ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) ทำการกักเครื่องบินโดยสารแอร์บัส A380 เที่ยวบิน 203 ของสายการบินเอมิเรตส์ หลังลงจอดบนรันเวย์ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี ในเมืองนิวยอร์กซิตี้ ช่วงเช้าวานนี้ (5 ก.ย.) สืบเนื่องจากกรณีมีผู้โดยสาร 106 คนจากทั้งหมด 521 คนแจ้งว่ารู้สึกไม่สบาย ซึ่งภายหลังมีการยืนยันว่าผู้โดยสารและลูกเรืออย่างน้อย 19 คนล้มป่วยจริง
เครื่องบินลำดังกล่าวซึ่งบินมาจากนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถูกกักอยู่บนรันเวย์หลายชั่วโมง ขณะที่โฆษกโรงพยาบาลจาเมกา ซึ่งดูแลผู้ป่วยที่มากับเที่ยวบินนี้ระบุว่า ผู้โดยสารและลูกเรือหลายคนมีอาการปวดศีรษะ เจ็บคอ ไอ และเป็นไข้ ส่วนต้นตอการแพร่ระบาดของโรคยังไม่ทราบแน่ชัด
กรมสาธารณสุขของนิวยอร์กระบุว่า จากอาการที่ตรวจพบบ่งชี้ว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ แต่ยังต้องรอการวินิจฉัยขั้นสุดท้ายจากผลการตรวจตัวอย่างในห้องแล็บ โดยนายแพทย์อ็อกซิริส บาร์บอต รักษาการอธิบดีกรมสาธารณสุขระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ป่วยจะติดเชื้อภายในห้องโดยสาร เพราะสายการบินนี้เป็นสายการบินระยะไกล อย่างไรก็ตามมีการตั้งข้อสังเกตว่ากรณีนี้เกิดขึ้นได้ยาก เพราะไข้หวัดใหญ่ใช้เวลาในการฟักตัว 1-3 วัน
บิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์กซิตี้ เผยว่า มีผู้ถูกนำส่งโรงพยาบาล 10 คน โดยจำนวนนี้เป็นลูกเรือ 7 คนและผู้โดยสาร 3 คน ส่วนอีก 9 คนปฏิเสธรับการรักษา
เอริน ไซเคส หนึ่งผู้โดยสารสายการบินเอมิเรตส์ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า ผู้โดยสารบางคนรู้สึกป่วยตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเครื่องเสียอีก
“ในระหว่างที่ต่อแถวรอขึ้นเครื่องอยู่นั้นมีหลายคนไอโดยไม่ปิดปาก” ไซเคสเล่า
จากนั้นเธอเริ่มรู้สึกกังวล จึงได้ขอหน้ากากจากลูกเรือก่อนที่เครื่องบินจะเทกออฟจากสนามบิน แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่มีให้ เธอจึงคลุมศีรษะด้วยเสื้อแจ็กเก็ตตลอดทั้งไฟลต์
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: