หลังจากที่ปล่อยให้ Pizza Massilia เป็นที่รู้จักในหมู่คนรักพิซซ่ามานาน ในที่สุดเขาก็ได้เปิดตัวน้องสาวคนใหม่สายเลือดอิตาเลียน Pizzaiola ที่มีความสนุกสดใสมากขึ้นกว่าเดิม แต่ยังคงรสชาติอิตาเลียนเข้มข้นไม่แพ้พี่ชาย
Pizzaiola (พิซซ่าโยล่า) คือโปรเจกต์ล่าสุดของ ลูก้า แอปพิโน ผู้อยู่เบื้องหลัง Pizza Massilia และ La Bottega di Luca โดยได้ 2 เชฟสัญชาติอิตาลี มาเป็นผู้ดูแลและสร้างสรรค์ความอร่อย
The Vibe
ตัวร้านตั้งอยู่ในเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 โซนเอเทรียม โดดเด่นด้วยป้ายไฟนีออน และสีสันสดใสสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนสีฟ้า-ขาว ตัดกับสภาพแวดล้อม แถมยังมีครัวเปิดที่เชฟเตรียมทำพิซซ่าสดใหม่ทุกถาด ซึ่งใครชอบสังเกตเชฟทำอาหาร ก็เลือกนั่งที่บาร์ยาวหน้าครัวนี้ได้
บรรยากาศภายในร้านโล่งโปร่งน่านั่ง
ร้านพิซซ่าจะขาดเตาไปได้อย่างไร
The Dishes
อาหารอิตาเลียนที่นี่ได้ เชฟมิเคเล เฟอร์นันโด และ เชฟมัสสิโม เวอร์ซินี่ เป็นผู้ร่วมดูแลและควบคุมคุณภาพ โดยสรรหาวัตถุดิบจากอิตาลีและทั่วโลก และยังมีวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยร่วมโรงผสมรสชาติเช่นกัน
พอเป็นอาหารอิตาเลียน เมนูกินเล่นก็มักจะนึกถึงโคลด์คัตกับชีส พร้อมถั่วและผลไม้แห้ง แต่จริงๆ แล้วของกินเล่นสไตล์อิตาเลียนมีมากกว่านั้น และโชคดีที่ Pizzaiola มีให้ลิ้มลองกันด้วย Gnocco Fritto & Prosciutto (390 บาท) แป้งพิซซ่าทอดกรอบแท่งยาว สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน กินคู่กับพาร์มาแฮมที่บ่มไว้นานถึง 24 เดือน รสชาติเข้มข้น เข้ากันดีกับแป้งทอดยอกโก้ เมนูนี้เป็นที่นิยมรับประทานกันในแถบ Emilia-Romagna ทางตอนเหนือของอิตาลี
Gnocco Fritto & Prosciutto
ต่อด้วยพาสต้ากันบ้าง เราเชื่อในคำกล่าวที่ว่า Basic is the best เมื่อ Spaghetti Crabmeat AOP (390 บาท) จานนี้เป็นพาสต้าตำรับเนเปิลส์ โดยนำเส้นสปาเกตตีและเนื้อปูผัดน้ำมันมะกอก กระเทียม และพริก เพิ่มรสเปรี้ยวเล็กๆ ด้วยมะเขือเทศเชอร์รี จานนี้มีความเผ็ดร้อนนิดหน่อย กินตัดเลี่ยนอาหารจานอื่นได้ดี
Spaghetti Crabmeat AOP
มาถึงเมนูพิซซ่า ที่นี่มีพิซซ่าหลายหมวดหลายหน้าให้เลือกรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นคลาสสิกพิซซ่า พรีเมียมพิซซ่า ฟิวชันพิซซ่าที่มีรสชาติไทยๆ ตลอดจนพิซซ่าหน้าของหวาน พิซซ่าที่นี่ใช้แป้งออร์แกนิกจากอิตาลี 2 ชนิด ผสมเข้าด้วยกัน ซึ่งแป้งทั้งสองชนิดนี้ให้คาแรกเตอร์พิซซ่าที่มีความหนาและกรอบไปพร้อมๆ กัน โดยอบในเตาขนาดใหญ่ที่อุณหภูมิ 300 องศาเซลเซียส นาน 3-5 นาที จนได้พิซซ่าที่มีสัมผัสกรอบ ชิ้นหนา ส่วนเบสของพิซซ่าทุกตัวทาด้วยซอสมะเขือเทศกับมอสซาเรลลาชีส
ทำกันสดๆ ที่ร้านเลย
ถาดแรก Burrata & Capocollo Calabro Pizza (L 590 บาท) เป็นพิซซ่าที่ใช้ส่วนผสมชั้นดีอย่างบูราต้าชีสที่มีรสชาติครีมมี่เข้มข้น กับคาโปคอลโล คาลาโบร แฮมส่วนหลังคอที่เป็นโคลด์คัตขึ้นชื่อจากแคว้นคาลาเบรียทางตะวันตกเฉียงใต้ของอิตาลี ซึ่งความพิเศษของแฮมนี้อยู่ที่การเอจจิ้งหรือบ่มนานกว่า 200 วัน จนได้กลิ่นและรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ หากกินแฮมเดี่ยวๆ อาจจะดูเค็มไป แต่เมื่อได้ความนุ่มและครีมมี่จากบูราต้าชีสมาผสม ความอร่อยก็บังเกิด
Burrata & Capocollo Calabro Pizza
เราไม่ค่อยสันทัดเรื่องอาหารฟิวชันเท่าไร แต่สำหรับพิซซ่าไส้อั่วของที่นี่ถือเป็นข้อยกเว้น Sai Ua Chiang Mai Sausages Pizza (L 340 บาท / M 270 บาท) เพราะทำออกมาได้ค่อนข้างถูกปากคนไทย ในขณะเดียวกันก็ยังคงสัมผัสเหนียวนุ่มของแป้งและขอบบางกรอบตามตำรับอิตาเลียนได้ดี พิซซ่าถาดนี้มีไส้อั่วเชียงใหม่เป็นท็อปปิ้ง โรยหน้าด้วยแคปหมูเพื่อเพิ่มสัมผัสกรุบกรอบ ส่วนความเผ็ดร้อนที่นอกจากมาในไส้อั่วแล้ว ก็ยังมาจากพริกขี้หนูด้วย แถมมีกลิ่นหอมของผักชี ก่อนกินเราแนะนำให้เหยาะน้ำมันมะกอกเพื่อให้รับประทานได้คล่องคอยิ่งขึ้น
Sai Ua Chiang Mai Sausages Pizza
นอกจากพิซซ่าและพาสต้า ยังมีเมนูสันคอหมู Bombette Cisternino (430 บาท) ที่ขึ้นชื่อทางตอนใต้ของอิตาลี เป็นสันคอหมูหมักสอดไส้ชีสคาซิโอคาวัลโลเสียบไม้ย่าง ในจานมาพร้อมมันฝรั่งกับมะเขือเทศย่าง โรยเกล็ดขนมปัง
Bombette Cisternino
ปิดท้ายมื้อด้วยพิซซ่า ใช่แล้ว อ่านไม่ผิดหรอก เพราะพิซซ่าที่นี่มีทั้งพิซซ่าหน้าคาวและหน้าหวาน สำหรับพิซซ่าของหวาน ลองสั่ง Pizza Color (260 บาท) ที่เบสด้วยช็อกโกแลตนูเทลล่าที่มาแทนชีสกับซอสมะเขือเทศ อบด้วยความร้อนต่ำกว่าพิซซ่าปกติเล็กน้อย แล้วจึงโรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งกับช็อกโกแลต M&M ปิดท้าย
Pizza Color
What You Should Know:
- Pizzaiola เป็นคำภาษาอิตาเลียน หมายถึง หญิงสาวผู้ทำพิซซ่า ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาพยนตร์อิตาเลียน L’oro di Napoli (The Gold of Naples) ที่ฉายเมื่อปี 1957 นำแสดงโดยดาราสาวชื่อดัง โซเฟีย ลอเรน
Pizzaiola
Address: ชั้น 7 โซนเอเทรียม เซ็นทรัลเวิลด์
Open: ทุกวัน 11.00-21.00 น.
Contact: 06 2592 8586, 0 2252 8827
Budget: 500-1,500 บาท
Page: www.facebook.com/Pizzaiolabkk
Maps:
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล