- จับตาสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ หลังเกิดเหตุการณ์เรือขนส่งน้ำมัน 2 ลำของบริษัท Frontline และ Kokuka Sangyo ถูกโจมตีบริเวณอ่าวโอมาน ด้านสหรัฐฯ กล่าวหาอิหร่านว่าเป็นผู้ลงมือและเรียกร้องให้รับผิดชอบการกระทำดังกล่าว ขณะที่ทางการอิหร่านระบุว่าเป็นฝีมือของกลุ่มที่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและสหรัฐฯ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างที่ อาเบะ ชินโซ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เยือนอิหร่านเพื่อพยายามไกล่เกลี่ยความตึงเครียดระหว่างสองประเทศ
- หลิวเหอ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจของจีน เรียกร้องให้ทางการจีนเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับแรงกดดันด้านสงครามการค้าที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวช้าลงได้ โดยระบุว่าทางการจีนมีเครื่องมือด้านนโยบายจำนวนมากและสามารถรับมือความท้าทายต่างๆ ได้ แม้จะต้องเผชิญกับภาวะกดดันสูงสุดจากสหรัฐฯ ก็ตาม
- ความคาดหวังของนักลงทุนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวานนี้สหรัฐฯ ประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมาแย่กว่าที่คาด เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ระดับ 222,000 คน ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 216,000 คน ขณะที่ตัวเลขดัชนีราคาสินค้าส่งออกเดือนพฤษภาคมปรับตัวลง 0.2% ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 0.1% และต่ำกว่าครั้งก่อนที่ขยายตัว 0.1% สะท้อนเศรษฐกิจที่ขยายตัวลดลง โดยการประชุมด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเกิดขึ้นวันที่ 19 มิถุนายนนี้
- จับตาตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม จำนวนสินเชื่อรายใหม่ และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน ซึ่งเป็นดัชนียืนยันทางเศรษฐกิจที่สะท้อนว่ามาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจที่ทางการจีนนำมาใช้อย่างต่อเนื่องนั้นได้รับการตอบสนองหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจมีอัตราช้าลงสู่ระดับ 6.4% เป็นครั้งแรก
- จับตาดัชนียอดขายปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) ของสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนการบริโภคของประเทศ หลังจากที่ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณขยายตัวลดลงวานนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีดังกล่าวจะขยายตัว 0.5% (MoM) เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนหน้าที่ 0.1% ซึ่งหากประกาศออกมาต่ำกว่าคาดอาจส่งผลกดดันไปยังการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 19 มิถุนายนก็เป็นได้
สภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดที่ 1,674.14 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.03 จุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,889.63 ล้านบาท โดยนับตั้งแต่ MSCI ประกาศเพิ่มน้ำหนักขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา มียอดซื้อสุทธิแล้วรวม 37,538.09 ล้านบาท สะท้อนว่ายังเป็นปัจจัยหลักที่หนุนตลาดหุ้นไทยให้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- บอริส จอห์นสัน ตัวเต็งว่าที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ มีคะแนนนำโด่งในการโหวตรอบแรกของศึกชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ส่วน เจเรมี ฮันต์ ได้รับคะแนนตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 43 คะแนน ขณะที่ ไมเคิล โกฟ ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับ 3 ที่ 37 คะแนน โดยการลงคะแนนโหวตในครั้งถัดไปคือวันอังคารที่ 18 มิถุนายนนี้ และจะประกาศผู้ชนะในวันที่ 22 กรกฎาคม
- สหภาพยุโรปจะไม่เปิดการเจรจา Brexit อีกครั้ง ไม่ว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่จะเป็นใครก็ตาม เป็นการกล่าวย้ำจากนายกรัฐมนตรีลักเซมเบิร์ก แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีโอกาสหารือกันในประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง คาดประเด็น Brexit ยังไม่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นยุโรปมากนักจนกว่าจะเข้าใกล้วันครบกำหนดที่ต้องดำเนินกระบวนการ Brexit หรือจนกว่าจะเกิดข้อตกลงที่รัฐสภาสหราชอาณาจักรยอมรับ
- เหตุการณ์เรือขนส่งน้ำมันถูกโจมตี ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุด 5% จากจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาบวกสุทธิ 2.2% หนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นทั่วโลก
- โฮเวิร์ด มาร์กส์ ผู้บริหาร Oaktree Capital Management ที่บริหารเงินนักลงทุนกว่า 119 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เตือนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยและเงื่อนไขทางเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ผิดเพี้ยน เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยที่อัตราเงินเฟ้อไม่ขยายตัว บริษัทจดทะเบียนสามารถเติบโตได้แม้จะไม่มีผลกำไร หรืออัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มขยับต่ำลงได้อีก โดยมองว่าการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจเป็นเพียงการชะลอการถดถอยของเศรษฐกิจ และความคาดหวังที่มากเกินไปของนักลงทุนในตลาดหุ้นอาจเป็นฝันร้ายในอนาคต
อเมริกา
- DOW30 ปิดที่ 26,106.77 จุด เพิ่มขึ้น 101.94 จุด (+0.39% )
- S&P500 ปิดที่ 2,891.64 จุด เพิ่มขึ้น 11.80 จุด (+0.41%)
- NASDAQ ปิดที่ 7,837.13 จุด เพิ่มขึ้น 44.41 จุด
ยุโรป
- STOXX600 ปิดที่ 380.28 เพิ่มขึ้น 0.54 (+0.14%)
- DAX ปิดที่ 12,169.27 เพิ่ม 54.96 (+0.45%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7,366.73 ลดลง 0.59 (-0.01%)
- FTSE MIB ปิดที่ 20,626.50 เพิ่มขึ้น 155.00 (+0.76%)
เอเชีย
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,542.40 ลดลง 1.30 (-0.02%)
- KOSPI ปิดที่ 2,103.15 ลดลง 5.60 (-0.27%)
- Shanghai ปิดที่ 2,910.74 เพิ่มขึ้น 1.36 (+0.05%)
- Hang Seng ปิดที่ 27,255.00 เพิ่มขึ้น 3.50 (+0.01%)
- BSE Sensex ปิดที่ 39,784.52 ลดลง 15.45 (-0.04%)
- Nikkei ปิดที่ 21,018.50 ลดลง 121.50 (-0.57%)
- SET ปิดที่ 1,674.14 เพิ่มขึ้น 3.03 (+0.18%)
Commodities
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.14 เหรียญสหรัฐ หรือ 2.2% ปิดที่ 52.28 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.34 เหรียญสหรัฐ หรือ 2.2% ปิดที่ 61.31 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 6.90 เหรียญสหรัฐ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,343.70 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: Infoquest, Bloomberg, Investing