×

ดีเบตเลือกหัวหน้าประชาธิปัตย์ จากเฟ้นหาผู้นำ ถึงถามทางข้างหน้าต่อจุดยืนการเมืองไทย

26.10.2018
  • LOADING...

วันนี้ที่พรรคประชาธิปัตย์มีการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ทั้ง 3 คน ระหว่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ และนาย อลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้หัวข้อ ‘ดีเบตประชาธิปัตย์ 61 คนไทยจะได้อะไร’

 

 

หลังแต่ละคนลงพื้นที่หาคะแนนเสียงสนับสนุนอย่างหนัก โดยนายแพทย์วรงค์ออกสตาร์ทที่จังหวัดพิษณุโลก ถิ่นเกิดทางการเมือง จากนั้นนายอภิสิทธิ์ขยับตาม เลือกจังหวัดสงขลาเป็นจุดสตาร์ท เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีสมาชิกพรรคกลับมายืนยันสถานะมากที่สุด ขณะที่นายอลงกรณ์เลือกจังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดแรกในการเดินสายพบปะสมาชิก ก่อนที่ทุกคนจะได้ทยอยไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค ที่มีสมาชิกพรรคกระจายอยู่

 

 

ขณะที่บรรยากาศก่อนเริ่มดีเบต มีประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคและแฟนคลับของผู้สมัครฯ แต่ละคน มาร่วมให้กำลังใจ ส่งเสียงเชียร์ มอบช่อดอกไม้ให้กับผู้สมัครฯ ที่ตัวเองชื่นชอบ พร้อมจับจองพื้นที่รอชมการดีเบตบริเวณลานพระแม่ธรณีบีบมวยผมและสนามหญ้าของพรรค ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พรรคนำจอโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่มาติดตั้งไว้ เพื่อให้ประชาชนและสมาชิกพรรคได้รับชมการดีเบตแบบสดๆ

 

 

เมื่อได้เวลาตามนัดหมายคือ 16.00 น. พิธีกรได้แจ้งกติกาของการดีเบต พร้อมกับ แจ้งต่อสื่อมวลชนถึงรายละเอียดต่างๆ ว่าจะเป็นการดีเบตกัน ‘ฉันพี่น้อง’ รวมทั้งประกาศเชิญผู้สมัครทั้ง 3 คนขึ้นสู่เวทีดีเบต โดยเริ่มต้นจากการเปิดคลิป ซึ่งเล่าถึงประวัติศาสตร์หัวหน้าพรรคคนต่างๆ ช่วงหนึ่งของคลิปตั้งคำถามถึงบทบาทหัวหน้าพรรคด้วยว่า “ใครจะเป็นผู้นำต่อสู้กับเผด็จการทุกรูปแบบ”

 

 

คำถามโดยตรงจากผู้ดำเนินรายการที่เป็นสื่อมวลชนที่ผู้จัดดีเบตมองแล้วว่ามีความเป็นกลางทางการเมืองทั้ง 2 คน จะมาจาก นายกิตติ สิงหาปัด และนาย ณ กาฬ เลาหะวิไลย

 

นายกิตติ สิงหาปัด เริ่มต้นด้วยคำถามแรกถึงทุกคนว่า ใครเป็นผู้นำพรรคที่ดีที่สุดในความคิดของคุณ

 

 

นายอภิสิทธิ์บอกว่า ไม่ควรถามแบบนั้น เพราะหัวหน้าพรรคแต่ละคนมีบทบาทที่นำพรรคในสถานการณ์ที่ดีแตกต่างกัน ทุกคนมีความดีงามเท่ากัน ขณะที่หมอวรงค์ยกตัวอย่างว่า คุณชวนคือหัวหน้าพรรคในดวงใจ และเลือกที่จะเลียนแบบท่านเหมือนครูที่สอนเราในทางการเมือง เพราะได้สัมผัสจากตัวท่านเองโดยตรง ส่วนนายอลงกรณ์บอกว่า ศรัทธาหัวหน้าพรรคทุกคน ผู้ก่อตั้งพรรคคือสมาชิกทุกคนที่ได้ร่วมกันก่อร่างสร้างพรรคมา

 

คำถามสุดท้ายถามว่า ถ้าท่านแพ้การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค จะลาออกจากพรรคหรือไม่ และจะสร้างความสามัคคีในพรรคอย่างไร

 

 

นายอภิสิทธิ์ตอบว่า “ไม่เคยคิดว่ามีใครจะกล้าถามคำถามนี้กับผม ผมเคยตอบเมื่อในอดีตว่าผมจะอยู่กับประชาธิปัตย์ตลอดไป ผมจะดึงจุดอ่อนจุดแข็งมาใช้ และถ้าผมเป็นหัวหน้าพรรค ผมจะดึงพลังทั้งหมด แต่ต้องอยู่ภายใต้อุดมการณ์เดียวกัน”

 

หมอวรงค์บอกว่า “ไม่อยากจะตอบ เพราะประชาธิปัตย์คือบ้านของเรา เราต้องช่วยพี่ๆ เพื่อนๆ ของเรา ผมก็ต้องอยู่ทำบ้านผมให้แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ ถ้าสมาชิกพรรคไม่เลือก หัวใจผมแข็งแกร่ง ไม่ต้องไปกังวล ผมช่วยเต็มที่ ความเป็นนักการเมืองของผมใจใหญ่ ถ้าผมเป็นหัวหน้าพรรคจะเชิญทุกท่านมาช่วย เพราะผมไม่ได้เก่งทุกเรื่อง และย้ำว่าพรรคนี้จะเป็นพรรคสุดท้ายที่ผมทำงานการเมือง”

 

นายอลงกรณ์ตอบว่า “ถ้าเราไม่มีความเป็นเอกภาพ ไม่ว่าใครเป็นหัวหน้าพรรค เราเดินต่อไม่ได้ เป็นตามเป้าหมายของผม เราจะสร้างชัยชนะที่ยั่งยืนด้วยการเมืองสีขาว ถ้าแพ้เลือกตั้งชิงหัวหน้าพรรคจะลาออกไหม คำถามนี้ผมบอกเลยว่า กว่าจะกลับมาได้วิบากกรรมเยอะจริงๆ ผมเกิดที่พรรคประชาธิปัตย์ อยู่มา 20 กว่าปี เป็นมาหมดแล้ว แต่เวลาจะกลับมา บางคนบอกภารโรงยังเป็นไม่ได้ ไม่ใช่แค่ผมกลับมาทีมงานทั้งหมดจะกลับมา”

 

 

สำหรับการดีเบตผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันนี้ ถือเป็นการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคครั้งแรกในประเทศไทย โดยวิธีการดีเบตถูกถอดแบบมาจากการดีเบตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

 

การดีเบตมีทั้งสิ้น 9 คำถาม ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมีเวลาตอบคำถามคนละ 90 วินาที หรือคนละ 1.30 นาทีต่อหนึ่งคำถาม ซึ่งคำถามทั้งหมดจะมาจากประชาชนที่ส่งผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ของพรรค ซึ่งจะคัดเลือกมาจากคำถามที่ถูกถามซ้ำมากที่สุด หรือมีความถี่สูงสุด

 

สำหรับการโต้แย้งหักล้างคำตอบหรือคำพาดพิงที่เกี่ยวกับตัวเองจากผู้สมัครฯ คนอื่น ก่อนที่สุดท้าย ผู้สมัครฯ แต่ละคนจะมีเวลาคนละ 3 นาที ในการสรุปวิสัยทัศน์เป็นครั้งสุดท้าย โดยจะมีการจับสลากก่อนเริ่มดีเบตว่าใครจะได้เป็นผู้ตอบคำถามก่อน-หลัง ทั้งนี้ ผู้จัดไม่อนุญาตให้ผู้อยู่ในห้องดีเบตเดินเข้า-ออกระหว่างการดีเบตด้วย

 

 

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ผู้ประสานงานจัดการดีเบต ระบุถึงการดีเบตในวันนี้ว่า ภายในห้องดีเบตจะอนุญาตให้ประชาชน ผู้บริหารพรรค และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของพรรค และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมฟังประมาณ 120 คน

 

การดีเบตในวันนี้จะส่งผลอย่างไรต่อการกำหนดทิศทางหัวหน้าพรรคที่จะมีการเลือกกันในวันที่ 1-5 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ต้องจับตาให้ดี เพราะไม่ใช่แค่หัวหน้าพรรค แต่หมายถึงการนำพาพรรคไปอยู่จุดยืนใดของการเมืองไทย ที่ใกล้เข้ามาอีกไม่นาน

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising