แม้ตลาดปลาเก่าแก่สึกิจิ (Tsukiji Fish Market) จะปิดตัวลงไปเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และย้ายสำมะโนครัวไปตั้งรกรากใหม่ ณ ตลาดโทโยสุ (Toyosu Fish Market) แถมยังมีข่าวแว่วว่าบางส่วนของโซนตลาดเดิมในสึกิจิ ‘โจไน’ (Jonai) จะถูกเปลี่ยนไปเป็นที่จอดรถขนาดใหญ่เพื่อรองรับงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2020 นักท่องเที่ยวหลายคนบ่นเสียดายบรรยากาศตลาดเก่า ทว่าในความเป็นจริง รู้หรือไม่ว่าย่านสึกิจิไม่ได้รกร้างว่างเปล่าอย่างที่หลายคนคิด เพราะบริเวณโซนนอกตลาดสดบนถนนโจไก (Jogai) ร้านระดับตำนานยังคงครึกครื้นและเปิดบริการเช่นเดิม
ข้าวหน้าเนื้อร้านดังยังคงอยู่
นอกจากทัวร์ประมูลทูน่าและปลาสดๆ ของร้านซูชิชื่อดังก็มีข้าวหน้าเนื้อของร้านคิตสึเนยะ (Kitsuneya) ที่ครองใจนักท่องเที่ยวและผู้คนในละแวกนั้นได้ชะงัดนัก หลังจากตลาดสึกิจิปิดตัวลง เรากังวลมากว่าข้าวหน้าเนื้อร้านโปรดจะปิดตัวลงไปด้วย ทว่าร้านยังคงตั้งอยู่ที่เดิมคือริมถนนตรงทางเข้าตลาดสึกิจิ พร้อมกลิ่นหอมและคิวยาวเหมือนเดิม ร้านนี้ได้ 3.57 คะแนนจาก tabelog.com (เว็บรีวิวอาหารญี่ปุ่นคล้าย TripAdvisor) และถูกจัดอันดับให้เป็นข้าวหน้าเนื้อที่อร่อยที่สุดในโตเกียว เมนูยอดนิยมคือข้าวหน้าเนื้อเครื่องในวัว ครบเครื่องทั้งเนื้อและเครื่องในหลากชนิด รสชาติเค็มหวานกลมกล่อม อร่อยมาก ใครไปตลาดสึกิจิแล้วไม่ได้กินที่นี่ถือว่าพลาดอย่างแรง!
ไข่ม้วนเสียบไม้แสนอร่อยยังมีให้ชิม
นับเป็นอีกหนึ่งร้านต้องมาในเขตสึกิจิรอบนอก กับไข่หวานม้วนแสนอร่อยของร้านสึกิจิ ยามะโจ (Tsukiji Yamacho) ที่ไม่ว่ามากี่โมงก็คนแน่นตลอด ที่นี่เปิดขายตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงช่วงบ่าย จุดเด่นของไข่ม้วนยามะโจคือไข่ม้วนเนื้อนุ่มซึ่งปรุงจากไข่ไก่สดผสมซุปดาชิเข้มข้น เปิดขายทั้งแบบธรรมดาและไส้หลากหลายชนิด มีทั้งไส้ผักและของทะเล ลูกค้าสามารถเลือกกินได้ทั้งแบบร้อนและเย็น ซื้อใส่กล่องกลับบ้านหรือกินเลยแบบเสียบไม้ก็ได้ แอบเผยความลับให้นิดหนึ่งว่าร้านซูชิหลายร้านในโตเกียวใช้ไข่ม้วนของยามะโจเสิร์ฟในร้านด้วย
จะมากุโระหรือหอยนางรมยักษ์ก็มีให้กินจนฟิน
แม้ตัวตลาดปลาจะย้ายไปแล้ว แต่สึกิจิยังมีอาหารทะเลสดๆ ให้กินเพียบ หนึ่งในนั้นคือมากุโระดงบุริ ของร้านเซกาวา (Segawa) ร้านข้าวหน้าด้งที่ขายเพียงเมนูเดียวคือมากุโระดงบุริเท่านั้น! โดยทางร้านจะเลือกส่วนที่ดีที่สุดของปลามากุโระในแต่ละวัน แล้วนำเนื้อแดงมาหมักกับซอสโชยุสูตรเฉพาะ เวลาเสิร์ฟโปะกับข้าวสวยๆ โรยหน้าด้วยใบชิโซะซอยหรือผักชีญี่ปุ่นและวาซาบิฝน รสชาติเปรี้ยวหวานอมเค็มเล็กๆ อร่อยมาก
แต่ถ้าหากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้หอยนางรม แนะนำให้มุ่งมายังร้าน Saito Suisan ร้านขายอาหารทะเลสดๆ ที่อยู่คู่ตลาดมานานนับสิบปี ว่ากันว่าหอยนางรมที่ผ่านมือคุณลุงเจ้าของร้านคือที่สุด! สด หวาน อร่อยทุกคำ แค่เหยาะโชยุก็อร่อยแล้ว ใกล้กันเป็น Maguro no Miyako เสิร์ฟอาหารทะเลปรุงสุกย่างบนเปลือกหอย เลือกของที่กินแล้วปรุงสดๆ หน้าร้าน จะใส่เนยหรือโชยุก็ได้ ร้านนี้ผู้เขียนแวะทุกครั้งที่มาเยือนสึกิจิ อร่อยคุ้มราคามาก รับประกัน
ซาลาเปาไส้ไหลหน้าไข่หอยเม่น รสชาติที่ลืมไม่ลง
ร้านนี้คนไทยไม่ค่อยกิน แต่บล็อกเกอร์และนักชิมหลายคนบอกว่าอร่อยมาก กับซาลาเปาไส้ครีมหอยเม่นของร้านฮามะดะ โชเต็น (Hamada Shoten) แน่นอนว่าถึงแม้ตลาดสึกิจิจะย้าย แต่ฮามะดะ โชเต็น ยังคงอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง เมนูเด็ดยังคงเป็น ‘อูนิบัน’ ซาลาเปาไส้ครีมหอยเม่นแสนอร่อย ซาลาเปารูปร่างแปลกตาสีดำสนิทที่ได้ส่วนผสมพิเศษเป็นหมึกดำของปลาหมึกยักษ์ สอดไส้ด้วยครีมหอยเม่น ท็อปด้วยหอยเม่นสดอีก 1 กลีบ ร้านนี้ผู้คนเขียนไม่เคยได้ลอง แต่ผู้ไปชิมมาแล้วล้วนแต่บอกว่าแป้งนุ่ม รสชาติหวานหอมอมเค็ม ให้ความรู้สึกถึงท้องทะเลเต็มเปี่ยม
จริงๆ แล้วตลาดสึกิจิยังมีของอร่อยอีกหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นราเมนแบบจีนของร้าน Inoue ที่คิวยาวตั้งแต่ประตูเปิด เนื้อบดชุบแป้งทอดของร้าน Yoshizawa Shoten หรือซูชิห่อฟองเต้าหู้หน้าล้น ณ ร้าน Tsukiben หากคุณยังไม่รู้จะเริ่มตรงไหน THE STANDARD แนะนำให้ลองปักหมุดตามร้านเราดู หรือจะเลือกซื้อทัวร์จากตลาด พาชม ชิม ช้อปตลาดสึกิจิในมุมต่างก็ย่อมได้ (จองทัวร์ตลาดได้ที่นี่)
อย่าลืมว่าสึกิจิมีมากกว่าประมูลปลาทูน่า ของทะเลสดๆ แบบค้าส่ง แต่ยังมีร้านรวงอร่อยระดับตำนานรอบนอกซึ่งยังคงอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน และครึกครื้นเช่นเคย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์