จากกรณีเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏข่าวแม่ค้าไข่ไก่เมืองนครสวรรค์ถูกจับกุมเนื่องจากขายไข่ไก่เกินราคา ซึ่งคดีนี้มีอัตราโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับ 140,000 บาท
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคม รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และ กมธ. กฎหมายฯ ของสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อติดตามความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากมีความกังวลว่าจะเป็นการดำเนินการทางกฎหมายที่กระทบต่อผู้ค้ารายย่อยในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
โรมระบุว่า ได้เดินทางลงพื้นที่ที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อติดตามประเด็นดังกล่าว พบว่าแม่ค้ารายดังกล่าวได้รับการประกันตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (26 มีนาคม) โดยใช้ตำแหน่งราชการของญาติแทนการวางหลักทรัพย์ ซึ่งพนักงานสอบสวนกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ 100,000 บาท (ซึ่งถือว่าเป็นวงเงินที่สูง)
ในส่วนของประเด็นราคาไข่ไก่ที่จำหน่ายหน้าร้านนั้น ทางแม่ค้ายืนยันว่าตนเองได้กำไรต่อแผงเพียงแค่ 10-15 บาทเท่านั้น เนื่องจากราคาที่รับมาอยู่ที่ 140-145 บาทต่อแผงสำหรับไข่ไก่เบอร์ 0
ตนจึงได้ตรวจสอบราคาจากผู้ประกอบการขายส่งไข่ไก่ เบื้องต้นพบว่าราคาไข่ไก่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 มีราคาแพงขึ้นจริง ซึ่งมีปัจจัยมาจากต้นทุนการเลี้ยงไก่สูงขึ้น รวมทั้งปัจจัยจำนวนโควตาแม่พันธ์ุไก่ไข่ตามที่รัฐบาลกำหนด
โรมระบุอีกว่า อันที่จริงเกษตรกร รวมทั้งผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ต้องแบกรับภาระขาดทุนมาโดยตลอด คือยิ่งขายจำนวนเยอะยิ่งขาดทุน สำหรับราคาขายไข่ไก่ทุกขนาดจะมีราคาแพงขึ้นจากปี 2562 ประมาณฟองละ 1 บาท
ยกตัวอย่างราคาขายปลีกคละเบอร์ ตกแผงละ 116 บาท ในขณะที่ราคาตามประกาศของสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ (คละ) อยู่ที่แผงละ 84 บาท ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร และประกาศ กกร. ฉบับที่ 53 พ.ศ. 2562 การกำหนดไข่ไก่เป็นสินค้าควบคุม
ในกรณีนี้พาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ใช้ราคา 84 บาทต่อแผง เป็นราคากลาง บวกกับการคำนวณทางวิชาการ จึงแจ้งความจับกุมแม่ค้าคนดังกล่าวว่าผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 29 จำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร มีโทษความผิดตามมาตรา 41 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท
แน่นอนว่าในกรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับผู้บริโภค แต่จากข้อมูลที่ผมได้ลงพื้นที่พบว่า ราคาขายส่งนั้นสูงกว่าราคากลางอยู่พอสมควร การที่มีการจับกุมผู้ค้ารายย่อยโดยการแจ้งข้อหาที่มีอัตราโทษสูง ไม่ได้ทำให้ราคาไข่ไก่ถูกลงแต่อย่างใด
แน่นอนว่ามีการขายไข่ไก่แพงจริงในหลายพื้นที่ ตนเองก็ได้พบเห็นด้วยตัวเอง ในห้างสรรพสินค้าบางแห่งในกรุงเทพมหานครว่ามีการขายไข่ไก่แพงเกินไป (บางแห่งไข่ไก่เบอร์ 2 ฟองละเกือบ 6 บาท)
โรมระบุว่า ในกรณีนี้ตนเองมีข้อเสนอเบื้องต้นว่า กระทรวงพาณิชย์ควรสำรวจราคาขาย ราคาต้นทุนในตลาดไข่ไก่ทั้งระบบ เพื่อที่จะทราบราคากลางของตลาดที่แท้จริง และอาจกำหนดราคากลางใหม่ เพราะการใช้ราคากลางเมื่อปี 2562 มาเปรียบเทียบแล้วจับกุมผู้ค้ารายย่อย นอกจากจะไม่สามารถควบคุมราคาไข่ไก่ให้ถูกลงได้แล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมประชาชนในกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเข้าไปใหญ่
รัฐบาลควรมีมาตรการเร่งด่วนและจริงจังในการสร้างสมดุลของราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน มิเช่นนั้นจะกระทบทั้งคนซื้อและคนขาย
นอกจากนี้ตนเสนอไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ในส่วนของการจับกุมและการใช้ดุลพินิจในการกำหนดวงเงินหลักทรัพย์ในการประกันตัว ควรใช้เกณฑ์ขั้นต่ำไว้ก่อน เพราะมีแนวโน้มว่าคนที่อาจจะถูกแจ้งข้อกล่าวหานี้อาจเป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย การหาเงินมาประกันตัว 1 แสนบาทนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพี่น้องพ่อค้าแม่ค้า
สุดท้ายกรณีราคาไข่ไก่คงเป็นอีกประเด็นที่สะท้อนประสิทธิภาพในการเตรียมการรับมือกับสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ของรัฐบาล ซึ่งแม้จะเริ่มมีผู้ป่วยรายแรกในประเทศไทยตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2563 แต่การเตรียมการต่างๆ นับตั้งแต่เรื่องปริมาณหน้ากากอนามัย เรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ จนถึงล่าสุดเรื่องราคาไข่ไก่
พอเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลน่าจะวิเคราะห์ได้แล้วว่าทิศทางจะเลวร้ายลง แต่รัฐบาลไม่มีแนวทางป้องกันเรื่องเหล่านี้เลย จนสุดท้ายวันนี้ภาระต้องตกมาอยู่ที่ประชาชน นับว่ารัฐบาลสายตาสั้นมากๆ ครับ
สุดท้ายโรมระบุด้วยว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ ตนได้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือโดยใช้เจลแอลกอฮอล์ทุกๆ 1 ชั่วโมง และพยามลงจากรถน้อยที่สุดตามมาตรการ Social Distancing
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า