‘กลุ่มจิราธิวัฒน์’ ซื้อถือหุ้น ‘เนชั่น’ กุมสื่อ 2 ค่าย ‘บางกอกโพสต์-เนชั่น’

     พาดหัวข่าววันนี้จากเว็บไซต์ positioningmag.com อาจสร้างความหวือหวา แต่ความจริงภายใต้ดีลนี้ หลายสำนักข่าวยังไม่ยืนยันว่าจะเป็นการฮุบสื่อของตระกูล ‘จิราธิวัฒน์’ เจ้าของธุรกิจค้าปลีกใหญ่ในประเทศไทย

     สำนักข่าว Voice TV ใช้คำว่า ‘มีกระแสข่าว’ ว่า บริษัท CHIT LOM LIMITED ที่เข้าซื้อหุ้นต่อจากบริษัท DIGITAL SKY HOLDINGS LIMITED เป็นธุรกิจในเครือตระกูลจิราธิวัฒน์

     แต่นั่นก็เป็นแค่การสันนิษฐาน เพราะความจริงยังไม่มีสำนักข่าวใดยืนยันโดยหลักฐานหรือเอกสารว่า บริษัทดังกล่าวเป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์

     กระทั่งล่าสุด positioningmag.com ออกมาให้ข่าวปฏิเสธข่าวของตัวเองว่า ‘จิราธิวัฒน์’ ปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท CHIT LOM LIMITED ซื้อหุ้น ‘เนชั่น’ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนที่ ‘ฮ่องกง’

     ถึงกระนั้น ก็ใช่ว่าเหตุผลข้างต้นจะมีน้ำหนักจนถึงขั้นตัดข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับตระกูลจิราธิวัฒน์ออกไปจากดีลที่เกิดขึ้น

     แม้ว่าสื่อบางสำนักจะ ‘ตื่นข่าว’ และเร่งด่วนสรุปไปสักหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะชวนให้คิดต่อไม่ได้ว่า ถ้าบริษัท CHIT LOM LIMITED เป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์ขึ้นมาจริงๆ

     ดีลครั้งนี้สะท้อนอะไร ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด

ผู้ซื้อ-ผู้ขายหุ้นเป็นบริษัทจดทะเบียนที่ ‘ฮ่องกง’

     ในเว็บของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. ได้แสดงแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (capital.sec.or.th/webapp/corp_fin/daily246.php) ซึ่งเป็นแหล่งอ้างอิงของดีลดังกล่าว

     ซึ่งรายงานการ ‘จำหน่าย’ หุ้นเนชั่น หรือ บมจ. เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ของบริษัท DIGITAL SKY HOLDINGS LIMITED

     และ ‘ได้มา’ หุ้นเนชั่น ของบริษัท CHIT LOM LIMITED

     โดยมีเอกสาร ยืนยันการ ‘ได้มา’ ที่ระบุว่า CHIT LOM LIMITED เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกง และมีบุคคลชื่อ ลีโอ ชาน (Leo Chan) เป็นผู้มีอำนาจในการติดต่อ

     ไม่มีใครรู้ว่าลีโอ ชาน เป็นใคร เกี่ยวข้องกับจิราธิวัฒน์หรือไม่

     เพราะเบาะแสเกี่ยวกับตัวเขาในเอกสารดังกล่าว มีแค่…

     เบอร์ติดต่อ +852 2106 0860

     และอีเมล [email protected] เท่านั้น

รายงานการเข้าซื้อหุ้นเนชั่นของบริษัท CHIT LOM LIMITED

บริษัท CHIT LOM LIMITED จดทะเบียนในฮ่องกง

     เมื่อนำชื่อ asmhk.com ไปเสิร์ชก็พบว่า asmhk เป็นบริษัทด้านการลงทุนชื่อ Argyle Street Management ก่อตั้งในฮ่องกง ปี 2002

     นักลงทุนในสถานการณ์พิเศษในเอเชีย บริหารจัดการสินทรัพย์ประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีพนักงานราว 53 คนในฮ่องกง, ไทย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา

     มีความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการในประเทศจีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะทำให้เครือข่ายการจัดหาของเราแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเรา

     ข้อมูลจากเว็บไซต์ asmhk.com 

 รายงานการขายหุ้นเนชั่นของบริษัท DIGITAL SKY HOLDINGS LIMITED

     บริษัท DIGITAL SKY HOLDINGS LIMITED ก็จดทะเบียนในฮ่องกงเช่นกัน

     ขณะที่ในรายงานการขายหุ้นเนชั่นของบริษัท DIGITAL SKY HOLDINGS LIMITED ระบุว่า เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงเช่นกัน

     ส่วนจะเป็นของ คีรี กาญจนพาสน์ ประธาน บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ BTS ตามที่มี ‘กระแสข่าว’ หรือไม่นั้น

     อาจจะต้องโทรไปถามคุณวินเซนต์ที่เบอร์ +852 4826 1068

     หรือไม่ก็ส่งจดหมายไปที่อีเมล [email protected]

รายงานการซื้อ-ขายหุ้นในเว็บ กลต. ที่หายไป

     นอกจากปริศนา บริษัท CHIT LOM LIMITED ซึ่งจดทะเบียนในฮ่องกง ที่เข้าซื้อหุ้นเนชั่น เป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์หรือไม่

     ยังมีปริศนาอีกหนึ่งเรื่องคือ การหายไปของรายงานการซื้อ-ขายหุ้นเนชั่นในเว็บไซต์ กลต.

     ทีมงาน THE STANDARD ได้เข้าดูข้อมูลรายงานการซื้อขายหุ้นเนชั่นของทั้งสองบริษัทที่ capital.sec.or.th/webapp/corp_fin/daily246.php

     พบว่าเมื่อตอนเวลาประมาณ 16.00 น. ยังพบรายงานการซื้อขายหุ้นดังกล่าว

     รายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ฯ ที่เข้าดูเมื่อเวลา 16.00 น. ในเว็บไซต์ sec.or.th

     แต่เมื่อเข้าไปดูอีกครั้งเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. รายงานดังกล่าวได้หายไปจากจอแสดงผล

     รายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ฯ ที่เข้าดูเมื่อเวลา 18.30 น. ในเว็บไซต์ sec.or.th พบว่ารายการซื้อ-ขาย ของทั้งสองบริษัทหายไป

ทำไมรายงานการซื้อ-ขายหุ้นเนชั่นในเว็บไซต์ กลต. ถึงหายไป? 

แม้จะจนด้วยคำตอบ แต่ก็ทำให้เกิดคำถามตามมามากมาย

ซื้อหุ้น เปลี่ยน ‘สื่อ’ ให้เป็น ‘กระบอกเสียง’

     ถึงจะไปถาม ‘หมอลักษณ์’ ให้ดูว่าบริษัท CHIT LOM LIMITED เป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์หรือไม่

     คงยากที่จะได้รับคำตอบแบบ ‘ฟันธง’

     แต่ภายใต้การซื้อหุ้นเนชั่นก็มีมุมที่น่าคิดไม่น้อย

     ไตรลุจน์ นวะมะรัตน นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่าความพยายามการซื้อหุ้น NMG ของ บริษัท CHIT LOM LIMITED ล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงขาลงของธุรกิจสื่อที่ผู้บริหารเดิมกำลังประสบกับภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง และต้องการทำให้ธุรกิจอยู่รอดต่อไป จึงต้องหาแนวร่วมใหม่ๆ เข้ามาแบกรับต้นทุน และเป็นการเพิ่มทุนเพื่อขยายธุรกิจให้เกิดกำไรในอนาคต

     นอกจากนี้สำหรับกลุ่มทุนใหญ่ที่สนใจลงทุนในกิจการสื่อ อาจเล็งเห็นแล้วว่าเป็นโอกาสในการใช้สื่อเป็นปากเสียงให้กับสินค้าหรือบริการของตัวเองที่มีอยู่ อีกทั้งยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตการลงทุนของเครือบริษัทตัวเองที่มีทุกประเภทธุรกิจอยู่ในมือ แม้จะยังไม่สามารถทำกำไรได้ในเร็ววัน แต่ยังมีโอกาสอีกมากมายที่จะแปรเปลี่ยนคอนเทนต์ในสื่อเก่าให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในแพลตฟอร์มอื่นๆ ในอนาคต

     “วันนี้ธุรกิจยักษ์ใหญ่ในปัจจุบันเขาไม่ได้แข่งกันโฟกัสที่ธุรกิจเดียวอีกแล้ว แต่เราจะเห็นว่าทุกรายต่างพยายามจะกระจายการลงทุนให้ครอบคลุมในธุรกิจทุกด้านให้มากที่สุด ซึ่งเมื่อมีทุกอย่างอยู่ในมือครบ ถึงวันนั้นจะเห็นภาพรวมเองว่าเขาจะนำธุรกิจแต่ละอย่างมาเอื้อกันให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร ส่วนตัวผมมองว่าเขาคงเห็นโอกาสตรงนั้นมากกว่าที่จะหวังกำไรในระยะสั้น”

     ซึ่งในอนาคตเราอาจได้เห็นความพยายามในการครอบครองสื่อของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่อีกไม่น้อย ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งยังเป็นเพราะมูลค่าของสื่อเหล่านี้กำลังอยู่ในสภาวะที่ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป และเหมาะสมกับการลงทุนช้อนซื้อในอนาคต

องค์กรสื่อ-สินค้าลดราคาที่รอนักช้อปเงินหนามาช้อนซื้อ

     ขณะที่ กิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ถึงดีลนี้กับ THE STANDARAD ว่า อาจไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่นายทุนอยากจะเข้ามาในธุรกิจสื่อโดยตรง เพียงแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สินค้าที่เคยมีราคาแพงอย่างธุรกิจสื่อกลายเป็นสินค้าที่มีราคาถูกลงมามากๆ จนดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน

     “ก่อนหน้านี้ผมเชื่อว่ากลุ่มทุนคงไม่ได้อยากจะเข้ามาในธุรกิจสื่อถ้าไม่จำเป็น เนื่องจากการเข้าไปในธุรกิจสื่อมีโอกาสที่จะถูกต่อต้านได้สูงจากการใช้อำนาจทุนเข้าไปผูกขาด หรือครอบครองสื่อ แต่นั่นคือวันที่สถานการณ์สื่อแข็งแรง เหมือนครั้งที่แกรมมี่เคยพยายามจะเข้าไปเทกโอเวอร์มติชน ซึ่งสุดท้ายก็ต้องถอย เพราะมีกระแสต้านอย่างรุนแรง แต่ในวันนี้สถานการณ์ของสื่อกระแสหลักดูจะอ่อนแอลงไปเยอะมาก ขณะที่สถานการณ์ทางการเงินก็ย่ำแย่ จึงถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจ และแรงต้านมีน้อยลงทั้งจากเจ้าของธุรกิจเอง และสังคม”

     กิจพล ยังตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ถ้าเทียบกับกรณีที่ไทยเบฟฯ เข้าลงทุนในเครืออมรินทร์ และ GMM TV ก่อนหน้านี้ รวมถึงกรณีที่บริษัท CHIT LOM LIMITED เข้าซื้อหุ้นเนชั่น จะเห็นได้ว่าทั้งหมดนี้เป็นการใช้โครงสร้างของบริษัทย่อยในเครือเข้าไปดำเนินการทั้งสิ้น ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการที่กลุ่มทุนมีความกังวลว่าจะถูกสังคมมองในแง่ลบ

     นอกจากนี้ กิจพล ยังเชื่อว่าดีลนี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น เพราะหากย้อนดูภาระขาดทุนของทั้งเครือโพสต์ และเครือเนชั่น จะเห็นว่าทั้งสองบริษัทมีภาระขาดทุนอยู่สูง ไม่น่าจะประคับประคองธุรกิจให้อยู่ในสภาพนี้ได้นานนัก ซึ่งจำเป็นต้องมีการเพิ่มทุนเร็วๆ นี้ในอนาคต

     “รอบนี้เป็นแค่การเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้น แปลว่ามันน่าจะเป็นแค่ก้าวแรก เพราะที่สุดแล้วเมื่อดูสถานการณ์ของเนชั่น คนซื้อก็ต้องทำใจแล้วว่าอีกไม่นานต้องมีการเพิ่มทุนแน่นอน ที่สุดแล้วเราน่าจะได้เห็นการเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่านี้ของบริษัท CHIT LOM LIMITED เพราะก่อนหน้านี้เนชั่นเป็นสมรภูมิสู้รบระหว่างผู้ถือหุ้น 2 กลุ่มมานานมาก แต่ทั้งคู่ก็ไม่มีใครที่มีเงินมากกว่ากัน และอยู่ในจุดที่ไม่มีใครเป็นผู้ชนะโดยเด็ดขาด ด้วยมูลค่าหุ้นที่ลดลง ผลตอบแทนในการสู้กันก็ลดลงเรื่อยๆ ฉะนั้นตอนนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่มีมือที่สามเข้ามา

     “ผมคิดว่าการที่ดีลนี้จะจบและกลายเป็นได้ผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่จะมีสูงมาก เพราะการเพิ่มทุนรอบหน้าคงไม่มีใครมีความสามารถจะใส่เงินเพิ่มได้เยอะนักนอกจากกลุ่มทุนที่เพิ่งมาใหม่”

     แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าบริษัท CHIT LOM LIMITED เป็นตัวแทนของฟากฝั่งกลุ่มทุนใดกันแน่ แต่ที่แน่ๆ ดีลที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้เป็นภาพสะท้อนถึงขาลงของธุรกิจสื่อที่ชัดเจนมากที่สุดอีกครั้ง ซึ่งหลังจากนี้น่าจะมีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นว่าสินค้าลดราคาจะกลายเป็นสินค้าเพิ่มมูลค่าได้หรือไม่