จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประชุมร่วมกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมเครือข่ายหอการค้าไทย ซึ่งมีสมาชิก 123,932 ราย โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ 7,181 ราย หอการค้า 76 จังหวัด หอการค้าต่างประเทศ สมาคมการค้า และมหาวิทยาลัยหอการค้า โดยเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหารืออุปสรรคปัญหาร่วมกันกับผู้บริหารสภาหอการค้าฯ
โดยภายหลังการประชุม จุรินทร์กล่าวว่า ได้มีความเห็นร่วมกันว่าจะตั้งวอร์รูมร่วมระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน ซึ่งในนั้นจะมีผู้แทนของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยด้วย เพื่อติดตามสถานการณ์หาทางออกร่วมกันเพื่อเดินหน้าการค้าของประเทศไทยสู่ตลาดโลก และมีความเห็นร่วมกันที่จะเร่งรัดการส่งออก โดยจะมีคณะทำงานเจาะลึกการส่งออกทั้งรายสินค้า-บริการ และรายตลาด ทั้งนี้เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปสนับสนุนเป็นทัพหนุน และให้เอกชนเป็นทัพหน้าตามแนวที่ให้ไว้
ประการที่ 2 เห็นตรงกันว่าจะมีการเร่งรัดการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สำหรับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งประเทศอาร์เซ็ป (อาเซียน+6) ที่จะเร่งรัดให้จบภายในปีนี้ และเริ่มต้นการเจรจาเอฟทีเอระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป
ประการที่ 3 เห็นตรงกันเรื่องเกี่ยวกับการค้าชายแดนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นตลาดใหญ่ อัตราการขยายตัวอย่างที่ดี ซึ่งที่หอการค้าต้องการอยากเห็นคือ เร่งรัดการเปิดด่านเพื่อการค้าขายชายแดนให้เป็นรูปธรรม
ประการที่ 4 คือ ตั้งคณะทำงานร่วมกันขึ้นมาเพื่อหาทางออกเรื่องกฎหมาย ระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคทางด้านการค้า หรือไม่มีความทันสมัย โดยดำเนินการแก้ไขใช้ช่องทางรัฐสภาฯ ต่อไป
นอกจากนี้ทางสภาหอการค้าฯ ยังได้เสนอตัวเข้ามามีส่วนร่วมในช่องทางการจัดจำหน่ายผลไม้ ที่กระทรวงพาณิชย์เพิ่งผ่านการทำข้อตกลง (MOU) กับภาคส่วนต่างๆ ไป ก็จะเข้ามาเสริมเป็นกำลังสำคัญ โดยใช้หอการค้าจังหวัดต่างๆ ภายใต้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อการช่วยเหลือเกษตรกร
รายงานข่าวระบุว่า ในที่ประชุมทางสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังได้รายงานถึงความไม่สมดุลของแรงงานภาคการเกษตรกับจีดีพีของประเทศ โดยแบ่งเป็นภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ แนวโน้มแรงงานไทยจะมุ่งสู่ภาคบริการมากยิ่งขึ้น และสัดส่วนภาคการเกษตรแรงงานลดลง
รายงานแจ้งอีกว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงเรื่องการค้าชายแดนและถ้าข้ามแดน โดยเสนอให้มีการเร่งรัดยกระดับด่านชายแดนที่เป็นด่านสำคัญทางการค้าทั้ง 6 ด้านคือ จุดผ่อนปรนบ้านห้วยต้นนุ่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 จุดผ่อนปรนพิเศษสิงขร จุดผ่อนปรนช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู จังหวัดบุรีรัมย์ และช่องทางการค้าทางธรรมชาติบ้านท่าเส้น จังหวัดตราด
นอกจากนั้นตัวแทนสภาหอการค้าไทยต้องการให้ผลักดันการขยายช่องทางโลจิสติกส์ หรือการลำเลียงสินค้าและการพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางฝั่งไทย เนื่องจากว่าได้มีการพัฒนาทางฝั่งชายแดนเพื่อนบ้าน เช่น พม่าค่อนข้างพร้อมก่อนแล้ว และยังได้หารือในเรื่องอุปสรรคทางค่าเงินและด้านแรงงานด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า