×

จับตาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กลับมาตึงเครียด หลังสภาล่างสหรัฐฯ ผ่านกฎหมายสิทธิมนุษยชนฮ่องกง: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (17 ต.ค. 2562)

โดย FINNOMENA
17.10.2019
  • LOADING...
FINNOMENA
  • IMF ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก สู่ระดับต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2009 ที่ขยายตัว 3.0% โดยได้รับแรงกดดันหลักจากความไม่แน่นอนทางนโยบายการค้า ซึ่งส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นและการลงทุน รวมถึงกระตุ้นให้ธนาคารกลางดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อประคับประคองอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคการผลิตและการบริโภคในครัวเรือนยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวสู่ 3.4% ในปีหน้า หากเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ Highly-Stressed ฟื้นตัว (เช่น ตุรกี, อิหร่าน, เม็กซิโก, บราซิล และรัสเซีย) อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศหลัก 4 ประเทศ ได้แก่ จีน, สหรัฐฯ, ยูโรโซน และญี่ปุ่น จะชะลอตัวต่อเนื่องจนถึงปี 2024 นอกจากนั้นแล้ว IMF ยังคาดการณ์แนวโน้มเชิงลบในอนาคต พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจการคลัง และธนาคารกลางคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย

 

  • โดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรปเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า อาจได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า Brexit จะเกิดขึ้นเมื่อใด ซึ่งอาจเป็นไปตามกำหนดการเดิมคือวันที่ 31 ตุลาคม 2019 หรือต้องเลื่อนกำหนดเส้นตายออกไปอีกครั้ง พร้อมทั้งระบุว่า ขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ กำลังเป็นไปในทิศทางที่ดี และในทางทฤษฎีแล้ว มีความเป็นไปได้ที่ข้อตกลง Brexit จะเกิดขึ้นได้ในวันพรุ่งนี้ โดยพื้นฐานโครงสร้างของข้อตกลงโดยรวมมีความพร้อมอยู่แล้วในเบื้องต้น แต่ติดที่ทางสหราชอาณาจักรเองยังคงมีข้อติดขัดในบางประการ

 

  • นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักรเดินหน้าเจรจาไอร์แลนด์เหนือ โดยได้เข้าพบกับคณะรัฐมนตรีและพรรค Democratic Unionist Party (DUP) ของไอร์แลนด์เหนือ เพื่อรายงานถึงความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลง Brexit กับสหภาพยุโรป โดยจอห์นสันต้องพยายามโน้มน้าวให้คณะรัฐมนตรี และ ส.ส. สนับสนุนร่างข้อตกลงฉบับใหม่ของตน โดยเฉพาะ ส.ส. จากพรรค DUP ซึ่งยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการบริเวณชายแดนระหว่างไอร์แลนด์และไอร์แลนด์เหนือ ทั้งในส่วนของการขนส่งสินค้า การเดินทาง และมาตรการด้านศุลกากร โดยพรรค DUP กังวลว่า ไอร์แลนด์เหนือจะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างไปจากภูมิภาคอื่นๆ ของสหราชอาณาจักร

 

  • สหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายหนุนฮ่องกง วานนี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับฮ่องกงโดยตรงดังนี้ 1. รัฐบัญญัติสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง ซึ่งระบุถึงการให้กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องจัดทำรายงานถึงอิทธิพลของรัฐบาลจีนต่อฮ่องกง และรับรองว่าฮ่องกงได้เคารพสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม เพื่อคงสถานะพิเศษทางการค้าระหว่างฮ่องกงกับสหรัฐฯ 2. ร่างกฎหมายคุ้มครองฮ่องกง ซึ่งระบุห้ามไม่ให้ผู้ประกอบการสหรัฐฯ ส่งออกเครื่องมือทางการทหารและเครื่องมือควบคุมฝูงชนไปยังฮ่องกง เช่น แก๊สน้ำตา และ 3. ร่างกฎหมายรับรองสถานะความสัมพันธ์ระหว่างฮ่องกงกับสหรัฐฯ ซึ่งมีเนื้อหาประณามการแทรกแซงของจีน และสนับสนุนการประท้วงของพลเมืองฮ่องกง ซึ่งร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับนี้จะถูกดำเนินการพิจารณาต่อไปในขั้นของวุฒิสภา หลังจากผ่านสภาผู้แทนราษฎรเป็นที่เรียบร้อยด้วยการสนับสนุนจากทั้ง 2 พรรคการเมือง ด้าน หยางกวง โฆษกสำนักงานกิจการฮ่องกงและมาเก๊าแห่งคณะรัฐมนตรีจีน ระบุว่าท่าทีดังกล่าวของทางการสหรัฐฯ ถือเป็นความพยายามแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างรุนแรง

 

  • จีนประกาศเปิดโอกาสให้ต่างชาติลงทุนในภาคการเงินของประเทศ โดยเปิดให้สถาบันการเงินต่างชาติเข้ามาเปิดบริษัทประกัน และเป็นผู้ถือหุ้นได้ ขณะเดียวกันยังเปิดทางให้ผู้ปล่อยกู้ต่างชาติจัดตั้งธนาคารในจีน และทำธุรกรรมในรูปสกุลเงินหยวนโดยไม่ต้องได้รับการอนุมัติล่วงหน้า

 

สรุปภาวะตลาดวานนี้

  • ดัชนี Dow Jones ปิดลบหลังจากยอดค้าปลีกในเดือนกันยายนหดตัวครั้งแรกในรอบ 7 เดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนสืบเนื่องจากประเด็นการประท้วงในฮ่องกงที่ทางสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ออกมาให้การสนับสนุนผู้ประท้วง ถึงแม้จะมีปัจจัยบวกจากผลประกอบการของ BofA Merrill Lynch ที่แข็งแกร่ง แต่นักลงทุนยังคงกังวลกับข่าวร้ายมากกว่า

 

  • ด้านตลาดฝั่งยุโรปตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากมีรายงานว่าผู้เจรจาของฝั่ง EU และอังกฤษ อาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ ทำให้นักลงทุนกลับมากังวลอีกครั้ง

 

  • ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังจากกลุ่ม OPEC จะกำหนดนโยบายปรับลดการผลิตอีกครั้งหลังจากความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลง ในการประชุมวันที่ 5-6 ธันวาคมนี้ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

 

  • ตลาดทองคำกลับมาทดสอบแนวต้าน 1,500 อีกครั้ง หลังตัวเลขยอดค้าปลีกในเดือนกันยายนของอเมริกาลดลง 0.3% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ทำให้นักลงทุนกังวลและย้ายมาซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น (Risk off)

 

สหรัฐฯ

  • Dow 30 ปิดที่ 27001.98 ลดลง -22.82 (-0.08%)
  • S&P 500 ปิดที่ 2989.69 ลดลง -5.99 (-0.2%)
  • Nasdaq ปิดที่ 8124.18 ลดลง -24.52 (-0.3%)

 

ยุโรป

  • DAX ปิดที่ 12670.11 เพิ่มขึ้น 40.32 (0.32%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7167.95 ลดลง -43.69 (-0.61%)
  • Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3599.25 เพิ่มขึ้น 0.6 (0.02%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 22428.09 เพิ่มขึ้น 62.75 (0.28%)

 

เอเชีย

  • Nikkei 225 ปิดที่ 22472.92 เพิ่มขึ้น 265.71 (1.2%)
  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6736.5 เพิ่มขึ้น 84.5 (1.27%)
  • Shanghai ปิดที่ 2978.71 ลดลง -12.33 (-0.41%)
  • SZSE Component ปิดที่ 9642.06 ลดลง -29.67 (-0.31%)
  • China A50 ปิดที่ 14060.22 ลดลง -49.04 (-0.35%)
  • Hang Seng ปิดที่ 26664.28 เพิ่มขึ้น 160.35 (0.61%)
  • Taiwan Weighted ปิดที่ 11162.83 เพิ่มขึ้น 51.03 (0.46%)
  • SET ปิดที่ 1634.46 เพิ่มขึ้น 7.45 (0.46%)
  • KOSPI ปิดที่ 2082.83 เพิ่มขึ้น 14.66 (0.71%)
  • IDX Composite ปิดที่ 6169.59 เพิ่มขึ้น 11.43 (0.19%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 38598.99 เพิ่มขึ้น 92.9 (0.24%)
  • PSEi Composite ปิดที่ 7915.3 เพิ่มขึ้น 74.99 (0.96%)

 

Commodity

  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 53.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.46 (0.87%)
  • ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 59.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.62 (1.06%)
  • ราคาทองคำ ปิดที่ 1492.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.65 (0.58%)

finnomena in partnership

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

ที่มา:

  • InfoQuest
  • Bloomberg
  • Investing
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X