ปฏิเสธไม่ได้ว่าวิกฤตแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐฯ ที่ตอนนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก รวมกว่า 160,000 คนนั้น เป็นผลจากการเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการตรวจหาเชื้อของรัฐบาล ที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งการตรวจเชื้อในห้องปฏิบัติการ และการตรวจเชื้อแบบขับรถผ่าน (Drive-Through)
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด หรือ CDC ของสหรัฐฯ เผยแพร่ข้อมูลบันทึกการตรวจเชื้อจากห้องปฏิบัติการของ CDC และห้องปฏิบัติการของหน่วยงานสาธารณสุข (Public Health Laboratory) พบว่า ตอนนี้มีการตรวจเชื้อเป็นวงกว้างทั่วทั้ง 50 รัฐ และ 6 เขตแดนในปกครอง เช่น เกาะกวม อเมริกันซามัว และเปอร์โตริโก
ขณะที่เว็บไซต์ covidtracking.com ซึ่งรวบรวมข้อมูลการตรวจโควิด-19 รายงานว่า วันที่ 4 มีนาคม มีการตรวจเชื้อในสหรัฐฯ จำนวนทั้งสิ้นเพียง 866 คน ใน 14 รัฐ แต่วันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา มีการตรวจเชื้อสะสมใน 50 รัฐ และ 6 เขตแดน รวมแล้วถึง 831,351 คน ในจำนวนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ผลตรวจยืนยันเป็นบวก 139,061 คน และผู้ที่ผลตรวจเป็นลบหรือไม่ติดเชื้อ 692,290 คน และอีก 65,549 คน ยังคงอยู่ระหว่างรอผล
จากข้อมูลดังกล่าว พบว่าอัตราตรวจหาโควิด-19 ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม ภายหลังสภาคองเกรสมีมติผ่านกฎหมายให้ชาวอเมริกันทุกคนสามารถรับการตรวจเชื้อได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทำให้ยอดตรวจเชื้อทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็นวันละกว่า 30,000 คน และเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนกระทั่งช่วงวันที่ 26 ถึง 29 มีนาคม พบว่ายอดตรวจเชื้อเพิ่มสูงถึงวันละกว่า 100,000 คน
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าตัวเลขการตรวจหาเชื้อดังกล่าวอาจจะยังไม่ตรงกับตัวเลขจริง เพราะยังมีชาวอเมริกันอีกจำนวนมากที่ใช้บริการตรวจหาเชื้อจากห้องปฏิบัติการของเอกชน ซึ่งไม่ได้รับการบันทึกข้อมูลการตรวจหาเชื้อโดย CDC
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์อ้างว่า สหรัฐฯ นั้นตรวจโควิด-19 ให้ประชาชนมากกว่าประเทศใดในโลก ซึ่งตัวเลขการตรวจเชื้อในสหรัฐฯ ณ วันนั้น อยู่ที่ราว 370,000 คน ขณะที่ทรัมป์ ระบุว่าสหรัฐฯ ใช้เวลา 8 วัน ตรวจหาเชื้อมากกว่าเกาหลีใต้ ที่ใช้เวลาถึง 8 สัปดาห์ (ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม ถึง 24 มีนาคม)
อย่างไรก็ตาม สื่อต่างประเทศรายงานว่าตัวเลขการตรวจเชื้อของสหรัฐฯ อาจจะไม่บ่งชี้ว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าเกาหลีใต้ เพราะหากเปรียบเทียบอัตราการตรวจเชื้อต่อจำนวนประชากร จะพบว่ายอดตรวจโควิด-19 ในสหรัฐฯ ยังน้อยกว่าเกาหลีใต้ถึง 6 เท่า โดยสหรัฐฯ มีประชากร 329 ล้านคน แต่มีอัตราตรวจหาเชื้อเพียง 1,048 คน ต่อประชากร 1 ล้านคน ขณะที่เกาหลีใต้ มีอัตราตรวจหาเชื้อถึง 6,764 คน ต่อประชากร 1 ล้านคน
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ thestandard.co/coronavirus-coverage
และอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของโรคโควิด-19 ได้ที่ www.facebook.com/thestandardth
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: