หลังจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีภาพถ่ายของ ช่อ-พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนจำนวนหนึ่งที่โพสต์ภาพสมัยที่ใส่ชุดครุยตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ เผยว่าถึงตอนนี้ยังไม่มีใครแจ้งความพรรณิการ์ฐานผิดมาตรา 112 แต่เบื้องต้นได้มีการตั้งทีมตรวจสอบประวัติย้อนหลัง ส่วนปัญหาที่พรรณิการ์ตั้งค่าเฟซบุ๊กเป็นส่วนตัว ยืนยันไม่กระทบการทำงาน เพราะได้รวบรวมข้อมูลบางส่วนไว้แล้ว
วันนี้ (12 มิ.ย.) พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และตำรวจสันติบาล เร่งตรวจสอบการแชร์ภาพในอดีตของพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ทั้งสื่อโซเชียลอย่างเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และช่องทางอื่นๆ ซึ่งทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์เป็นหลัก
เบื้องต้นผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้สั่งการให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบประวัติย้อนหลัง และคาดว่าเมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้นจะรายงานผลต่อพลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ทราบโดยเร็ว พร้อมยืนยันว่าการทำงานของของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะพิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ โปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้
โดยพันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ กล่าวเสริมว่า “ตอนนี้ยังไม่มีผู้ใดแจ้งความดำเนินคดีบุคคลการเมืองใดตามความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 ซึ่งจะมีอายุความ 20 ปี ส่วนกรณีที่พรรณิการ์ตั้งค่าเฟซบุ๊กเป็นส่วนตัวนั้นคงไม่กระทบต่อการทำงาน เพราะก่อนหน้านี้ตำรวจได้เก็บข้อมูลไว้บางส่วนแล้ว”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์