วันนี้ (21 มีนาคม) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 หารือมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหยุดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง จนอาจส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กระจายขยายวงกว้าง
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติสั่งปิดสถานประกอบการตามมาตรา 35 พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เพิ่มเติม เป็นระยะเวลา 22 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 12 เมษายน 2563
โดยสถานที่เสี่ยงปิดเพิ่มเติม ได้แก่
-สปา นวดเพื่อสุขภาพ
-สถานบริการควบคุมน้ำหนัก
-สปาอาบน้ำ ตัดขนสัตว์
-ลานสเกตหรือโรลเลอร์เบด
-กิจการเสริมสวย และคลินิกเสริมความงาม
-สวนสนุก โบว์ลิง ตู้เกม
-กิจการบริการคอมพิวเตอร์
-สนามกอล์ฟ สนามฝึกซ้อมกอล์ฟ
-สระว่ายน้ำ
-กิจการสักผิว
-กิจการบริการเลี้ยงและดูแลเด็กที่บ้าน
-บริการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
-สนามพระ
-สนามชนไก่ และสนามซ้อมชนไก่
-สถานที่จัดประชุมและนิทรรศการ
-ตลาดทุกประเภท ยกเว้นแผงของสด และแผงค้าที่จำหน่ายอาหารตามความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน
-ห้างสรรพสินค้า ยกเว้นส่วนซูเปอร์มาร์เก็ต
-สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย สถานศึกษารัฐ เอกชน โรงเรียนประจำ โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนสอนศาสนา โรงเรียนกวดวิชาทุกแห่ง
-สถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย บัณฑิตวิทยาลัย ทั้งของรัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันอบรมวิชาชีพทั่วกรุงเทพฯ
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังขอความร่วมมือหน่วยงานเอกชนให้อนุญาตพนักงานทำงานที่บ้าน ส่วนหน่วยงานของรัฐให้ใช้วิธีเหลื่อมเวลาหรือสลับวันการทำงานตามความเหมาะสม ส่วนระบบขนส่งมวลชนขอให้จัดเว้นระยะที่นั่งเพื่อลดความแออัดของผู้โดยสาร และขอความร่วมมือประชาชนลดการเดินทางไปในที่มีคนหนาแน่น
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนไม่ต้องกักตุนสินค้า ร้านอาหารยังเปิดตามปกติ เพียงแต่ขอให้ปรับรูปแบบเป็นแบบกล่องกลับบ้าน (take away) และซูเปอร์มาร์เก็ตก็ยังเปิดตามปกติ ร้านสะดวกซื้อให้หมั่นทำความสะอาด มีจุดบริการแอลกอฮอล์บริเวณทางเข้า เพื่อความสะอาด ปลอดภัย
ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ล่าสุด พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 89 ราย รวมยอดสะสม 411 ราย แบ่งเป็น รักษาหายแล้ว 44 ราย ยังรักษาอยู่ 366 ราย ในนี้มีอาการหนัก 7 ราย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์