กลุ่มธนาคารยูโอบีประกาศผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2562 พบมีรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 7.6 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.34 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ สูงขึ้นจากปีที่แล้ว 8%
ยูโอบีให้เหตุผลว่า การที่ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการเติบโตของสินเชื่อแบบกระจายตัว, รายได้จากการค้าและการลงทุนที่สูงขึ้น และการเติบโตของค่าธรรมเนียมอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราส่วนผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.6 จากปีก่อนเป็นร้อยละ 11.9
ส่วนถ้านับเฉพาะช่วงไตรมาส 3 จะพบว่า รายได้สุทธิของไตรมาสอยู่ที่ 1.12 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.12 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน ซึ่งเกิดจากรายได้ของลูกค้าแฟรนไชส์และรายได้จากการค้าและการลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้านฐานะการเงินยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะเผชิญความไม่แน่นอนทั่วโลก ซึ่งมีปัจจัยจากฐานะเงินทุนและฐานเงินทุนของกลุ่มธนาคารที่กระจายตัว อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินรับฝากคงที่ที่ร้อยละ 89.3 ในขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่หนึ่งที่เป็นส่วนของเจ้าของยังคงแข็งแกร่งที่อยู่ร้อยละ 13.7
วี อี ชอง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารยูโอบี กล่าวว่า “เรายังเติบโตในทุกช่องทางรายได้ แม้ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก กลุ่มธนาคารยังคงมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง คุณภาพสินทรัพย์ในเกณฑ์ดี เงินทุนและระดับสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง ผลการดำเนินการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของกลยุทธ์ ในการช่วยให้ลูกค้ามีศักยภาพในการเติบโต และความมุ่งมั่นในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคผู้มีความมั่งคั่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เพิ่มขึ้น
“เมื่อมองไปในอนาคต เราคาดหวังว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจจะปรับลดลง เนื่องจากปัจจัยด้านลบต่อเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี ความสำคัญของกลุ่มธนาคารในภูมิภาคนี้ทำให้เราอยู่ในตำแหน่งในการเข้าถึงเงินลงทุนที่เข้าสู่ภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ต้องการกระจายห่วงโซ่อุปทานของตนเองเข้ามาในภูมิภาค ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงดำเนินอยู่
“สาขาเปิดใหม่ของธนาคารในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม และเมืองจงซาน ประเทศจีน ถือเป็นการต่อยอดความสามารถในการเชื่อมโยงที่เรานำเสนอให้ลูกค้าทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในจีน ฐานะทางการเงินที่มั่นคงจะช่วยให้เราสนับสนุนลูกค้าให้ก้าวผ่านสภาพการดำเนินงานที่ไม่แน่นอน และยังคงลงทุนต่อเนื่องในบุคลากรและศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืน”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
