกินหรือไม่ จากนั้นตัดรากที่เน่าออกแล้วเปลี่ยนวัสดุปลูก แบบนี้ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน

 

  1. อยากปลูกไม้ดอก แต่พื้นที่ริมระเบียงมีแดดแค่ครึ่งวัน ควรปลูกต้นอะไร 

แดดครึ่งวันสำหรับไม้ดอกยังถือว่าเพียงพอ สามารถปลูกได้อยู่ ต้องดูว่าแดดอะไรด้วย เช่น แดดบ่ายจะแรงกว่า แต่สำหรับแดดเช้า ถ้าได้รับครึ่งวันเต็มๆ ยังสามารถปลูกได้หมด กุหลาบที่ต้องการแสงเยอะยังพอไหว ชมพูนุช แก้ว ราชาวดี เลือกตามความชอบว่าเราชอบไม้ไทย ไม้ฝรั่ง มีกลิ่นหอมหรือไม่มี

 

  1. แดดบ่ายมีผลต่อไม้รำไรหรือไม่ 

มีผล โดยเฉพาะช่วงเดือนที่ผ่านมา (เมษายน-พฤษภาคม) หลายคนอาจเกิดอาการใบไหม้เพราะแดดจัดมาก ควรจะต้องมีการขยับ เปลี่ยนตำแหน่งต้นไม้ หรือใช้อะไรมากันต้นไม้จากการได้รับแสงโดยตรง เช่น ต้นไม้ใหญ่ หรือสแลน อีกวิธีคือการเพิ่มน้ำช่วงเย็นอีกรอบหนึ่ง 

 

  1. สมัยเด็กเรามักได้ยินผู้ใหญ่บอกว่าให้นำกากกาแฟ เปลือกกล้วย หรืออะไรที่เป็นอินทรีย์ไปทิ้งใต้ต้นไม้ นั่นเป็นวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องหรือเปล่า

ทำได้จริง ไม่ได้เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะสิ่งเหล่านั้นให้แร่ธาตุกับต้นไม้ อย่างที่ร้านกาแฟสามารถเอากากกาแฟโรยหน้าดินหรือนำไปทำเป็นวัสดุผสมปลูกไปเลย กากจากแคปซูลกาแฟก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่ควรผึ่งให้แห้งก่อน สามารถใช้ได้ทั้งโรยหน้าดินหรือนำไปผสมเป็นวัสดุปลูก 

 

  1. ปลูกต้นไม้ในบ้านทำให้ยุงเยอะจริงหรือไม่ 

ยุงเยอะหรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของบ้านนั้นๆ ถ้าบริเวณรอบๆ บ้านนั้นยุงเยอะ ยุงก็จะมาอาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ เพราะฉะนั้นโอกาสที่บ้านเราที่ปลูกต้นไม้แล้วยุงจะเยอะก็มีเพิ่มขึ้น แต่เราก็มีวิธีป้องกันได้ เช่น ถ้าเราไม่เปิดประตูทิ้งไว้ ยุงก็ไม่เข้ามา หรือการคอยกำจัดบริเวณน้ำขังในบ้าน แบบนี้โอกาสที่จะมียุงก็น้อยลง 

 

  1. การเช็ดใบ เราสามารถใช้น้ำมันเช็ดใบเพื่อให้เงางามได้หรือไม่ 

เป็นวิธีที่ไม่แนะนำ เพราะมันไปขัดขวางการหายใจของต้นไม้ นักจัดดอกไม้จะมีสเปรย์สำหรับฉีดให้เงางาม แต่มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ เวลาจะเช็ดให้เช็ดทำความสะอาดปกติ เพราะต้นไม้เป็นตัวกรองฝุ่นให้เรา ยกตัวอย่างเช่น ไทรใบสัก พอปลูกอยู่ในบ้านสักพักจะสังเกตว่ามีฝุ่นเกาะหนา ให้เอาผ้าสะอาดชุบน้ำแล้วเช็ด 


สำหรับกรณีที่ต้นไม้มีเพลี้ยแล้วไม่อยากใช้น้ำยาฆ่าแมลง ให้ใช้น้ำผสมน้ำส้มสายชูเจือจาง หรือน้ำผสมน้ำยาล้างจานจางมากๆ เช็ดทำความสะอาด ก็จะช่วยให้ไม่มีเพลี้ยได้ 

 

  1. ที่บ้านมีการต่อเติมบ้านแล้วขุดดินขึ้นมาจำนวนหนึ่ง อยากทราบว่าดินเหล่านั้นสามารถใช้ปลูกต้นไม้ได้หรือไม่ 

ต้องนำมาผึ่งแดด ต้องตากดินก่อน ด้วยความที่ดินชั้นข้างล่างมีลักษณะเป็นดินเหนียวมากกว่า โอกาสที่ดินยังไม่เซตตัวหรือยังไม่แห้งก็มีมากกว่า เพราะฉะนั้นควรนำมาผึ่งให้แห้งก่อน แล้วค่อยเอามาผสมใบก้ามปู ผสมกาบมะพร้าว เพื่อใช้เป็นวัสดุปลูกอีกที 


แร่ธาตุจากหน้าดินมีคุณสมบัติที่ดีกว่า สำหรับดินชั้นล่างเป็นดินดานที่มีความแน่น มีความเค็มมากกว่า เหมาะกับการนำไปถมที่ทำถนนหรือทำอาคารมากกว่า 

 

  1. ต้นไม้อะไรที่เราไม่ควรปลูกที่บ้าน 

สำหรับคำถามนี้อาจจะขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ เช่น บางที่อาจจะไม่เหมาะกับไม้หนาม เพราะมีผู้ใหญ่หรือเด็กอยู่ หรือบางคนอาจจะเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยก็เป็นอีกศาสตร์หนึ่ง ซึ่งหากนอกเหนือจากศาสตร์นี้และการประเมินตามความเหมาะสมของพื้นที่ก็สามารถปลูกได้หมด 

 

  1. ต้นไม้ที่ปลูกในบ้านต้องได้รับการใส่ปุ๋ยบ่อยแค่ไหน 

สำหรับต้นไม้ในบ้านสามารถใส่ปุ่ยทุกๆ 3-4 เดือนได้ ระวังอย่าใส่ในปริมาณที่เยอะ เพราะการปลูกต้นไม้ในบ้านจะได้รับแสงน้อย การใส่ปุ๋ยเยอะเกินไปจะทำให้รากเน่า ต้นเน่าได้ ทางที่ดีที่สุดคือใส่ปุ๋ยออสโมโค้ท หรือปุ๋ยสูตร 3 เดือนแบบดูดซึมช้า แบบนั้นจะไม่ค่อยมีผลกับต้นไม้ 

 

  1. การซื้อต้นไม้ตามตลาดต้นไม้ บางทีเราพบว่าเป็นต้นที่เพิ่งปักชำใหม่ เราจะมีวิธีการเลือกซื้อดูแลไม้ที่เพิ่งปักชำมาอย่างไร 

ตอนนี้ด้วยความที่ไม้บางประเภทได้รับความนิยม มีความต้องการสูง บางร้านที่ขายอาจจะได้มีโอกาสปักชำ 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ก็ต้องนำออกมาขายตามความต้องการของตลาด วิธีง่ายๆ ที่เราสามารถสังเกตได้คือจากวัสดุปลูก ถ้ากาบมะพร้าวยังใหม่ ยังไม่มีการเซตตัว หรือสังเกตว่าไลเคนยังไม่เกาะ ก็สันนิษฐานได้ว่าเพิ่งผ่านการปักชำมาไม่นาน เราอาจจะถามแม่ค้าดูว่ารากติดหรือยัง เพราะสำหรับคนที่เริ่มปลูกใหม่จริงๆ ถ้ารากยังไม่ติด โอกาสที่นำกลับมาแล้วจะเลี้ยงไม่รอดก็มีสูง


เพราะฉะนั้นให้สังเกตจากวัสดุปลูกก่อน หรือสังเกตใบกับลำต้นว่ามันดูเซตตัวแล้วมากน้อยแค่ไหน ถ้าเพิ่งชำมาแรกๆ ต้นอาจจะยังห่อเหี่ยว ไม่หันหน้าเข้าหาแสงได้ตามธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้เราจะดูรู้ถ้าฝึกสังเกตต้นไม้ 

 

  1. ควรใช้น้ำอะไรรดน้ำต้นไม้ดีที่สุด น้ำประปา น้ำกรอง หรือน้ำดื่ม 

ถ้าเทียบระหว่างน้ำประปากับน้ำคลอง ขอเลือกน้ำคลองมากกว่า เพราะในน้ำมีปุ๋ย มีแร่ธาตุเยอะกว่า สำหรับน้ำประปา ถ้ามีคลอรีนเยอะจะมีผลกับต้นไม้ หรือน้ำบาดาลเอง ถ้ามีตะกอนเยอะ ตัวตะกอนหรือหินปูนก็จะไปเคลือบตัวใบ ราก ลำต้น ทำให้ต้นไม่เจริญงอกงาม หายใจไม่ถนัด แต่สำหรับบ้านหรือคอนโดฯ น้ำประปาที่ใช้อาจจะเป็นน้ำประปาที่ค้างถังปล่อยให้คลอรีนระเหยออกไปสักหน่อยก่อนแล้วค่อยน้ำมารดจะดีที่สุด  

 

 

ทิปส์สำหรับมือใหม่หัดปลูก

“พี่คิดว่าคนจะกลัว ถ้าเคยปลูกต้นอะไรแล้วไม่รอดก็จะไม่กล้าปลูก พี่ว่าเริ่มจากอย่าไปกลัว พี่เองก็ไม่ได้บอกว่าพี่เลี้ยงรอดทุกต้น บางอย่างมันอาจจะเลี้ยงยากสำหรับเรา หรือยากสำหรับคนเริ่มต้นใหม่ เพราะฉะนั้นเราลองเริ่มจากต้นไม้ง่ายๆ ก่อน อย่าเพิ่งไปโฟกัสที่ต้นไม้ที่เราชอบมากนัก ศึกษาเอาต้นไม้ที่เลี้ยงง่ายมาก่อน เพราะเราเชื่อว่าถ้าเขาเลี้ยงรอดต้นแรก เขาก็อยากจะเลี้ยงต้นต่อๆ ไป แล้วตอนนั้นความยากมันก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว เราเริ่มมีทักษะแล้ว เราเริ่มก้าวขาเข้ามาอยู่ในวงการแล้ว แล้วการที่ได้แบ่งปันหรือขยายพันธุ์ไม้มันก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกดี ทำให้เราอยากปลูกมันอีกต่อไปเรื่อยๆ” ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง นักจัดสวนและเจ้าของร้าน Little Tree Garden  

 

ดู POP Live ครั้งที่ 16 ย้อนหลังได้ที่ 

 

 

 

อ่านบทความ ‘เคล็ดลับบ้านสวยด้วย 10 ต้นไม้ที่เหมาะสำหรับการปลูกในบ้านโดยเฉพาะ’ ได้ที่ 

https://thestandard.co/10-trees-recommend-for-home/ 

 

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X