ความบาดหมางและความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน (โดยเฉพาะ Huawei) ดูจะทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ (21 พ.ค.) เหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Huawei ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CCTV หลังสหรัฐฯ ประกาศบังคับใช้มาตรการห้ามบริษัทในประเทศดำเนินธุรกิจกับ Huawei อย่างเป็นทางการจนส่งผลให้ Huawei และผู้บริโภคได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เหรินบอกว่า “วิธีปฏิบัติของนักการเมืองสหรัฐอเมริกาประเมินศักยภาพของเราต่ำไป เทคโนโลยี 5G ของ Huawei จะไม่ได้รับผลกระทบ ไม่มีใครสามารถไล่ตามเราทันในอีก 2-3 ปีต่อจากนี้
“เราเสียสละอุทิศตนและครอบครัวของเราเพื่อแนวคิดการขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลกเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ไม่ช้าหรือเร็วมันจะต้องเกิดความขัดแย้งกับสหรัฐฯ”
อย่างไรก็ดี แม้ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะประกาศยืดระยะเวลาบังคับใช้โทษระงับการดำเนินธุรกิจกับ Huawei ออกไปอีก 90 วัน เพื่อให้ผู้ให้บริการและผู้บริโภคบางส่วนมีระยะเวลาในการเปลี่ยนผ่านได้ทันเวลา แต่เหรินเชื่อว่าการผ่อนปรนนี้จะไม่มีผลใดๆ และ Huawei เองก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้แล้ว
ปัจจุบันชิปที่ Huawei ใช้งานอยู่ในจำนวน 50% มาจากกำลังการผลิตด้วยบริษัทจีน ขณะที่อีกราว 50% มาจากบริษัทในสหรัฐฯ ซึ่งเหรินยืนยันว่า Huawei ไม่สามารถตัดขาดจากโลกภายนอกได้ “เราสามารถผลิตชิปได้เหมือนกับที่สหรัฐฯ ผลิต แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ซื้อชิปจากพวกเขา”
เมื่อนักข่าวถามว่า Huawei จะต้องประสบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ยาวนานแค่ไหน เขาสวนกลับว่า “คุณอาจจะต้องไปถามคำถามนี้กับทรัมป์นะ ไม่ใช่ผม”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: