สิงคโปร์ ปารีส และฮ่องกง คว้าแชมป์เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ขณะที่เมืองหลวงเวเนซุเอลารั้งอันดับสุดท้าย
จากรายงานการจัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประจำปีนี้ของ The Economist Intelligence Unit (EIU) ที่ทำการสำรวจและเก็บข้อมูลใน 133 เมืองทั่วโลก พบว่า สิงคโปร์ ปารีส และฮ่องกง คว้าแชมป์เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ปี 2019 นับเป็นการแชร์ตำแหน่งแชมป์ร่วมกันเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีนับตั้งแต่ EIU ทำการจัดอันดับมา
โดยเพื่อนบ้านของไทยอย่างสิงคโปร์ยังครองตำแหน่งแชมป์ด้านค่าครองชีพนี้ได้อีกสมัย โดยปารีสที่ได้อันดับที่ 2 เมื่อปี 2018 ขยับก้าวขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นเมืองเดียวในแถบยูโรโซนที่ติด 10 อันดับแรกนับตั้งแต่ปี 2003 โดยค่าตัดผมผู้หญิงในกรุงปารีสเฉลี่ยอยู่ที่ 119.04 เหรียญสหรัฐ (ราว 3,800 บาท) และมีเขตปกครองพิเศษอย่างเกาะฮ่องกงนั่งเก้าอี้แชมป์ร่วมกัน
นอกจากสิงคโปร์แล้ว เมืองในทวีปเอเชียที่ติดอันดับเมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในครั้งนี้คือ โอซาก้า ที่รั้งอันดับ 5 ร่วม และโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ ที่รั้งอันดับที่ 7 ร่วมกับโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก และนิวยอร์ก โดยเมืองที่มีค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับปี 2018 คือ นูเมอา เมืองหลวงของนิวแคลิโดเนีย ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส ที่ขยับขึ้น 33 อันดับมารั้งอันดับที่ 20 ในปีนี้
ในขณะที่กรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลา รั้งอันดับสุดท้ายของตาราง ครองแชมป์เมืองที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดในโลกประจำปีนี้ หลังอดีตมหาอำนาจด้านน้ำมันสำรองรายใหญ่ที่สุดในโลกประสบปัญหาอย่างหนัก ทั้งวิกฤตเงินเฟ้อ ความแตกแยกทางการเมือง รัฐบาลไม่สามารถตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของพลเมืองได้ ไม่ต่างอะไรกับการเป็นรัฐล้มเหลว ส่งให้ในแต่ละปีมีชาวเวเนซุเอลาหลายล้านคนตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตามมาด้วยกรุงดามัสกัสของซีเรีย (อันดับที่ 132) และกรุงทาชเคนต์ของอุซเบกิสถาน (อันดับที่ 131)
ภาพประกอบ: Nisakorn R.
