เมื่อวานนี้ (15 ส.ค. 2562) รณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากมาตรการ LTV มีผลบังคับใช้ และได้รับฟังความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้กู้ร่วมที่ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ให้ได้รับสินเชื่อตามความเหมาะสมมากขึ้น
โดยเกณฑ์ที่ปรับปรุงจะพิจารณาจากการถือครองกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นสำคัญ ดังนั้น หากผู้กู้ร่วมยังไม่มีสิทธิ์ในที่อยู่อาศัย ให้ผ่อนปรนเสมือนว่ายังไม่เป็นผู้กู้ในครั้งนั้น และเมื่อต้องการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยของตนเองก็สามารถทำได้ โดยจะนับเป็นสัญญาแรก
ซึ่งทางรองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. ได้ยกรายละเอียดของ สนส. 24/2561 เรื่อง หลักเกณฑ์การกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (ข้อ 18) มาอธิบายได้ 2 กรณีให้เห็นภาพมากขึ้น ดังนี้
กรณีที่ 1 หากผู้กู้ A มีสัญญาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอยู่แล้ว 1 สัญญา และในครั้งนี้มาขอกู้ร่วมกับ B ซึ่ง B ยังไม่เคยกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมาก่อน เท่ากับว่า หากทั้ง A และ B มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยสำหรับการกู้ร่วม ให้นับสัญญาการกู้ร่วมดังกล่าวเป็นสัญญาที่ 2 ของ A (LTV 90% หรือ 80%) แต่หากกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยที่กู้ร่วมในครั้งนี้เป็นของ B แต่เพียงผู้เดียว จึงถือว่าสัญญาการกู้ร่วมในครั้งนี้ เป็นสัญญาแรกของ B และไม่นับเป็นสัญญาที่ 2 ของ A
กรณีที่ 2 ผู้กู้ A และ B กู้ร่วมมาก่อน และในครั้งนี้ B มาขอกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เท่ากับว่า ในการกู้ร่วมครั้งแรก หาก A มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยแต่เพียงผู้เดียว จะนับสัญญาที่กู้ร่วมเป็นสัญญาแรกของ A โดยไม่นับเป็นสัญญาแรกของ B ดังนั้น ในการกู้เดี่ยวของ B ในครั้งนี้ จะนับเป็นสัญญาแรกของ B แต่หากในการกู้ร่วมครั้งแรก B มีกรรมสิทธิ์ร่วมในที่อยู่อาศัยดังกล่าวด้วย ก็จะนับสัญญาการกู้เดี่ยวของ B ในครั้งนี้ เป็นสัญญาที่ 2 ในทันที
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ธปท. ได้ประกาศเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยกำหนดเพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV Ratio) ให้เข้มงวดขึ้น โดยกำหนดเงื่อนไขเงินดาวน์ที่สูงขึ้นสำหรับการซื้อบ้านหลังที่สองและสาม รวมถึงบ้านที่มีราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบในระยะยาว ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/PRNews/Pages/PRNews15Aug2019.aspx
- www.bot.or.th/Thai/FIPCS/Documents/FPG/2561/ThaiPDF/25610271.pdf