×

สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนส่อเค้ายืดเยื้อ กระทบเศรษฐกิจทั่วโลก: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (21 พ.ย. 2562)

โดย FINNOMENA
21.11.2019
  • LOADING...
FINNOMENA
  • ดีลการค้าสหรัฐฯ-จีนไม่แน่นอน ฉุดตลาดหุ้น หลังสำนักข่าว Reuters รายงานกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่คิดว่าดีลการค้าจะมีความคืบหน้าในระดับที่ต้องการ” ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงทันทีราว -1.00% ก่อนจะฟื้นต่อกลับมาเหลือราว -0.50% ส่งผลให้เช้าวันนี้ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตัวในแดนลบนำโดย ตลาดหุ้นญี่ปุ่น Nikkei (-1.56%), เกาหลีใต้ KOSPI (-1.44%) และออสเตรเลีย S&P/ASX 200 (-1.14%)จากก่อนหน้าที่ต่างฝ่ายต่างให้ความเห็นในเชิงบวกต่อแนวโน้มข้อตกลงทางการค้าที่คาดว่าจะสามารถตกลงกันได้ แต่กลับกลายเป็นปัญหาอีกครั้ง เมื่อความคืบหน้าถึงข้อตกลงดังกล่าวยังไร้ความชัดเจน ขณะที่ข้อกำหนดการขึ้นภาษีในวันที่ 15 ธันวาคม ก็ใกล้เข้ามาทุกที

 

  • แบงก์ชาติจีนหั่นดอกเบี้ยเงินกู้ Loan Prime Rate (LPR) อีก 0.05% โดยธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR อีก 0.05% สู่ระดับ 4.15% นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วในปีนี้ และเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2015 ที่ระดับ 4.35% ทั้งนี้การปรับลดดังกล่าวเป็นไปเพื่อกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้มากขึ้นให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อลดต้นทุนช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวและสงครามการค้าที่เกิดขึ้น

 

  • Bond Yield ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในปีนี้ สูระดับ 1.75% พร้อมกับท่าทีปิดโอกาสที่จะมีการปรับลดในครั้งถัดไปและต่อจากนี้ สร้างแรงกดดันต่อการลงทุนในตราสารหนี้ (Bond) ทั้งระยะสั้นและยาว เนื่องจากราคาและอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้รับกับความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องไปมาก ส่งผลให้เกิดการเทขายออกมาในช่วงเวลาดังกล่าว โดย US Bond Yield 10 ปี ปรับตัวขึ้นจากระดับ 1.69% สู่ระดับ 1.94% แต่ความกังวลต่อประเด็นการค้าสหรัฐฯ-จีนก็กลับมาสร้างแรงกดดันต่อตลาดอีกครั้ง ส่งผลให้เงินทุนที่ไหลกลับเข้าตราสารหนี้อีกครั้ง ล่าสุด US Bond Yield 10 ปี ลดลงมาสู่ระดับ 1.70% อีกครั้ง พร้อมกับการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในคืนที่ผ่านมา

 

  • สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขแรงงานและอสังหาฯ โดยตัวเลข Initial Jobless Claims ซึ่งคาดไว้ที่ 219,000 ตำแหน่ง ลดลงจากเดือนที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 225,000 ตำแหน่ง ด้าน Philadelphia Fed Manufacturing Index เดือนพฤศจิกายน คาดการณ์เพิ่มขึ้นจาก 5.6 จุด เมื่อเดือนก่อน มาที่ระดับ 7.0 จุด และจับตาตัวเลข Existing Home Sales เดือนตุลาคม คาดไว้ที่ 5.47 ล้านหลัง จาก 5.38 ล้านหลัง หรือเพิ่มขึ้น 1.4% (MoM)

 

  • มูลนิธิลีกาของมหาเศรษฐีฮ่องกงประกาศอัดเงิน 1 พันล้านเหรียญฮ่องกงช่วยเหลือวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมในฮ่องกง โดยการชุมนุมที่ยืดเยื้อดังกล่าวส่งผลให้บางร้านค้าต้องปิดถาวร และส่งผลให้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รายได้ของร้านอาหารลดลงไปกว่า 30% จนเจ้าของร้านอาหารอย่างน้อย 200 ร้าน ตัดสินใจปิดกิจการถาวร ขณะที่มูลค่าการซื้อขายของร้านค้าปลีกลดลง 18.3% ในเดือนกันยายน จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากนักท่องเที่ยวลดลงถึง 34.2% เนื่องจากนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางไปเที่ยว แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการอัดฉีดเงิน แต่เศรษฐกิจก็ยังคงเติบโตลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าเป็นตัวหนุน

 

สภาวะตลาดวานนี้

  • ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 จากความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่อาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ในสิ้นปีนี้ และอาจเลื่อนออกไปในปีหน้า รวมถึงการที่วุฒิสภากับ ส.ส. ได้ลงมติสนับสนุนม็อบฮ่องกง อาจส่งผลให้การเจรจาการค้าออกมาแย่กว่าเดิม ทำให้ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเช่นกัน นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

 

  • ตลาดน้ำมันปิดบวกจากสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ออกมาน้อยกว่าคาด และความคาดหวังที่กลุ่มโอเปกจะลดกำลังการผลิตหลังจากจะมีการประชุมในเดือนหน้า ด้านตลาดทองคำปิดลบเล็กน้อยจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ สวนทางกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงจากความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

 

ยุโรป

  • DAX ปิดที่ 13158.14 ลดลง -62.98 (-0.48%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7262.49 ลดลง -61.31 (-0.84%)
  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3683.88 ลดลง -12.68 (-0.34%) 
  • FTSE MIB ปิดที่ 23351.78 เพิ่มขึ้น 22.57 (0.1%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 23148.57 ลดลง -144.08 (-0.62%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6722.4 ลดลง -91.8 (-1.35%)
  • Shanghai ปิดที่ 2911.05 ลดลง -22.94 (-0.78%)
  • SZSE Component ปิดที่ 9809.05 ลดลง -80.71 (-0.82%)
  • China A50 ปิดที่ 13952.7 ลดลง -146.77 (-1.04%)
  • Hang Seng ปิดที่ 26889.61 ลดลง -204.19 (-0.75%)
  • Taiwan Weighted ปิดที่ 11631.2 ลดลง -25.2 (-0.22%)
  • SET ปิดที่ 1596.83 ลดลง -10.42 (-0.65%)
  • KOSPI ปิดที่ 2125.32 ลดลง -27.92 (-1.3%)
  • IDX Composite ปิดที่ 6155.11 เพิ่มขึ้น 3.02 (0.05%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 40651.64 เพิ่มขึ้น 181.94 (0.45%)
  • PSEi Composite ปิดที่ 7898.06 ลดลง -14.08 (-0.18%)

 

อเมริกา

  • Dow 30 ปิดที่ 27821.09 ลดลง -112.93 (-0.4%)
  • S&P 500 ปิดที่ 3108.46 ลดลง -11.72 (-0.38%)
  • Nasdaq ปิดที่ 8526.73 ลดลง -43.93 (-0.51%)

 

Commodities

  • ราคาน้ำมัน Crude Oil WTI ปิดที่ 57.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.7 (3.07%)
  • ราคาน้ำมัน Brent Oil ปิดที่ 62.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.56 (2.56%)
  • ราคาทองคำ Gold ปิดที่ 1471.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -3.1 (-0.21%)

finnomena in partnership

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuter
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X