×

#เนื้อเน้นๆ เปิดพิกัด 5 ร้านเด็ด เอาใจมนุษย์สายเนื้อที่ไม่ควรพลาด

23.10.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

7 MINS READ
  • ชี้พิกัด 5 ร้านต้องไปลองของคนรักเนื้อที่ไม่ควรพลาด ทั้งแบบไทยๆ เตาถ่านสเปน ดรายเอจ ชาบูชาบู ไปจนถึงเนื้อหารับประทานยาก แบบที่คนรักเนื้อควรค่าแก่การไปลอง

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สั่งกะเพราเนื้อมากกว่ากะเพราไก่ ไปชาบูทีไรเป็นต้องมีถาดเนื้อสารพัดตั้งเป็นหอคอย หรือมีรายชื่อร้านสเต๊กเด็ดดวงจดเอาไว้เป็นหางว่าว เพื่อลิ้มลองรสชาติแสนสวรรค์ ที่แค่ได้กลิ่นก็ชวนฝันหวาน นี่คือ 5 พิกัดเด็ดที่คนที่สาบานตนเป็นสายเนื้อไม่ควรพลาด (ขอบอกว่าเราคัดแต่เนื้อๆ!)

 

 

Arno Thai

อาร์โนด์ คาร์เร บุตเชอร์ชาวฝรั่งเศสผู้อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังร้านเนื้อเด็ดๆ ที่ต้องต่อคิวอย่าง Arno’s Butcher and Eatery ในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 20 หันมาหยิบความเป็นไทยใส่จาน เพื่อรสชาติถูกปากคนไทยกว่าเก่า จึงเกิดเป็น Arno Thai ร้านอาหารจานเนื้อแบบไทยๆ ที่นำเนื้อคุณภาพดีมาปรุงใหม่สไตล์บ้านๆ ให้แตกต่างจากสเต๊กเฮาส์ขึ้นชื่อของเขา และที่สำคัญคือ เมนูหลักที่เน้นก๋วยเตี๋ยวกับผัดกะเพรานี่สิ

 

สั่งอะไรดี: ผัดกะเพราเนื้อสะโพก จานอร่อยเหมาะสำหรับคนที่อยากสัมผัสรสชาติของเนื้อแบบเต็มๆ ที่ช่างเข้ากันได้ดีกับใบกะเพรา กระเทียม และพริกสดรสจัดจ้าน ซึ่งหากไม่ชอบรสเผ็ดจัดก็สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ 4 แบบ ทางร้านใช้เนื้อชาโรเลส์ (Charolais) สัญชาติฝรั่งเศสจากเมืองชาโรลส์ แคว้นเบอร์กันดี ซึ่งมีขนาดตัวที่ใหญ่และกล้ามเนื้อแน่น เป็นที่นิยมเนื่องจากให้สัมผัสนุ่มเป็นพิเศษ หรือจะลองเมนูเส้นอย่าง เส้นหมี่น้ำเนื้อน่องลาย ที่เนื้อน่องลายไม่เพียงแต่นุ่มอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีเอ็นกรุบๆ แทรกมาด้วย แค่ตักเนื้อพร้อมซดน้ำซุป สวรรค์ก็ย้ายมาอยู่ในปากเสียแล้ว

 

Arno Thai

Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-20.00 น.

Address: มี 2 สาขา ได้แก่ ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ (ทางลง BRT ถนนจันทน์ ฝั่งถนนจันทน์เก่า) และสุคนธสวัสดิ์ 28 กรุงเทพฯ

Budget: 200 บาท

More: thestandard.co/arno-thai

 

 

 

Thaan

ถ่าน คือร้านอาหารแนวใหม่ที่ใช้ถ่านไม้และเตาจอสเปอร์ (Josper) ในการทำอาหาร ร้านนี้เด่นตรงที่กรรมวิธีในการทำให้เนื้อวัวสุกด้วยการย่างแบบเฉพาะทาง โดยใช้เตาถ่านจอสเปอร์แบบสเปน เตาท่ีให้ความร้อนสูง และกระจายความร้อนทั่วถึงทั้งเตา ทางร้านเลือกใช้ถ่านไม้โกงกางจากสมุทรสาคร ซึ่งเมื่อเผาแล้วให้ความร้อนสูงถึง 400 องศาฯ ทำให้เมนูเนื้อจากเตาย่างนั้นมีผิวหน้ากรอบเกรียม แต่ภายในยังคงนุ่มชุ่มฉ่ำด้วยรสชาติของเนื้อ จึงเหมาะกับเหล่า ‘Carnivore’ หรือ ‘มนุษย์สายเนื้อ’ ทั้งหลายให้แวะมาสังสรรค์

 

สั่งอะไรดี: นอกจากนี้ทางร้านดรายเอจเนื้อเอง ซึ่งมีทั้งเนื้อไทยและต่างประเทศหมุนเวียนมาโชว์ลายมาร์เบิลและความอ่อนนุ่มตลอดไม่ขาดสาย เมนูที่อยากให้ลองคือ 45+ Days Dry Aged Wagyu Striploin เนื้อวากิวสตริปลอยน์สัญชาติออสเตรเลีย ผ่านการบ่มเนื้อนานกว่า 45 วัน จนเนื้อมีความเข้มข้นกว่าเนื้อวากิวทั่วไป นำไปย่างด้วยเตาจอสเปอร์ จับคู่กับซอสบีฟจูไวท์มิโสะ หรือจะปรุงรสแบบคลาสสิกด้วยเกลือลาวาและพริกไทยก็อร่อยง่ายๆ Oh My Supper! ข้าวผัดเนื้อที่เหมือนจะธรรมดา แต่นำเนื้อไทยไปผัดกับกระเทียมและข้าวเม็ดอวบ ใช้มันจากเนื้อแทนน้ำมัน ทำให้เม็ดข้าวมีความหอม เพิ่มเลเวล ‘ความเนื้อ’ ให้ยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ

 

Thaan Charcoal Cooking

Open: วันจันทร์-เสาร์ เวลา 17.00-23.00 น.

Address: 68/6 ซอยสุขุมวิท 31 แยก 4 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ

Budget: 500-2,500 บาท
More: thestandard.co/thaan

 

 

 

Maillard Butcher & Steak

ร้านเนื้อเน้นๆ ของเจ้าของร้านผู้หลงใหลรสชาติและสัมผัสของเนื้อ ผู้ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับร้าน Best Country Beef สาขาวัชรพล ร้านแห่งนี้คัดเฉพาะเนื้อส่วนไพรม์คัตจากเนื้อไทย-วากิวที่ได้จากฟาร์มในหนองคายและอุบลราชธานี เลี้ยงดูตามธรรมชาติด้วยหญ้าและธัชพืช ซึ่งคาแรกเตอร์ของเนื้อไทยประเภทนี้โดดเด่นไม่แพ้เนื้อต่างประเทศ ทางร้านยังได้เพิ่มความพิเศษอีกระดับด้วยการนำเนื้อทั้งหมดไปผ่านกระบวนการดรายเอจ (Dry Age) ในตู้ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเป็นเวลาตั้งแต่ 45 วันขึ้นไป จากนั้นจึงนำเนื้อไปทำให้สุกระดับมีเดียมแรร์ โดยใช้กี (Ghee) หรือเนยใส แทนน้ำมันมะกอก ในการจี่กระทะร้อน แล้วปรุงรสด้วยดอกเกลือ กระเทียม พริกไทย เพิ่มกลิ่นหอมจากใบไทม์และโรสแมรี ร้านนี้ถือเป็นร้านที่นำเนื้อวัวไทยๆ มาพัฒนาไปอีกระดับแบบที่ไม่น้อยหน้าร้านเนื้ออื่นๆ เลย

 

สั่งอะไรดี: ลอง Ribeye 6-7 เนื้อสันแหลมหรือริบอายชิ้นนี้มีจุดเด่นคือ เนื้อส่วนนอกที่มีความมันและรสชาติดีเยี่ยม กินแล้วแทบจะแยกไม่ออกว่านี่คือเนื้อไทย ด้วยความที่เนื้อส่วนนี้มีความมัน จึงควรทานคู่กับซอสชิมิชูรี (Chimichurri) ซอสสีเขียวนี้เบสด้วยน้ำส้มสายชู ไวน์แดง ผสมเกลือ ออริกาโนสด พาร์สลีย์ และเปลือกมะนาว ช่วยบาลานซ์รสชาติของเนื้อให้รับประทานได้เรื่อยๆ แบบไม่เลี่ยน Surf & Turf เนื้อวัวสตริปลอยน์ไฮเอนด์ระดับ 8-9 ที่ดีที่สุดของร้าน จับคู่กับหางกุ้งล็อบสเตอร์จากแคนาดา เนื้อหวานและเด้งกรอบ บีบเลมอนนิดหน่อยก็ฟินแล้ว

 

Maillard Butcher & Steak

Open: วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 17.30-22.00 น.

Address: ซอยสาทร 11 กรุงเทพฯ

Budget: เริ่มต้น 190 บาท

Contact: 08 4106 3333

More: thestandard.co/maillard-butcher-steak

 

 

 

Nabezo Premium

คนรักชาบูขอเชิญที่ Nabezo ร้านชาบูชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ในระดับพรีเมียม ที่นี่น่าสนตรงที่มี ‘เนื้อโอมิ’ ซึ่งเป็นเนื้อพิเศษที่มาจากฟาร์มดังระดับท็อปของประเทศญี่ปุ่น เนื้อโอมินี้สวยงามและอุดมไปด้วยไขมันแทรกลายสวย นุ่มลิ้น ละลายในปากด้วยนะ

 

สั่งอะไรดี: ชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ญี่ปุ่นแบบ All You Can Eat ของที่นี่ไม่เน้นปริมาณ แต่เสิร์ฟเฉพาะเนื้อคุณภาพดีระดับพรีเมียม ลองจิ้มจุ่มแบบ Sesame-Tonkyu Course ซึ่งใช้น้ำซุปน้ำเต้าหู้ โดยการสั่งเป็นคอร์สนั้นสามารถเลือกชนิดของเนื้อได้ว่าต้องการเป็นเนื้อวากิว หรือจะเลือกเนื้อโอมิ โดยในคอร์สสุกี้ยากี้นั้นจะเสิร์ฟจานเรียกน้ำย่อยเหมือนกับคอร์สชาบู แต่จะต่างกันก็ตรงที่อาหารจานเสริม ซึ่งในคอร์สชาบูชาบูนั้นเสิร์ฟ Kamaage Udon เส้นอุด้งสดปรุงรสใส่ไข่ดิบและไข่กุ้ง หรือจะเลือกเป็น Ochazuke with Beef หรือข้าวหน้าเนื้อและไข่ก็ได้

 

Nabezo Premium
Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
Address: ชั้น 3 เกษรวิลเลจ 999 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
Budget: เมนูอะลาคาร์ต เริ่มต้นที่ 650 บาท คอร์สเมนูเริ่มต้นที่ 890 บาท
Contact: 06 2336 8444
More: thestandard.co/nabezo-premium

 

 

 

Il Fumo

ชวนชิมรสเนื้อที่ร้านอาหารโปรตุเกสฝีมือ เชฟเนลสัน อะโมริม (Nelson Amorim) เชฟชาวโปรตุเกสรุ่นใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองผู้ผ่านประสบการณ์การทำงานในห้องอาหารชั้นนำที่ฮ่องกง 8½ Otto e Mezzo Bombana ห้องอาหารอิตาเลียนนอกยุโรปร้านแรกและร้านเดียวในโลกที่ได้มิชลิน 3 ดาวมาแล้ว เชฟเนลสันนำเรื่องราวของความเป็นอาหารโปรตุเกสมาเล่าแบบเข้าใจไม่ยาก ทั้งยังอร่อยแฝงด้วยเทคนิคแพรวพราว

 

สั่งอะไรดี: แม้จะไม่ใช้ร้านเนื้อโดยเฉพาะ แต่เมนูเนื้อที่มีกลิ่นเฉพาะตัวอย่าง Carne Barrosã กลับทำใครต่อใครหลงมานักต่อนัก เพราะนี่คือเนื้อส่วนไพรม์ริบส์สัญชาติโปรตุเกสจาก Jacinto ตระกูลพ่อค้าเนื้อเก่าแก่ ที่ปัจจุบันดำเนินกิจการโดยทายาทรุ่นที่ 4 ความพิเศษของมันอยู่ที่เป็นวัวที่เลี้ยงในฟาร์มเปิดทางตอนเหนือของโปรตุเกส และคัดเฉพาะโคนมอายุระหว่าง 13-20 ปี ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะคือ รสชาติเข้มข้นหนักแน่น และไขมันธรรมชาติที่แทรกอย่างสวยงามส่งตรงจากฟาร์ม ที่ทางร้านนำมาบ่มในตู้ดรายเอจไม่ต่ำกว่า 20 วัน จากนั้นนำไปย่างเตาถ่านทั้งส่วนเนื้อและไขมัน โดยให้เนื้อผิวนอกโดนเปลวไฟจนเกรียมพอประมาณ จากนั้นดึงตะแกรงขึ้น แล้วปล่อยให้เนื้อสุกต่อไปด้วยความร้อนแทนเปลวไฟ แล้วจึงปรุงรสด้วยเกลือทะเล เสิร์ฟกับบีตรูตและพริกเขียวย่าง เพิ่มความหอมของเนื้อที่มีเอกลักษณ์ต่างจากเนื้อชนิดอื่นๆ ยิ่งขึ้นไปอีก และที่สำคัญเนื้อชนิดนี้หาชิมได้ยากในกรุงเทพฯ อีกด้วย!

 

Il Fumo

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.30-24.00 น. (ครัวปิด 23.00 น.)

Address: ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ

Budget: 500-3,000 บาท

Contact: 0 2286 8833 หรือ 09 7170 6260

More: thestandard.co/il-fumo

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising