×

จับตาสหรัฐฯ-จีนเตรียมเจรจาการค้ารอบใหม่, ยุโรปเตรียมเผยยอดค้าปลีกสะท้อนภาคการบริโภค, ธปท. ไม่ปิดช่องพิจารณาลดดอกเบี้ย: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (4 ก.ค. 2562)

โดย FINNOMENA
04.07.2019
  • LOADING...
  • แบงก์ชาติส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยในงานสัมมนา KBank Private Banking วานนี้ว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันไม่ได้เลวร้ายมากนัก โดยคาดว่าปีนี้จะขยายตัวได้ 3.3% แต่มีความท้าทายด้านต่างประเทศ ส่วนเรื่องดอกเบี้ยนโยบายก็ไม่ได้ปิดช่องที่จะพิจารณาปรับลดในตอนนี้ เพราะต้องรอดูความเสี่ยงต่างๆ มาประกอบการตัดสินใจ แต่การขึ้นดอกเบี้ยมีโอกาสน้อยลง เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวกว่าที่คาด

 

  • จับตาตัวเลขยอดค้าปลีกยุโรป หลังจากที่เศรษฐกิจยุโรปในช่วงที่ผ่านมายังไม่สามารถฟื้นตัวได้ดีนัก ขณะที่เงินเฟ้อปรับตัวลงต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย 2% อย่างต่อเนื่อง แต่มีการบริโภคภาคเอกชนช่วยหนุนเศรษฐกิจไว้ ดังนั้นจึงสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่ก็อยู่ในระดับต่ำ สำหรับวันนี้สำนักงานสถิติยุโรปมีกำหนดจะประกาศดัชนียอดขายปลีก (Retail Sales) ยุโรป ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดยอดขายทั้งหมดในระดับการค้าปลีกที่สะท้อนถึงการบริโภคของผู้บริโภคจำนวนมากในเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะฟื้นตัวโดยขยายตัว 0.4% (MoM) จากครั้งก่อนที่หดตัว -0.4%

 

  • จับตานโยบายสหรัฐฯ ที่มีต่อทั่วโลก หลังจากการประชุม G20 ที่ผ่านมา สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีท่าทีประนีประนอมมากขึ้นเมื่อสองประเทศเปิดการเจรจารอบใหม่และเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้าจีนออกไป ขณะที่วานนี้ ลาร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยว่าสหรัฐฯ เตรียมการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์เบื้องต้นก่อนในสัปดาห์นี้ และยืนยันว่าจะมีการพบปะกันอีกครั้งในอนาคต ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสวนทางกับท่าทีของทรัมป์ที่ทวีตข้อความกล่าวหาจีนและสหภาพยุโรปว่าเป็นผู้แทรกแซงค่าเงินรายใหญ่ของโลก 

 

  • จีนกล่าวหาสหราชอาณาจักรว่าแทรกแซงกิจการภายในจากกรณีการประท้วงของประชาชนในฮ่องกงที่ดำเนินยืดเยื้อและทวีความรุนแรงมากขึ้น หลัง เจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษเตือนว่าอาจมีผลลัพธ์ร้ายแรงตามมา หากจีนไม่ยึดมั่นการปกครองแบบ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ ที่เคยลงนามไว้เมื่อปี 1984 ก่อนที่จะส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนในเวลาต่อมา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่าฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน และอังกฤษไม่ใช่ผู้พิทักษ์ของฮ่องกงแต่อย่างใด

 

  • กำแพงภาษีสหรัฐฯ ขยายสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยสหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีเหล็กนำเข้าจากเวียดนามกว่า 400% หลังพบว่าผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าที่ทนต่อการกัดกร่อน และเหล็กกล้ารีดเย็นที่ผลิตในเวียดนามโดยใช้สารตั้งต้นของเกาหลีใต้และไต้หวันนั้นได้หลบเลี่ยงภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดและภาษีต่อต้านการอุดหนุนของสหรัฐฯ ซึ่งภาษีดังกล่าวถูกเรียกเก็บต่อผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าของเกาหลีใต้และไต้หวันในเดือนธันวาคม ปี 2558 และในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2559 โดยนับตั้งแต่นั้นจนถึงเดือนเมษายน ปี 2562 ยอดส่งออกเหล็กจากเวียดนามไปสหรัฐฯ พุ่งขึ้นถึง 332% และ 916% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 

สภาวะตลาดวานนี้

  • เอเชียยังส่งสัญญาณการชะลอทางเศรษฐกิจต่อเนื่องจากตัวเลข PMI ภาคบริการกลุ่มประเทศใหญ่เดือนมิถุนายนที่ออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ภาคการบริการในยุโรปขยายตัวต่อเนื่อง โดยดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนในเดือนมิถุนายนจากสถาบันไฉซินอยู่ที่ระดับ 52.0 ต่ำกว่าคาดที่ระดับ 52.6 ขณะที่ตัวเลข PMI ภาคบริการของอินเดียในเดือนมิถุนายนจากสถาบันนิกเกอิอยู่ที่ระดับ 49.6 ต่ำกว่าคาดที่ 50.4

 

  • สเปนประกาศตัวเลข PMI ภาคบริการเดือนมิถุนายนอยู่ในระดับ 53.6 สูงกว่าคาดที่ 52.7 ขณะที่อิตาลีอยู่ที่ระดับ 50.5 สูงกว่าคาดที่ 50.0 ส่วนฝรั่งเศสประกาศตัวเลข PMI ภาคบริการเดือนเดียวกันที่ 52.9 ต่ำกว่าคาดที่ 53.1 ส่วน PMI ภาคบริการของเยอรมนีอยู่ที่ระดับ 55.8 สูงกว่าคาดที่ 55.6 ขณะที่ภาพรวมทั้งยุโรป PMI ภาคบริการเดือนมิถุนายนขยายตัวที่ 53.6 สูงกว่าคาดที่ 53.4

 

  • อังกฤษยังได้รับแรงกดดันจากกระบวนการ Brexit ที่มีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลให้ PMI ภาคบริการเดือนมิถุนายนชะลอตัวต่อเนื่องที่ 50.2 ขณะที่ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 51.0

 

  • สำหรับสหรัฐฯ ตัวเลข PMI ภาคบริการเดือนมิถุนายนขยายตัว 51.5 สูงกว่าคาดที่ 50.7 แต่ภาคแรงงานขยายตัวน้อยกว่าคาด หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรจากสถาบัน ADP เดือนมิถุนายนอยู่ที่ 102,000 คน ต่ำกว่าคาดที่ 140,000 คน

 

ยุโรป

  • STOXX600 ปิดที่ 389.29 เพิ่มขึ้น 1.42 (+0.37%)
  • DAX ปิดที่ 12,616.24 เพิ่มขึ้น 89.52 (+0.71%)
  • FTSE 100 ปิดที่ 7,609.32 เพิ่มขึ้น 50.13 (+0.66%)
  • FTSE MIB ปิดที่ 21,905.34 เพิ่มขึ้น 512.47 (+2.40%)

 

เอเชีย

  • S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,685.50 เพิ่มขึ้น 32.30 (+0.49%)
  • Shanghai ปิดที่ 3,015.26 ลดลง 28.68 (-0.94%)
  • Hang Seng ปิดที่ 28,855.14 เพิ่มขึ้น 20.42 (+0.07%)
  • KOSPI ปิดที่ 2,096.02 ลดลง 26.00 (-1.23%)
  • BSE Sensex ปิดที่ 39,586.41 ลดลง 5.67 (-0.01%)
  • Nikkei ปิดที่ 21,638.16 ลดลง 116.11 (-0.53%)
  • SET ปิดที่ 1,738.51 เพิ่มขึ้น 6.28 (+0.36%)

 

อเมริกา

  • DOW30 ปิดที่ 26,966.00 เพิ่มขึ้น 179.32 (+0.67%)
  • S&P500 ปิดที่ 2,995.62 เพิ่มขึ้น 22.61 (+0.76%)
  • NASDAQ ปิดที่ 8,170.23 เพิ่มขึ้น 61.14 (+0.75%)

 

Commodities

  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.09 เหรียญสหรัฐ หรือ 1.9% ปิดที่ 57.34 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 1.42 เหรียญสหรัฐ หรือ 2.3% ปิดที่ 63.82 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 12.9 เหรียญสหรัฐ หรือ 0.92% ปิดที่ 1,420.90 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์

 

finnomena in partnership

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • Infoquest
  • Bloomberg
  • Investing
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising