ปฏิเสธไม่ได้ว่าถนนทุกสายในเวลานี้กำลังมุ่งไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ทุกอย่างในชีวิตถูกนำมาย่อไว้ในมือถือ นอกจากจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วยังเปิดโอกาสให้เรา ‘ริเริ่ม’ และ ‘ลงมือทำ’ บางอย่างที่ต้องการได้ง่ายขึ้นด้วย
โจทย์สำคัญในวันนี้คือจะทำอย่างไรให้สิ่งที่ตั้งใจลงมือทำมีความ ‘แตกต่าง’ จากคนอื่นๆ
ความสำเร็จของ 4 คนดังที่ประสบความสำเร็จบนโลกดิจิทัล ถูกนำมาเล่า แลกเปลี่ยนมุมมองกับก้าวข้ามผ่านสิ่งต่างๆ มากมายในเวที THE PREMIER Success Forum 2017: BEHIND the PRidE-TITUDE ที่จัดขึ้นโดยบริการเดอะพรีเมียร์ ธนาคารกสิกรไทย
หนึ่งในนั้นคือ ทรงกลด บางยี่ขัน ผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการบริหาร The Cloud สื่อออฟไลน์และออนไลน์ที่ยังเชื่อในพลังของคอนเทนต์ และแนะนำว่า ‘สื่อควรทำตัวให้เล็ก และสร้างคอนเทนต์ที่ใหญ่กว่าตัวเอง’
“ผมเชื่อว่าการทำเรื่องเล่าที่ดีจะสร้างความหมายให้กับคนอื่น ทำเว็บไซต์ไม่ต้องเร็ว ไม่ต้องรีบ ทำงานประณีตก็ได้ ผมเชื่อว่าเราควรทำคอนเทนต์ที่มีความหมายกับผู้อ่าน และคอนเทนต์ที่ดีจะพาตัวเลขที่ดีมาหาเรา”
นอกจากนี้ ทรงกลดยังบอกเล่าถึงประสบการณ์การจัดสมดุลชีวิตการทำงานในโลกที่หมุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วว่า “ผมเคยคิดว่าดัชนีชี้วัดการทำงานคือต้องทำงานหนัก แต่ผมก็ได้เรียนรู้ว่าผมจะไม่ทุ่มสุดแรง แต่จะออมแรงเก็บคนไว้สำหรับงานต่อไป เพราะที่จริงแล้วชีวิตยังมีอีกหลายศึกและหลายสิ่งที่เราต้องใช้พลังสู้ต่อไป เราควรออมแรงทั้งของเราและของทีม รู้จักใส่ใจตัวเองและคนรอบข้างให้มากขึ้น เมื่อชีวิตเรามีความสุข เราจะส่งต่อความสุขและสามารถพัฒนาเป็นงานที่ดีต่อไปได้ เป็นที่มาของการยึดหลักชีวิตว่า ‘ทำตัวให้เล็ก ทำในสิ่งที่เชื่อ และสร้างความสุข’
ด้านสตาร์ทอัพไอคอนที่กรุยทางสู่ความสำเร็จระดับพันล้านอย่าง ณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Ookbee แอปพลิเคชันอีบุ๊กที่มีผู้ใช้งานหลายล้านรายทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ให้คำนิยามความสำเร็จจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาว่า ‘ริเริ่ม เปลี่ยนโลก สำเร็จ’
“ผมเชื่อว่าอีกไม่เกิน 5 ปีถัดจากนี้ เราจะเห็นภาพเกี่ยวกับการทำธุรกิจแบบนี้ชัดเจนขึ้น ผมกับทีมจึงพยายามคิดหาไอเดียใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของคนในยุคนี้ เพราะถือหลักว่ามีไอเดียแล้วต้องลงมือทำ สมัยนี้ต้นทุนด้านเทคโนโลยีถูกกว่าสมัยก่อนมาก ถึงจะเริ่มแล้วล้มก็ไม่เป็นไร ผมเองก็มีหลายไอเดียกว่าจะมาลงตัวที่การทำอีบุ๊ก เคยเจ๊งไปร้อยกว่าล้าน แต่ทุกครั้งที่ลงมือทำจะกำหนดขอบเขตว่ายอมรับได้ที่เท่าไร หยุดถ้าไปต่อไม่ไหว และมองหาโอกาสใหม่ๆ เพราะทุกวันนี้โลกเปลี่ยนและหมุนเร็ว”
ซึ่งณัฐวุฒิยังให้คำแนะนำสำหรับสตาร์ทอัพน้องใหม่และผู้ที่สนใจทำธุรกิจในยุคนี้ว่า ถึงอย่างไร การเริ่มต้นลงมือทำก่อนย่อมได้เปรียบกว่าแน่นอน
“ผมเรียนรู้จากการทำธุรกิจนี้ว่า บางอย่างไม่ต้องเพอร์เฟกต์ทั้งหมด เพราะเราสามารถเอาฟีดแบ็กมาปรับและพัฒนาต่อได้ การทำอะไร บางครั้งไม่สำเร็จ ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยเราก็ได้เรียนรู้”
เช่นเดียวกับ รรินทร์ ทองมา เจ้าของแบรนด์รองเท้าและกระเป๋า O&B ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในโลกออนไลน์ ด้วยรองเท้าหนังแกะ 50 สีที่เน้นขายทั้งในเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก โดยสามารถสร้างรายได้ปีละหลายร้อยล้านบาท ซึ่งความสำเร็จนี้มีที่มาจากหลักคิดที่ว่า ‘เชื่อมั่น ลงมือทำ ทะลุเป้าหมาย’
“ตอนที่เริ่มคิดจะทำอะไรเป็นของตัวเอง ดิฉันถามตัวเองว่าถ้าอายุ 50 แล้วยังไม่ได้ทำอะไรจะเสียใจที่สุด ตอบได้ทันทีคือการมีแบรนด์แฟชั่นเป็นของตัวเอง พอคิดได้จึงลงมือทำทันที”
รรินทร์ยังแชร์ประสบการณ์การเริ่มต้นธุรกิจที่ไม่ได้มีต้นทุนในชีวิตมาก่อน ซึ่งถึงแม้จะผิดพลาด และล้มลุกคลุกคลานมาอย่างโชกโชน แต่ความมุ่งมั่นที่มีอย่างเต็มเปี่ยมก็ทำให้เธอสามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ มาได้
“ดิฉันไม่ได้มีต้นทุนชีวิตอะไรมาเลย จึงไม่มีคอมฟอร์ตโซน เริ่มต้นธุรกิจด้วยเงิน 90,000 บาท ช่วงแรกๆ เริ่มจากแค่ความชอบ ทำให้ผิดพลาดไปหลายอย่างมาก จนได้มาเรียนรู้ว่าสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจคือการบริหารจัดการ ทั้งจัดการคน ระบบบัญชี บริหารสต็อก บริหารการดูแลลูกค้า และอื่นๆ พอเริ่มลงตัวก็มาคิดต่อยอดพัฒนาให้ทันกับกระแสโลก
“ยุคนี้ไม่ใช่ยุคที่แข่งกันที่ความเล็กใหญ่ หรือทุนหนา แต่แข่งกันที่ไอเดียธุรกิจและการสื่อสารในโลกออนไลน์ ตั้งเป้าหมายกับตัวเองและกับทีมว่าเราจะพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตที่สุดเท่าที่คิดว่าจะทำได้ แล้วมุ่งมั่นไปตามนั้น เราอยากให้ O&B เป็นแบรนด์รองเท้าบัลเลต์ที่ดีที่สุดในโลก เป็นแบรนด์รองเท้าที่ต่างชาติมาไทยแล้วต้องนึกถึง ต้องซื้อกลับไปเป็นของฝาก”
ปิดท้ายด้วยเคล็ดลับการทำธุรกิจของ ยอด ชินสุภัคกุล ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน wongnai คลังข้อมูลรีวิวร้านอาหารสำหรับนักชิมชาวไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงเวลาที่ผ่านมา
โดยยอดได้แชร์ประสบการณ์หลังจากเรียนจบปริญญาโท MBA จาก UCLA Anderson เมื่อปี 2553 ก่อนจะรวบรวมเพื่อนพ้อง 4 คนมาระดมสมองเปิดเป็นเว็บไซต์ wongnai.com ซึ่งได้แนวคิดมาจากเว็บไซต์รวบรวมร้านอาหารในสหรัฐฯ อย่าง YELP.COM และมีแนวคิดในการทำธุรกิจจากคำ 3 คำ คือ ‘กล้า เชื่อมั่น คิดแล้วทำ’
“ในช่วง 2 ปีแรกที่ทำเว็บไซต์ wongnai.com เคยรู้สึกท้อแท้ เพราะมีจำนวนคนที่ใช้และรายได้ที่เข้ามาน้อยมาก เว็บไซต์ก็ยังหน้าตาไม่ดีอีก แต่ค่อยๆ ปรับและพัฒนาต่อมาจนสำเร็จ พอธุรกิจเราโตขึ้น สร้างกำไรมากขึ้น ก็ยังมีเรื่องให้คิดมากอีกอยู่ดี โดยเฉพาะปัญหาในการบริหารจัดการ“
แต่สิ่งที่ทำให้ wongnai ข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ จนกลายเป็นเว็บไซต์รีวิวร้านอาหารเบอร์หนึ่งของประเทศได้มาจากการรีบลงมือทำ
“การทำงานต้องมีเป้าหมาย คอยวัดผลงานอยู่ตลอดเวลา และไม่สนใจคู่แข่ง มุ่งหน้าทำหนึ่งสิ่งที่มีเป้าหมาย เพราะเชื่อว่าเราควรเป็นคนนำก่อนที่โลกจะตามทัน เปิดหูเปิดตาให้กว้าง มีโอกาสแล้วรีบลงมือทำ ถ้าช้า เราจะกลายเป็นผู้ตามทันที”
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อคิดดีๆ ที่เกิดขึ้นบนเวที THE PREMIER Success Forum 2017: BEHIND the PRidE-TITUDE ซึ่งน่าจะนำมาปรับใช้ในการทำธุรกิจยุคนี้ได้อย่างมาก แต่สิ่งที่สำคัญกว่าแง่คิดดีๆ คือต้องเริ่มลงมือทำ เพื่อเปลี่ยนโลกใหม่ให้ขับเคลื่อนไปด้วยพลังของตัวคุณเอง