×

ทรัมป์ขู่เพิ่มภาษีนำเข้าจีน ฟิลิปปินส์เดินหน้าสงครามการค้ากับไทย: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (20 พ.ย. 2562)

โดย FINNOMENA
20.11.2019
  • LOADING...
FINNOMENA
  • จับตาอัตราดอกเบี้ย LPR จีน วันนี้ (20 พฤศจิกายน) จีนมีกำหนดการประกาศอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate (LPR) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับลูกค้าชั้นดีสำหรับธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ หลังจากที่วานนี้ธนาคารกลางจีนได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างธนาคาร (Reverse Repurchase Rate) 7 วัน จากระดับ 2.55% สู่ 2.50% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งเป็นการปรับลดเพื่อเสริมสภาพคล่องและกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ย LPR ที่มีกำหนดการจะประกาศในวันนี้จะยังคงอยู่ที่ระดับ 4.20% ต่อไป

 

  • สงครามการค้ายังไร้ความแน่นอน วานนี้ (19 พฤศจิกายน) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการประชุม ถึงการดำเนินการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเพิ่มเติม หากยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเร็ววันนี้ สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับทิศทางการยกเลิกการเก็บภาษีสินค้านำเข้าเดิมที่ได้เรียกเก็บไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งยังคงเป็นที่ถกเถียงภายในคณะทำงานที่ระบุว่า ยังไม่มีความแน่นอนเกี่ยวกับอัตราภาษีที่จะยกเลิก ว่าจะยกเลิกในปริมาณที่มากน้อยเพียงใด โดยความเป็นไปได้ที่จะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าเดิมนั้นยังอยู่ที่ระดับ 35-60% ของอัตราภาษีเดิม

 

  • ฟิลิปปินส์เดินหน้าสงครามการค้าไทย เตรียมขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ วานนี้ (19 พฤศจิกายน) เซเฟอร์ริโน เอส โรดอลโฟ ปลัดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม (DTI) ฟิลิปปินส์ ได้ระบุถึงการเตรียมการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากไทย ในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งมีปริมาณการนำเข้าสูงถึงปีละกว่า 74,000 ล้านบาท โดยฟิลิปปินส์พร้อมที่จะดำเนินการหากมีความจำเป็น โดยยังมิได้ระบุถึงอัตราภาษีใหม่ จากข้อพิพาทกรณีภาษีบุหรี่ ในข้อหาสำแดงราคาบุหรี่นำเข้าจากประเทศฟิลิปปินส์ระหว่างปี 2545-2546 ต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2555 ที่ WTO นั้นมีคำตัดสินให้ไทยแพ้คดี แต่ยังมิได้มีการดำเนินคำตัดสินของ WTO สร้างแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในไทยอีกครั้ง

 

  • ส่งออกญี่ปุ่นทรุด 9.2% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผยตัวเลขการส่งออกประจำเดือนธันวาคมออกมาที่ หดตัว 9.2% (YoY) ซึ่งเป็นการหดตัวแรงที่สุดในรอบ 3 ปี และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งคาดไว้ที่จะหดตัว 7.2% (YoY) จากยอดการส่งออกพลาสติก เครื่องยนต์อากาศยาน เครื่องจักร และรถยนต์ที่ลดลงแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการส่งออกไปยังประเทศจีน ส่งผลให้เมื่อนับรวมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ยอดการส่งออกของญี่ปุ่นไปยังสหรัฐฯ หดตัวถึง 11.4% เอเชียหดตัว 11.2% จากความไม่แน่นอนกรณีสงครามการค้าที่กดดันความต้องการบริโภคสินค้าต่างๆ สร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลให้ต้องเตรียมการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง

 

  • วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายสนับสนุนฮ่องกง วานนี้ (19 พฤศจิกายน) วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายปกป้องสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง ซึ่งมีเนื้อหาเน้นหนักในด้านของการสนับสนุน สิทธิเสรีภาพของผู้ชุมนุมในฮ่องกง พร้อมกับเตือนการปราบปรามจากรัฐบาลจีน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะสร้างความตึงเครียดในด้านการเจรจาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อีกครั้ง

 

ภาวะตลาดวานนี้

  • ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงจากผลประกอบการของกลุ่มค้าปลีกที่ออกมาแย่กว่าที่คาด ประกอบกับความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนโดยทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นหากยังไม่บรรลุข้อตกลงการค้า ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเช่นกัน ซึ่งทำให้นักลงทุนเริ่มชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นเพื่อรอดูสถานการณ์ที่ชัดเจน

 

  • ตลาดน้ำมันปิดร่วงแรงกว่า 3% จากการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันคงคลังสหรัฐฯ ที่จะประกาศตัวเลขในคืนนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมไปถึงรัสเซียที่อาจจะไม่ปรับลดกำลังผลิตน้ำมัน ทำให้เกิดภาวะน้ำมันล้นตลาด นักลงทุนจึงเทขายจากความกังวลนี้ ส่งผลให้ตลาดทองคำปิดบวกจากปัจจัยที่ไม่แน่นอนดังกล่าวในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าสกุลเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นก็ตาม

 

สหรัฐ

  • Dow 30 ปิดที่ 27934.02 ลดลง -102.2 (-0.36%)
  • S&P 500 ปิดที่ 3120.18 ลดลง -1.85 (-0.06%)
  • Nasdaq ปิดที่ 8570.66 เพิ่มขึ้น 20.72 (0.24%)

 

ยุโรป

  • DAX ปิดที่ 13221.12 เพิ่มขึ้น 14.11 (0.11%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7323.8 เพิ่มขึ้น 16.1 (0.22%)
  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3696.56 ลดลง -8.36 (-0.23%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 23329.21 ลดลง -134.77 (-0.57%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 23292.65 ลดลง -124.11 (-0.53%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6814.2 เพิ่มขึ้น 47.4 (0.7%)
  • Shanghai ปิดที่ 2933.99 เพิ่มขึ้น 24.79 (0.85%)
  • SZSE Component ปิดที่ 9889.75 เพิ่มขึ้น 174.48 (1.8%)
  • China A50 ปิดที่ 14099.47 เพิ่มขึ้น 86.1 (0.61%)
  • Hang Seng ปิดที่ 27093.8 เพิ่มขึ้น 412.71 (1.55%)
  • Taiwan Weighted ปิดที่ 11656.4 เพิ่มขึ้น 56.62 (0.49%)
  • SET ปิดที่ 1607.25 ลดลง -0.75 (-0.05%)
  • KOSPI ปิดที่ 2153.24 ลดลง -7.45 (-0.34%)
  • IDX Composite ปิดที่ 6152.09 เพิ่มขึ้น 29.46 (0.48%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 40469.7 เพิ่มขึ้น 185.51 (0.46%)
  • PSEi Composite ปิดที่ 7912.14 เพิ่มขึ้น 31.2 (0.4%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมัน Crude Oil WTI ปิดที่ 55.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.71 (-2.99%)
  • ราคาน้ำมัน Brent Oil ปิดที่ 60.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -1.69 (-2.7%)
  • ราคาทองคำ Gold ปิดที่ 1474.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.73 (0.18%)

finnomena in partnership

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง: 

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • CNBC
  • Reuter
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X