เมื่อวานนี้ (25 พฤศจิกายน) แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป กลุ่มธุรกิจด้านการเงินของ Grab ได้ประกาศขยายอีโคซิสเต็ม เปิดตัว GrabPay Wallet ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของร้านค้าและธุรกิจจำนวนมาก พร้อมทั้งบริการเสริมต่างๆ ผ่าน GrabPay Wallet ที่เป็นแพลตฟอร์มชำระเงินแบบครบวงจร
ข้อมูลจากแผนกลยุทธ์ระบบการชำระเงิน ฉบับที่ 4 (ปี พ.ศ. 2562-2564) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบันการใช้จ่ายและการทำธุรกรรมส่วนใหญ่ในประเทศยังเป็นเงินสดในสัดส่วนกว่า 93% โดยค่าใช้จ่ายการใช้เงินสดมีมูลค่ามากถึง 1% ของ GDP ในแต่ละปี
Grab จึงระบุว่า การให้บริการ GrabPay Wallet (ทำงานผ่านระบบของธนาคารกสิกรไทย) จะเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ผลักดันให้เกิดสังคมไร้เงินสดในประเทศไทย ทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย
ซึ่งหลังจากได้ทดลองให้บริการในช่วงแรกไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา วรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการ แกร็บเพย์ ประจำประเทศไทย แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ได้เปิดเผยว่า ฐานกลุ่มผู้ใช้งาน GrabPay Wallet ก็มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมากถึง 3 เท่า ส่งผลให้ e-Wallet ของพวกเขาเติบโตเร็วที่สุดในอาเซียน (ปริมาณการทำธุรกรรมบน Grab ในวันนี้มากกว่า 40% ไม่ใช่เงินสด)
โดยฟีเจอร์ใหม่ 4 บริการของ GrabPay Wallet ประกอบด้วย
- ชำระเงินกับร้านค้า (In-store Payment): สามารถนำ GrabPay Wallet ไปชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าต่างๆ เช่น Major Cineplex, After You, KOI Thé, Boots, Lawson Station 108, Fuji, Miniso, Sukishi, Kyo Roll En, Seoul Grill และ Sukiya โดยสแกน QR code
- เติมเงินโทรศัพท์มือถือ (Mobile Topup): ใช้บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือผ่านทางแอปฯ ของ Grab ทำให้การเชื่อมต่อในยุคดิจิทัลเป็นไปได้อย่างสะดวก โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรโทรคมนาคมต่างๆ
- ดีลบุ๊ก (Dealbook): รวมสินค้า ส่วนลด และสิทธิพิเศษจากพาร์ตเนอร์ร้านค้าของ Grab ในหลากหลายประเภทธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร บันเทิง และท่องเที่ยว เช่น ผู้ใช้งานสามารถซื้อเซตตั๋วชมภาพยนตร์พร้อมป๊อปคอร์นราคาพิเศษจาก Major Cineplex และชานมไข่มุกจาก KOI Thé
- แพ็กเกจส่วนลด (Subscription): ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 50% เมื่อลงทะเบียนเข้าใช้งานกลุ่มบริการต่างๆ ของ Grab เช่น GrabPackage All-access Pass, GrabPackage Ride Pass, GrabPackage Food Pass และ GrabPackage GrabExpress Pass
Grab ยังบอกอีกด้วยว่า ในเฟสแรกนี้ GrabPay Wallet จะให้ความสำคัญในการเชื่อมต่อทราฟฟิกการใช้งานบริการต่างๆ ของโลกออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน ผ่านช่องทางการชำระเงินที่สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยจะขยายให้รองรับการใช้บริการร่วมกับธนาคารอื่นๆ ในช่วงต้นปีหน้า (ปัจจุบันยังรองรับแค่ K Plus)
โดยในอนาคต แกร็บ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป วางแผนที่จะใช้ Big Data เพื่อนำเสนอการบริการทางการเงินที่ครบวงจรยิ่งขึ้นกว่าเดิม เช่น GrabInsure หรือการประกันรายย่อยสำหรับคนขับ Grab และ GrabFinance บริการกู้ยืมเงินภายในแอปฯ แก่พาร์ตเนอร์ผู้ประกอบการขนาดเล็กบนแพลตฟอร์ม เป็นต้น
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า