เราเชื่อว่ามีคนร่วมโลกออนไลน์อยู่จำนวนไม่น้อยที่ฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งโดยมากเมื่อพูดถึงคำว่า ‘ธุรกิจ’ ย่อมต้องมุ่งหมายถึงผลประกอบการหรือกำไร อันเป็นฟันเฟืองที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญของโลกธุรกิจ ดำเนินต่อไปได้ตามวิถีของมัน
แต่ตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์ เมื่อมีระบบใหญ่เป็นกระแสหลัก ย่อมต้องมีการสวนกระแสมาคานอำนาจ ในที่นี้ก็คือธุรกิจแบ่งปัน Social Enterprise กิจการเพื่อสังคมที่เกิดมาเพื่อช่วยชาวโลก โดยธุรกิจสำนึกดีเหล่านี้จะวางเป้าหมายเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องของคุณภาพชีวิตมนุษย์ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น ใช้กลไกการบริหารจัดการที่ดีของภาคธุรกิจมาผนวกกับความรู้และนวัตกรรมสังคม ให้มีความยั่งยืนทางการเงินจากรายได้หลักที่มาจากสินค้าหรือบริการ โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินบริจาค และมีการนำผลกำไรที่เกิดขึ้นไปลงทุนซ้ำเพื่อขยายผลที่เกิดขึ้นให้มีความยั่งยืน และสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่า Social Enterprise จะยังเป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ แต่ก็มีพลังท้าทายที่ทำให้โลกธุรกิจดำเนินต่อไปอย่างคึกคัก
อาจจะดูเป็นภาพที่สวยงามเกินความเป็นจริง แต่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หลายสิบปีที่ผ่านมา หลายประเทศมองเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจด้วยธุรกิจที่มีแนวคิดเชิงแบ่งปัน โดยเฉพาะในอังกฤษ, อเมริกา, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ นับเป็นประเทศแม่แบบของประเทศที่ผลักดันและสนับสนุนธุรกิจดังกล่าว จากการได้เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ทำให้ผู้ประกอบการชุ่มชื่นหัวใจ และมีความท้าทายที่จะขับเคลื่อนธุรกิจไปต่อ รวมถึงมีหลากหลายผู้ประกอบการแสดงให้เห็นแล้วว่า ธุรกิจที่ช่วยยกระดับสังคมนั้นมีอยู่จำนวนไม่น้อย และเป็นเทรนด์ที่กำลังแพร่หลายไปทั่วทุกมุมโลก หากคุณเคยได้ยินชื่อของ ME to WE, Ashoka หรือ Grameen Bank ฯลฯ ก็คงพอจะทราบดีว่า เหล่านี้คือตัวอย่างของธุรกิจแบ่งปันที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับในโครงข่ายธุรกิจ ทั้งยังสร้างคุณค่าดีๆ คืนกลับสู่สังคมโลกได้อีกด้วย ทว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำให้ธุรกิจแบ่งปันหลุดจากการเป็นเพียงแค่ฝันลมๆ แล้งๆ และเติบโตได้ ในยุคที่การแข่งขันเชี่ยวกรากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลให้หลายๆ กิจการต้องพับฝันเก็บไว้ในลิ้นชักตามเดิม แม้ว่าจะชูผลลัพธ์ที่ดีงามให้แก่สังคมมากเพียงใด
ประตูโอกาสบานใหญ่ของนักธุรกิจหัวใจแบ่งปันได้ถูกเปิดออกอีกครั้ง เมื่อรายการโทรทัศน์ดีกรีรางวัลโทรทัศน์ทองคำ Win Win WAR Thailand เรียลิตี้โชว์ค้นหาสุดยอดนักธุรกิจแบ่งปันในเครือ C asean เปิดโครงการรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการซีซัน 2 (ประจำปี 2019) ทาง bit.ly/2I3U6tP เพื่อสร้างโอกาสให้กับคนที่มีความฝันอยากทำธุรกิจยกระดับคุณภาพสังคมได้ลุกขึ้นมาปลุกแรงบันดาลใจให้กลายเป็นแรงบันดาลกาย ลงมือสร้างสรรค์ธุรกิจที่มีประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตนเองและส่วนรวม แบบที่ Win ทั้งตัวคุณเอง และ Win ทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม
Win Win WAR ถ้าด่วนตีความคุณอาจแปลเอาว่าเป็นสงครามเกมที่ห้ำหั่นกันเพื่อหาจุดลงตัวที่จะชนะได้ทั้ง 2 ฝ่าย ทว่าแท้จริงแล้ว Win Win WAR มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น คำว่า Win Win คือชนะทั้งสองฝ่าย แต่ W A R มาจากตัวย่อศัพท์ภาษาอังกฤษ 3 คำ คือ Willing, Able และ Ready
Willing คือความอยากที่จะทำ Able คือมีทักษะ มีความสามารถในการที่จะทำให้ได้ ส่วน Ready คือความพร้อม ต้องเป็นนักธุรกิจแบ่งปันที่พร้อมสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพที่ยั่งยืน เล็งเห็นถึงความสำคัญของสิ่งรอบข้างคือ คน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม แล้วสามารถสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์สังคมและสิ่งแวดล้อมได้จริงๆ โดยที่ธุรกิจนั้น อาจเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสังคม แต่มาจุดประกายจากรายการนี้ก็ได้
ในส่วนของหลักเกณฑ์ที่นำมาใช้คือ ความคิดริเริ่มในการทำธุรกิจนั้นต้องเข้าข่ายเป้าหมายหลัก 17 ข้อขององค์การสหประชาติ หรือ UNSDGs (UN Sustainable Development Goals) กำหนดไว้ (คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ th.wikipedia.org/wiki/เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน) หากธุรกิจในฝันของคุณมี 3 ใน 17 ข้อ ก็สามารถที่จะนำเสนอแผนธุรกิจทางเว็บไซต์ ถ้าไอเดียตั้งต้นแจ๋วจริง ก็มีสิทธิ์เป็น 20 คนสุดท้าย เข้าไปปลุกฝันให้เป็นจริงในรายการทีวี ในขณะเดียวกันทางรายการก็เข้าใจดีว่า การจะทำให้ธุรกิจเกิดความยั่งยืนได้ แค่อุดมการณ์แก่กล้าอาจไม่พอ ยังมีองค์ประกอบมากมายรวมอยู่ ต้องมีองค์ความรู้ทางธุรกิจในการบริหารจัดการ จึงจะเป็นปลาเล็กที่แหวกว่ายอย่างอยู่รอดในบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยปลาใหญ่ จึงได้มีที่ปรึกษาธุรกิจช่วยแนะนำลู่ทางที่เหมาะสมตั้งแต่ต้นจนจบรายการแบบที่ไม่มีสคริปต์ ผู้เข้าแข่งขันจะไม่รู้สึกเหมือนถูกยัดเยียด ไม่เพียงแค่นั้น สิ่งที่เป็นกำไรชีวิตเพิ่มเติมคือ คุณจะได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับโครงข่ายทางธุรกิจที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ถ้าคุณแสดงความมุ่งมั่นและมีแรงบันดาลใจที่เต็มเปี่ยมมากพอ ก็อาจได้รับรางวัลเงินสด 2,000,000 บาท ไปต่อยอดธุรกิจแบ่งปันให้สำเร็จ อย่างในซีซันที่ 1 มีตัวอย่างธุรกิจ 5 ธุรกิจที่เป็นผู้ชนะในรอบ Final Round ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น
- Siam Able Innovation เจ้าของแชมป์รายการเมื่อซีซันที่แล้ว เป็นผู้พิการที่มีทักษะทางวิศวกรไฟฟ้าติดตัวอยู่แล้ว ซึ่งได้นำทักษะด้านวิศวกรของตนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ โดยรวบรวมผู้พิการเพื่อมาผลิตอุปกรณ์สำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่มีมาตรฐาน จำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด
- Art For Cancer พื้นที่กิจกรรมที่เยียวยาและสร้างรายได้ให้กับผู้ป่วยด้วยศิลปะ ก่อตั้งโดยผู้ป่วยและอดีตผู้ป่วยมะเร็ง
- Terra Capsule กล่องย่อยขยะธรรมชาติด้วยหนอนแมลงวันลาย ไม่แพร่เชื้อโรค ทำงานด้วยระบบธรรมชาติแบบครบวงจร
- แสนดี แอปพลิเคชันเพื่อการบริจาค อำนวยความสะดวกให้กับมูลนิธิทั่วไทย ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกของผู้ให้ และตรงกับความต้องการของผู้รับ ก่อตั้งโดยเด็กสาวอายุเพียง 15 ปี
- Banana Land ศูนย์แปรรูปกล้วยน้ำว้าที่พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว และสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน
ไม่เพียงแต่คนที่มีธุรกิจแล้วเท่านั้นที่จะสามารถมาต่อยอดในรายการนี้ หากแต่ประตูโอกาสของ Win Win WAR ยังอ้ากว้างเพื่อทุกคนที่มีไอเดียและความฝัน แค่กล้าที่จะเอาความปรารถนาเบื้องลึกภายในจิตใจมาเปลี่ยนเป็นความจริง และมีความอยากที่จะลงมือทำอย่างสุดความสามารถเพื่อฝันของตัวเอง สังคม และสิ่งแวดล้อม ก็สามารถไปสู่จุดหมายกับรายการนี้ได้เช่นกัน
https://www.youtube.com/watch?v=NQ7axKnyNxw
รายการ Win Win WAR Thailand ซีซัน 2
ถ้าแพสชันของคุณคือการได้มีธุรกิจที่เติบโตไปกับสิ่งแวดล้อมหรือสังคมที่ยั่งยืน ไม่มองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัว มีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักในคุณค่าการใช้ชีวิตร่วมกัน เพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของโลกให้ดีขึ้น เลื่อนนิ้วมือ คลิกลิงก์ bit.ly/2I3U6tP ไปด้วยความมั่นใจ หรือก้าวออกไปท้าฝันด้วยตนเองที่ C asean ชั้น 10 อาคาร CW Tower ข้อมูลเพิ่มเติม คอลเซ็นเตอร์ โทร. 0 2785 9999
สังคมกำลังต้องการคนอย่างคุณ และเราเชื่อว่าคุณมาถูกทางแล้ว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
