เสียงเพลงร็อกแอนด์โรลเปิดคลอเป็นจังหวะไปพร้อมกับการเขย่าค็อกเทลของ ลูก้า โลโดลี ผู้เป็นเจ้าของ Barbon ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 3 ของเกสต์เฮาส์ Hostel URBY คำว่า Bon (บง) ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ดี ชื่อบาร์แห่งนี้จึงมีความหมายทั้งบาร์ที่อยู่ชั้นบนในภาษาไทย และบาร์ดีในภาษาฝรั่งเศส ลูก้าตั้งใจสร้างสรรค์พื้นที่นี้เป็นดินแดนของบทสนทนาเคล้ารอยยิ้มและกลิ่นรสของเหล่าแอลกอฮอล์ชั้นดี ซึ่งเสียงตอบรับที่ได้ เป็นแรงกระตุ้นต่อการทำร้านของเขาเสมอมา
“ผมอยากทำร้านที่มีเครื่องดื่มที่ทุกคนชื่นชอบ ลูกค้าที่มาที่ Barbon สามารถเพิ่มเติมรสชาติหรือปรับตามสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ ถ้าแขกที่มาได้รับประสบการณ์ที่ดีและชื่นชอบกับสิ่งที่เราเสิร์ฟ ผมก็พอใจมากแล้วครับ” เขาบอกขณะเขย่าเครื่องดื่มอยู่ในมือ
ลูก้า โลโดลี
ลูก้าเข้ามารับช่วงต่อร้าน Barbon เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 เขาเคยทำงานทางด้านการตลาดและเป็นบาร์เทนเดอร์ที่ประเทศอังกฤษและอิตาลี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่เมืองไทย ทำงานด้านอิมพอร์ตไวน์อยู่สักระยะ ก่อนจะผันตัวเองสู่วงการบาร์ในปัจจุบัน
“ที่นี่เริ่มจากเจ้าของหุ้นส่วนคนไทย 3 คน มารวมกัน คนหนึ่งทำร้านกาแฟ คนหนึ่งทำโฮสเทล และอีกคนทำบาร์ ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีก่อน ประมาณเดือนเมษายน Barbon เปิดอย่างเป็นทางการ ผมมีโอกาสได้มาที่นี่ เพราะว่าแฟนผมเป็นเพื่อนกับหุ้นส่วนของร้านนี้ ผมชอบทั้งบรรยากาศและคาแรกเตอร์ของร้าน แต่ตอนนั้นยังไม่ได้สนใจที่จะทำครับ ส่วนหนึ่งเพราะผมพักอยู่แถวจตุจักร ซึ่งค่อนข้างไกลจากที่นี่ด้วย แต่สุดท้ายผมว่ามันมีความลงตัวในหลายๆ อย่าง ผมจึงตัดสินใจมาทำร้านนี้ต่อในที่สุด”
The Vibe
ถ้าการไปบาร์สักแห่งคือการปล่อยตัวเองให้ไหลไปพร้อมกับบรรยากาศ Barbon เป็นอีกบาร์ที่คุณควรไหลเข้ามาดื่มด่ำ ระเบียงด้านนอกของร้านเป็นไฮไลต์ที่ต้องมาเห็นกับตา คุ้งแม่น้ำเจ้าพระยาอวดตัวสวยตัดกับแดดอ่อน เมื่อพระอาทิตย์ลับฟ้า แสงไฟด้านในของร้านถูกหรี่ให้สลัว โดยมีผนังปูนเปลือยฉาบด้วยเฉดของแสงนีออนหลากสี เป็นฉากหลังที่แปลกตาแต่ดูดี เข้าท่าและเร้าร้อน ความเท่ที่นอกจากจะลงตัวกับพื้นที่แล้ว ยังกระตุ้นความรู้สึกอยากดื่มได้ดีเสียด้วย
“บรรยากาศเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยยกระดับเครื่องดื่ม ผมชอบการได้เห็นพระอาทิตย์ตก ซึ่งสวยงามมาก ผมมองว่าวิวจากแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหนึ่งในวิวที่ดีที่สุด ที่นี่ระหว่างสัปดาห์ ลูกค้าส่วนใหญ่ชอบออกไปนั่งดูบรรยากาศด้านนอก จิบเบียร์ ใช้เวลาพักผ่อน ผมว่าตรงนี้เป็นสถานที่หนึ่งที่เจ๋งมากๆ”
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาบาร์สักแห่งที่มีบรรยากาศเหมาะกับการนั่งพักอย่างแท้จริง แต่สำหรับร้าน Barbon แล้ว ภาพทิวทัศน์ตรงหน้าเป็นเสมือนโบนัสที่พร้อมแจกให้กับแขกที่มาเยือน
“คอนเซปต์ในการทำบาร์ของผมคือ การนำเสนอเครื่องดื่มรสชาติดีที่ทำจากวัตถุดิบที่ดี พร้อมเสิร์ฟให้กับกลุ่มเพื่อนหรือคนที่อยากจะหามุมสบายๆ นั่งดื่มไปพร้อมกับดนตรีที่ชอบ แต่ผมไม่ได้หมายความถึงสถานที่ที่สมบูรณ์แบบ หรือทุกอย่างต้องเพอร์เฟกต์ไปเสียหมด แต่ผมแคร์กับสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากกว่า เพราะอยากให้คนที่มาที่นี่ได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไปด้วย”
ไม่เพียงบรรยากาศที่ทั้งรื่นรมย์และน่าสังสรรค์ แต่บนบาร์แห่งนี้ยังชวนสร้างปฏิสัมพันธ์ สิ่งหนึ่งที่ลูก้าใส่ใจทำเสมอคือ การพูดคุยกับลูกค้า ถามความต้องการในแบบเฉพาะตัวที่บางครั้งเป็นการรีเสิร์ชข้อมูลของรสชาติไปในตัว
“ผมชอบที่จะพูดคุยกับลูกค้าที่แวะมาที่ร้านอยู่แล้ว แต่ปกติผมคุยไม่เก่งนะ คนอิตาเลียนเป็นคนเงียบๆ (หัวเราะ) แต่สิ่งที่ผมทำอยู่คือ การได้แลกเปลี่ยนและทำความรู้จักกับลูกค้า ยิ่งการทำงานบาร์ด้วยแล้ว เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะต้องสร้างความเป็นกันเอง อย่างในประเทศอังกฤษ พวกเขาไม่ค่อยคุยกับลูกค้ามากเท่าไร ออกจะอายๆ นะผมว่า แต่สำหรับผมกับการทำงานที่นี่ ผมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ควบคู่ไปกับการเสิร์ฟเครื่องดื่มที่ดีให้แก่ลูกค้า”
ด้วยแบ็กกราวด์ของคุณลูก้าที่จบทางด้านสื่อสารการตลาด และศึกษาต่อทางด้าน Food and Beverage ที่ประเทศอิตาลี เขาจึงให้ความสำคัญกับการใส่ใจในรายละเอียดที่ลูกค้าของเขาจะได้รับเป็นสำคัญ ซึ่งเขาอยากต่อยอดพื้นที่ของ Barbon ไปสู่การจัดเวิร์กช็อปเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวด้านอาหารและเครื่องดื่มจากประสบการณ์ตรงที่เขาได้เรียนมา
“ผมอยากให้ลูกค้าได้ดื่มเครื่องดื่มที่ทำมาจากวัตถุดิบที่ดีในราคาไม่สูง ซึ่งผมมองว่าในกรุงเทพฯ บาร์ค็อกเทลที่ราคาไม่แพงเป็นเรื่องที่หายาก แต่สำหรับที่นี่ ผมอยากให้มันเป็นอย่างนั้น เราอาจไม่ได้กำไรที่สูงมากถ้าเทียบกับต้นทุน แต่ผมอยากให้ราคามันอยู่ตรงกลางที่ลูกค้าแฮปปี้ ซึ่งเราก็ทดแทนด้วยการทำอีเวนต์เข้ามาเสริมในส่วนของรายได้ หรือในตอนนี้ผมยังหาโอกาสที่จะจัดเวิร์กช็อปอย่างการจัด Wine Tasting ขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งผมหวังว่าภายในปีนี้จะได้เห็นกัน”
The Drinks
“เครื่องดื่มที่ดีหมายถึงเครื่องดื่มที่เราใส่ใจและตั้งใจทำ ซึ่งรวมถึงค็อกเทลที่นำส่วนผสมที่ดีมาผสมผสานกัน อย่างน้อยคนที่ได้ลองดื่มจะต้องรู้ว่าเราตั้งใจทำอย่างจริงใจ” ในการสร้างสรรค์เครื่องดื่มในแต่ละแก้ว ลูก้าบอกว่า จะต้องใส่จิตวิญญาณเพื่อสื่อถึงความตั้งใจในแต่ละแก้วลงไปด้วย
“เมนูเครื่องดื่มของเราค่อนข้างหลากหลาย เราพยายามปรับเปลี่ยนเมนูเครื่องดื่มอยู่ตลอด ผมอยากให้เครื่องดื่มที่ร้านมีความซิมเพิลแต่ชัดเจนในแต่ละตัว ทั้งไทยคราฟต์เบียร์ที่หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป หรือค็อกเทลเอง ที่ลูกค้าเลือกดื่ม ส่วนมากเป็นพวก Mojito ซึ่งดื่มง่ายและทุกคนรู้จักกันดี และเมนูเด่นจากทางร้านอย่าง Shake the Passion ที่มีรสชาติที่ให้ความสดชื่น ทานง่าย แต่ก็มีเครื่องดื่มบางตัวที่ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไรนัก อย่าง Phuket Mule ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่สามารถทำให้เราสดชื่นได้เหมือนกัน หากคุณเจอกับแดดร้อนๆ ด้านนอกมา หรือ House Signature ของร้านอย่าง Barbon Sour ก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะรสชาติเปรี้ยวหวาน ดื่มง่าย และตัวสุดท้ายที่ผมอยากแนะนำคือ Orange Crust ที่รสชาติอาจจะเบาหน่อย แต่ถ้าหยุดตัวเองไม่ได้ก็ได้เรื่องอยู่เหมือนกัน”
Phuket Mule (ราคา 190 บาท) เป็นค็อกเทลที่นำคราฟต์เบียร์บุษบา เบียร์ท้องถิ่นจากจังหวัดภูเก็ต มาเป็นหนึ่งในส่วนผสมหลัก แก้วนี้ให้กลิ่นอายความเปรี้ยวเบาๆ ชุ่มคอ รสของมะนาวตัดกับวอดก้าและกลิ่นขิง ท็อปด้วยคราฟต์เบียร์บุษบาสร้างเลเยอร์สีอำพัน ดื่มเย็นๆ ช่วยเพิ่มความสดชื่นอย่างที่ลูก้าบอกเอาไว้ไม่ผิดเลยสักนิด
Phuket Mule (ราคา 190 บาท)
Shake the Passion (ราคา 190 บาท) เป็นค็อกเทลดื่มง่ายอย่างที่ลูก้าบอกไว้ว่าอยากจะนำเสนอเครื่องดื่มที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ Shake the Passion จึงนำความเปรี้ยวหวานมาเขย่าไปพร้อมกับเหล้ารัม เสาวรส น้ำสับปะรด น้ำมะนาว และน้ำเชื่อมเฮาส์เมด ท็อปแก้วด้วยเสาวรสให้กลิ่นหอมปลายจมูกขณะจิบเพิ่มความอร่อย
Shake the Passion (ราคา 190 บาท)
Barbon Sour (ราคา 290 บาท) จัดอยู่ในเมนู House Signature เน้นความเรียบง่ายแต่หนักแน่นด้วยวิสกี้ เหล้าอัลมอนด์ น้ำมะนาว น้ำเชื่อมเสาวรสโฮมเมด แต่แปลกใจในรสชาติที่ไม่ได้เข้มจนร้อนคอ ความเข้มข้นถูกเจือด้วยรสชาติของน้ำเชื่อมเสาวรส น้ำมะนาว และกลิ่นหอมของเลมอนทวิสต์ด้านบน เพิ่มความดื่มง่ายไปอีกหลายเท่าตัว
Barbon Sour (ราคา 290 บาท)
ค็อกเทลอีกตัวที่ต้องพูดถึงคือ Orange Crust (290 บาท) ด้วยความลงตัวในส่วนผสมของเหล้าที่หลากหลาย ทั้งวิสกี้ และเหล้าเชื้อสายอิตาลีทั้ง Aperol และ Amaro รสหวานเปรี้ยวจากน้ำส้มสดผสมผสานเป็นเครื่องดื่มรสนวล น้ำตาลทรายแดงเคลือบขอบแก้ว จัดแต่งด้วยมะตูมแห้งน่าดื่ม
Orange Crust (290 บาท)
ถ้าจะบอกว่า Barbon เป็นอีกหนึ่งในทีเด็ดย่านเยาวราชก็คงไม่เกินไปนัก เพราะด้วยทำเลที่ตั้งชั้นบน สามารถเห็นทิวทัศน์ชัดตา มีฉากงามของแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่เบื้องหน้า ได้สั่งค็อกเทลฉ่ำๆ มาเติมความสดชื่นและรื่นรมย์สักแก้ว วันที่เหนื่อยหน่ายก็น่าจะหายได้เป็นปลิดทิ้ง
Barbon
Address: 1222/1 ถนนทรงวาด สัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ (ชั้นบนของโฮสเทล URBY)
Open: 05.00-12.00 น.
Facebook: www.facebook.com/barbonbkk/
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล