เมื่อโผคณะรัฐมนตรี ‘ประยุทธ์’ เฟส 2 เริ่มนิ่ง ความเคลื่อนไหวของผู้ไม่สมหวังย่อมปรากฏ
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) เอกราช ช่างเหลา ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในแม่ทัพลุยศึกเลือกตั้งภาคอีสานของพรรค ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้กลุ่ม ส.ส. อีสาน พรรคพลังประชารัฐทุกคนล้วนกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการที่พรรคจัดสรรตำแหน่งต่างๆ ให้ ส.ส. ของพรรค ถึงขั้นกลัวว่าจะถูกลอยแพ
โดยยืนยันในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคที่จะต้องมีอยู่ทุกภาค แม้แต่ภาคอีสานมีเสียง 2 คน ก็ต้องมีรัฐมนตรี 1 คน เพื่อที่จะขับเคลื่อนนโยบายของพรรค แต่ ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐเราไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้บริหารพรรคอย่างที่ควร จึงอยากจะสื่อไปถึงผู้บริหารให้ดูแลและให้ความเป็นธรรมอย่างทั่วถึงด้วย ถ้าไม่อย่างนั้น กลุ่ม ส.ส. ภาคอีสานจะหารือกัน และทบทวนการทำงานร่วมกับพรรคพลังประชารัฐต่อไป
ส่วนมาตรการหลังจากนี้คงไม่ใช่การลาออก ส่วนจะทำอย่างไร เราจะวางมาตรการ พวกเราใน 20 จังหวัด จะมาคุยกัน แล้วก็จะมีมติร่วมกันว่าเราจะขับเคลื่อนไปในแนวทางที่พวกเราเห็นสมควร ซึ่งอาจจะไม่เป็นไปตามมติของพรรคก็ได้
สำหรับความเคลื่อนไหวกดดันขอโควตาตำแหน่งต่างๆ ของพรรคร่วมรัฐบาล 19 พรรคก่อนหน้านี้ คือ ดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ซึ่งเคลื่อนไหวขอดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่เช่นนั้นจะออกไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ หลังมีข่าวว่าตกไปเป็นโควตาของพรรคชาติไทยพัฒนา
ขณะเดียวกัน ยังมีกระแสข่าวว่า ชัชวาลย์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย ก็มีอาการน้อยใจ เพราะไม่ได้รับการเหลียวแลหลังตอบรับเข้าร่วมรัฐบาล
ด้าน ธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะพิจารณาเพียงคนเดียว ดังนั้น ควรให้เกียรติและเคารพการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เชื่อว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะพิจารณาตามความเหมาะสมสำหรับบุคคลที่จะเข้าไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวง จึงอยากให้ทุกฝ่ายยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก
ส่วนกรณี เอกราช ช่างเหลา ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่า ภาคอีสานตอนบนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดสรรตำแหน่งนั้น ทางผู้บริหารของพรรคให้ความสำคัญกับทุกภาค และดูถึงความเหมาะสมเป็นหลัก
สุดท้าย พล.อ. ประยุทธ์ จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งต้องให้เกียรติในการตัดสินใจ ส่วนกรณีที่มีการรายงานข่าวว่า เอกราชอยู่ในกลุ่มสามมิตรนั้นก็ไม่เป็นความจริง เอกราชไม่ได้อยู่ในกลุ่มสามมิตร ที่สำคัญ ขณะนี้ไม่มีกลุ่มสามมิตรแล้ว มีแต่พลังประชารัฐเพียงหนึ่งเดียว
อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งรัฐมนตรีมีจำกัด ย่อมมีคนผิดหวังและสมหวังเป็นธรรมดา แต่ตนเชื่อว่า ทุกอย่างจะสามารถทำความเข้าใจกันได้ เพราะที่ผ่านมาทุกคนต่างก็ทำงานให้พรรคอย่างเต็มที่
“และต้องขอย้ำอีกครั้ง เพราะเวลานี้ใครผิดหวังในการจัดตั้งรัฐบาล ใครจะออกมาเรียกร้องอะไร ก็อยู่กลุ่มสามมิตร การจะนำเสนออะไร หากสงสัยหรือไม่ชัวร์ ก็โยนให้สามมิตร ผมว่าพอเถอะครับ เพราะเวลานี้เรามีเพียงอย่างเดียวคือ พรรคพลังประชารัฐ อย่าโยงไปเรื่อย เพราะคนถูกกล่าวหาและโจมตี คือแกนนำที่ไม่รู้เรื่อง และกลับกลายเป็นการโยนบาป ทั้งที่เขามิได้กระทำ” ธนกรกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล