โลกใบใหญ่ของเรานั้นช่างกว้างไกล มีเรื่องราวอีกมากมายให้ค้นหาแรงบันดาลใจกันได้อย่างไม่รู้จบ ทั้งผืนดิน แผ่นน้ำ หรือแม้แต่ใต้ท้องทะเล มนุษย์เราคือเผ่าพันธุ์แห่งการแสวงหาและผจญภัย ที่ใดที่ไม่เคยย่างกรายเข้าไปก็ล้วนแล้วแต่ท้าทายให้หลายคนไปปักธงลงเป็นคนแรกเสมอ
ยิ่งลึกลับ ก็ยิ่งท้าทาย เช่นกันกับโลกใต้น้ำ โลกอีกใบที่คิดเป็น 3 ใน 4 ของโลกทั้งหมด โลกที่รอการค้นพบใหม่จวบจนถึงทุกวันนี้ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ใครต่อใครต่างก็หลงใหล ใคร่รู้ และอยากที่จะไปพบเจอโลกอีกใบนี้ด้วยตัวเอง
ใต้ท้องทะเลมีอะไร ทำไมใครๆ ถึงได้หลงใหลมันนัก
เจมส์ คาเมรอน คือหนึ่งในผู้กำกับที่หลงใหลในท้องทะเลเป็นที่สุด คนรักภาพยนตร์รู้จักเขาในฐานะของผู้กำกับภาพยนตร์ระดับโลกอย่าง Avatar และ Titanic เขาคลั่งไคล้ในโลกใต้ท้องทะเลถึงขั้นลงทุนร่วมกับ National Geographic เพื่อทำการวิเคราะห์ วิจัย และสำรวจเรือไททานิกที่จมลงใต้มหาสมุทรแอตแลนติก
ไบรอัน สเกอร์รี ช่างภาพนิ่งประจำนิตยสาร National Geographic ผู้นำพาโลกลึกลับใต้ท้องทะเลขึ้นบกฝ่าเกลียวคลื่นมาถึงมือผู้อ่าน เขาบอกกับทุกคนว่าหลงใหลในโลกใต้ท้องทะเลมาตั้งแต่เด็กๆ ในช่วงแรก ไบรอันมักลงไปสำรวจสำรวจความมหัศจรรย์ของโลกใต้ท้องทะเลเพื่อมาสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านอยากไปสัมผัสด้วยตัวเอง แต่ในยุคหลังมานี้จะเห็นได้ว่านิตยสาร National Geographic เริ่มผลิตคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์และทำให้ผู้คนเล็งเห็นถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะในพื้นที่ใต้ท้องทะเล ไบรอันจึงเปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่ เป็นการถ่ายภาพที่ทำให้คนเห็นว่า โลกใต้ท้องทะเลที่เขารักนั้นกำลังถูกคุกคามมากน้อยเพียงใด
ซิลเวีย เอิร์ล นักวิทยาศาสตร์ด้านมหาสมุทร ผู้ที่นิตยสาร Time นิยามว่าเป็น ‘Hero of the Planet’ ด้วยความที่เธอค้นคว้าวิจัยด้านท้องทะเลมาเกือบตลอดชีวิต ทั้งร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ และนักบินอวกาศ เธอกล่าวใน TED Talks ว่า “ในห้วงเวลาเดียวกับที่มนุษย์คนแรกเหยียบดวงจันทร์ ฉันก็ตื่นเต้นมากพอๆ กันกับการได้เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้ประทับรอยเท้าลงบนพื้นมหาสมุทร”
เมื่อโลกใต้ท้องทะเลนั้นช่างน่าหลงใหล น่าค้นหา และน่าสำรวจ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนาฬิกา Omega รุ่น Seamaster Professional Diver มาตั้งแต่ปี 1993 ในฐานะของเรือนเวลาคู่มือของนักดำน้ำมาหลากหลายเจเนอเรชัน และนำพาพวกเขาไปค้นพบกับโลกอีกใบที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจไม่รู้จบ
25 ปี แห่งชัยชนะเหนือเกลียวคลื่นและใต้พื้นมหาสมุทร
นาฬิกา Omega เผยโฉมคอลเล็กชันใหม่ Seamaster Professional Diver อันมีเอกลักษณ์มากถึง 14 รุ่น ประกอบด้วยสเตนเลสสตีล 6 รุ่น และสเตนเลสสตีลและทองคำ 18 กะรัตอีก 8 รุ่น
มาพร้อมกับขนาดตัวเรือนที่ขยายขึ้นเป็น 42 มม. แต่ละเรือนติดตั้งกลไก Master Chronometer Calibre 8800 ที่มีคุณสมบัติด้านความเที่ยงตรง และยังต้านทานสนามแม่เหล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
รูปลักษณ์ภายนอกถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์เด่นๆ เอาไว้ เช่น ขอบตัวเรือนผลิตจากวัสดุเซรามิก สเกลดำน้ำผลิตจากวัสดุ Ceragold™ หรืออีนาเมลสีขาว เพื่อความคงทนและทนทาน
หน้าปัดผลิตจากวัสดุเซรามิกขัดเงามาพร้อมกับสีให้เลือกถึงสามสี ทั้งดำ น้ำเงิน และโครม เคลือบพีวีดีลายซันบรัช รวมถึงลวดลายเกลียวคลื่นแกะสลักด้วยเลเซอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ OMEGA เช่นเดียวกับตำแหน่งขอบฝาหลัง และกระจกแซปไฟร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก METAS เผยให้เห็นกลไกอันซับซ้อนแต่มีเสน่ห์ภายใน
สำหรับนักดำน้ำ รวมถึงผู้ที่หลงใหลในโลกใต้ท้องทะเล OMEGA Seamaster Professional Diver 300m นี้นั้น ถือว่าตอบโจทย์เป็นที่สุด เพราะผลิตมาเพื่อใช้งานใต้น้ำอย่างแท้จริง
ชิ้นส่วนสำคัญหลายชิ้นถูกออกแบบมาอย่างประณีตและเข้าใจถึงสภาพแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นได้เมื่ออยู่ใต้น้ำ โดยเฉพาะส่วนที่สำคัญอย่างฮีเลียมวาล์ว ที่ออกแบบอย่างชาญฉลาดเพื่อป้องกันเมื่อปรับความดัน ไม่ให้โมเลกุลของก๊าซฮีเลียมขยายตัวจนอาจดันกระจกคริสตัลบนหน้าปัดให้หลุดออกจากตัวเรือนได้
นอกจากนั้น OMEGA Seamaster Professional Diver 300m ยังติดตั้งกลไก Master Chronometer Calibre 8800 ที่ผลิตจากวัสดุที่ไม่สามารถถูกเหนี่ยวนำสนามแม่เหล็กได้ จึงมั่นใจได้ในเรื่องความเที่ยงตรง
หลายคนอาจมองว่า OMEGA Seamaster Professional Diver 300m อาจเป็นเพียงนาฬิกาคอลเล็กชันใหม่ที่น่าจับตามอง แต่เราอยากให้คุณได้ลองสำรวจผู้ใส่เรือนเวลานี้หลายคน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นผู้คนแห่งแรงบันดาลใจกันทั้งนั้น
ทั้ง โรแลนด์ สเปกเกอร์ ที่ใส่ Seamaster Professional Diver 300M ทำลายสถิติโลกการดำน้ำด้วยตัวเปล่า หรือการเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การเดินเรือใบ ด้วยการอยู่บนข้อมือของทีมนิวซีแลนด์ ผู้คว้าชัยชนะจากรายการ America’s Cup ซึ่งนำทีมโดย เซอร์ปีเตอร์ เบลก ผู้เป็นตำนาน
แต่ที่เด่นที่สุด ชัดสุดก็เห็นจะเป็น แดเนียล เคร็ก เจมส์ บอนด์ คนล่าสุด ที่เขาใส่ Seamaster Professional Diver 300M ในภาค GoldenEye จนทำให้ยอดขายถล่มทลายกันเลยทีเดียว
เราเชื่อว่าคุณก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากสัมผัสนวัตกรรมแห่งเรือนเวลาระดับสุดยอดนี้ด้วยตัวเอง มาตามติดประวัติศาสตร์และแรงบันดาลใจของ OMEGA Seamaster Diver 300M ได้ที่นิทรรศการ ’25 Years of OMEGA Seamaster Diver 300M’ บริเวณลานชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ตั้งแต่เวลา 18.00-20.00 น. และวันที่ 16-20 พฤศจิกายน 2561 ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.
สำหรับใครที่อยากจับจองเป็นเจ้าของนาฬิการุ่นนี้ สามารถแวะมาชมและเลือกซื้อสินค้าได้ที่โอเมก้าบูติค สาขาสยามพารากอน, เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และเอ็มโพเรียม
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.omegawatches.com
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: