ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ‘เทสลา (Tesla)’ ปิดดีลซื้อที่ดินในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เป็นที่เรียบร้อย ด้วยมูลค่าเงินลงทุนสูงกว่า 140 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4,560 ล้านบาท เตรียมตั้งโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกนอกประเทศสหรัฐอเมริกา
เทสลาได้ลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินพื้นที่ขนาดกว่า 860,000 ตารางเมตร ในย่ายหลินก่าง ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเซี่ยงไฮ้ มุ่งขยายกำลังการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในบริษัทให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าสูงสุดกว่า 500,000 คันต่อปี โดยเฉพาะปีที่แล้วที่เทสลาต้องเผชิญกับวิกฤตผลิตรถยนต์ไม่ทันส่งมอบผู้บริโภค หลังเปิดตัว Model 3 รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นที่ 3 ราคาประหยัด
นอกจากนี้ยังถือเป็นการแก้เกมสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาไปในตัว เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกรถยนต์จากสหรัฐอเมริกามายังแดนมังกรลดลงไปมาก เพราะมีการเพิ่มภาษีรถยนต์นำเข้ากว่า 25% เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่ง ณ ปัจจุบันจีนถือเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนับเป็นตลาดอันดับ 2 ของเทสลารองลงมาจากสหรัฐอเมริกา (ปีที่แล้วขายได้กว่า 15,000 คันในจีน)
“การครอบครองที่ดินในเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ ถือเป็นหลักไมล์ที่สำคัญสำหรับเรา กับสิ่งที่จะก้าวหน้าในลำดับต่อไป โดยเฉพาะกระบวนการพัฒนาฐานการผลิตที่ยั่งยืน” โรบิน เรน รองประธานฝ่ายขายทั่วโลกของเทสลา กล่าวผ่านแถลงการณ์
การเปิดโรงงานแห่งแรกในจีน น่าจะช่วยให้ราคารถยนต์ที่วางจำหน่ายในจีนลดลง ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ทั้งยังรักษาฐานลูกค้าเดิมของบริษัทได้ไปในตัวอีกด้วย โดยกำหนดการต่อจากนี้ เทสลาตั้งเป้าไว้ว่าจะเริ่มวางเสาเข็ม สร้างโรงงานในช่วงฤดูร้อนปี 2019 ที่จะถึงนี้ และคาดว่าน่าจะใช้งบประมาณการก่อสร้างสูงกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: