วานนี้ (2 พฤษภาคม) วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีและนักลงทุนชาวอเมริกันแห่งเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ รายงานในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า บริษัทขาดทุนในไตรมาสแรกกว่าเกือบ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) เนื่องจากพิษโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุนและภาคเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ซึ่งถือเป็นตัวเลขขาดทุนที่มีมูลค่ามากที่สุดตั้งแต่บริษัทก่อตั้งมา
อีกทั้งเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ยังได้เทขายหุ้น 4 สายการบินยักษ์ใหญ่ที่ถือครองอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Delta Air Lines, Southwest Airlines, United Airlines และ American Airlines เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังลงทุนในภาคธุรกิจการบินจำนวนมหาศาล โดยเขาเชื่อว่า ภาคธุรกิจนี้อาจจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาและเงินลงทุนจำนวนมากกว่าจะกลับมาฟื้นฟูได้อีกครั้ง
เขายอมรับว่า อาจตัดสินใจผิดพลาดที่เลือกลงทุนในภาคธุรกิจนี้ โดยโรคระบาดที่เกิดขึ้น ได้เปลี่ยนมุมมองที่เขามีต่อภาคธุรกิจนี้ไปโดยสิ้นเชิงภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวไม่ได้เกิดจากข้อผิดพลาดของสายการบินเหล่านี้แต่อย่างใด
บัตเฟตต์ในวัย 89 ปี ผ่านวิกฤตครั้งสำคัญมามากมาย ทั้งเหตุการณ์วิกฤตขีปนาวุธคิวบา, สงครามเย็น, โศกนาฏกรรม 9/11 รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008 แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดูสิ้นหวัง แต่สหรัฐอเมริกาก็ฟื้นตัวกลับมาได้ตลอด โดยเขายังคงเชื่อมั่นว่า ท้ายที่สุดสหรัฐฯ จะสามารถเอาชนะโรคระบาดอย่างโควิด-19 และก้าวข้ามผ่านมันไปได้เหมือนกับทุกวิกฤตที่เคยผ่านมา
“ประเทศแห่งนี้ไปไกลเกินกว่าความฝันของใครต่อใคร
“คุณยังเดิมพันข้างสหรัฐอเมริกาได้ แต่คุณจะต้องรู้วิธีเดิมพันอย่างระมัดระวัง เพราะตลาดสามารถทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง”
ภาพ: Daniel Zuchnik / WireImage / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- https://edition.cnn.com/2020/05/02/investing/warren-buffett-berkshire-hathaway-meeting/index.html
- https://finance.yahoo.com/news/warren-buffett-says-coronavirus-cannot-024255388.html
- https://www.nytimes.com/reuters/2020/05/03/business/03reuters-berkshire-buffett.html?searchResultPosition=5