เลขาฯ อย. แจง ตอนนี้ใกล้หมดเวลาแจ้งครอบครองนิรโทษกัญชา 21 พฤษภาคม 2562 จึงขอให้ผู้ที่ครอบครองกัญชามาก่อน เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และเอกสารรับรองการเจ็บป่วย เป็นต้น พร้อมเน้นย้ำว่า เกษตรกรรายย่อยไม่สามารถปลูกเองกัญชาได้ ต้องเป็นเกษตรกรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ผ่านการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
วันนี้ (12 พ.ค.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เผยว่า ขณะนี้มีผู้มาแจ้งครอบครองกัญชาแล้วเกือบ 10,000 ราย โดยตอนนี้เริ่มใกล้หมดเวลาแจ้งแล้ว ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาแจ้งครอบครองฯ ได้ทันเวลาที่กำหนด ทางกระทรวงสาธารณสุข จึงมีนโยบายพิจารณาเพิ่มเวลาการรับแจ้งครอบครองฯ ในวันเสาร์หรืออาทิตย์ และเพิ่มสถานที่ในการรับแจ้งยังสถานที่ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ต้องการมาแจ้งครอบครอง
โดยในวันนี้ (12 พ.ค.) อย. เปิดรับแจ้งการครอบครองฯ เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากทางสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้ติดต่อ อย. ขอนำเครือข่ายเกษตรกรและครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ – ปริมณฑล มาแจ้งครอบครองกัญชาเป็นจำนวนกว่า 300 ราย โดย อย. ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อให้บริการรองรับการแจ้งครั้งนี้อย่างเต็มที่
ดังนั้น ทาง อย. จึงขอความร่วมมือให้ผู้ครอบครองรีบมาดำเนินการโดยเร็ว ก่อนสิ้นสุดเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการแจ้งครอบครองกัญชานั้นไม่ได้ยุ่งยาก ผู้ครอบครองกัญชามาก่อนที่อยู่ในกรุงเทพฯ แจ้งได้ที่ อย. ส่วนต่างจังหวัดแจ้งได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยขอให้เตรียมเอกสารหลักฐานให้พร้อม ได้แก่ บัตรประชาชน เอกสารแจ้งการมีกัญชา เอกสารรับรองอาการเจ็บป่วยจากแพทย์ และนำกัญชาที่ใช้ในการรักษาไปด้วย หากมีปริมาณมาก สามารถใช้รูปถ่ายได้
โดยกรณีหากกลุ่มผู้ป่วยมีจำนวนมาก สามารถติดต่อหรือโทรศัพท์ประสานกับ อย. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพื่อแจ้งชื่อ-นามสกุล กำหนดวัน-เวลาที่จะเดินทางไปแจ้งการครอบครองได้ โดยกรอกแบบการแจ้งครอบครองเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว และนำยากัญชาหรือน้ำมันสกัดกัญชาที่ใช้ในการรักษาโรคพร้อมเอกสารต่างๆ ไปแจ้งครอบครองตามที่ได้มีการนัดหมายไว้ แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้ก็ไม่จำเป็นต้องรีบหาซื้อ เพราะอาจได้รับอันตรายในระยะยาวได้
นอกจากนี้ เลขาฯ กล่าวเสริมอีกว่า ในระยะนี้ อย. ยังพบว่า มีการแชร์เรื่องการปลูกกัญชาในสื่อออนไลน์ โดยเป็นเอกสารเผยแพร่ที่ระบุให้แจ้งครอบครองภายในกำหนด และให้ประชาชนสามารถขอปลูกกัญชาได้ หรือกล่าวถึงโรคต่างๆ แล้วให้นำใบรับรองแพทย์ไปขอปลูกกัญชาเพื่อรักษาโรค อย. ขอแจ้งให้ทราบว่า การรับแจ้งที่ อย. หรือ สสจ. ในขณะนี้ เป็นการแจ้งครอบครองกัญชาเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ทางการแพทย์หรือใช้รักษาโรคเท่านั้น ไม่ใช่การอนุญาตให้ปลูกกัญชาแต่อย่างใด
พร้อมย้ำว่า เกษตรกรรายย่อยไม่สามารถปลูกกัญชาได้ ต้องเป็นเกษตรกรที่รวมตัวเป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือสหกรณ์การเกษตร ซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมาย และร่วมดำเนินการกับหน่วยงานของรัฐ หรือกรณีที่มีโครงการร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์ และยังต้องดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐด้วย ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติด จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลวงดังกล่าว หากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่สายด่วน อย. 1556 กด 3
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: