ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ความขัดแย้งปะทุขึ้นที่ชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา และสถานการณ์ตึงเครียดได้ยืดเยื้อเป็นเวลาหลายเดือน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและผู้พลัดถิ่นในทั้งสองประเทศ ซึ่งฝ่ายจีนเสียใจอย่างยิ่ง ในฐานะมิตรประเทศและเพื่อนบ้านใกล้ชิดของทั้งไทยและกัมพูชา
จีนเป็นประเทศที่ไม่อยากเห็นทั้งสองฝ่ายปะทะกันมากที่สุด และปรารถนามากที่สุดที่จะเห็นทั้งสองประเทศปรองดองกัน จีนได้เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยอย่างแข็งขันในแบบของตนเอง และเป็นผู้ส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชามาโดยตลอด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ไทย และกัมพูชาได้เดินทางไปมณฑลยูนนานสองครั้ง บรรลุ ‘ฉันทมติอันหนิง’ ในเดือนสิงหาคม ในการเรียกร้องให้มีการเจรจาและสันติภาพ และในเดือนธันวาคมก็ได้จัดการประชุมที่ริมทะเลสาบฝู่เซียนโดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูสันติภาพ
ด้วยความพยายามร่วมกันของทุกฝ่าย การหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชายังคงดำเนินต่อไป ซึ่งถือเป็นการฟื้นฟูสันติภาพ เสถียรภาพ และความสงบเรียบร้อยในภูมิภาคขั้นพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายจีนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
สันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคสอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานของประเทศไทยและกัมพูชา รวมถึงประชาชนของทั้งสองประเทศ และยังเป็นความปรารถนาสูงสุดของจีนด้วย
จีนยึดมั่นในความริเริ่มด้านความมั่นคงโลกที่เสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ส่งเสริมการสร้างตัวแบบความมั่นคงในเอเชีย บนพื้นฐานของการยืนหยัดร่วมกันในยามสุขและยามทุกข์ แสวงหาจุดร่วมสงวนจุดต่าง และการเจรจาและการปรึกษาหารือ และมุ่งมั่นที่จะรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคเสมอ
เมื่อมองดูรอบโลก ความเสียหายที่เกิดจากสงครามนั้นน่าตกใจและมากเกินกว่าการแบกรับได้ การหยุดยิงและการสร้างสันติภาพขึ้นใหม่เป็นทางเลือกที่ถูกต้องของประเทศไทยและกัมพูชาเพื่อการพัฒนาประเทศและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และยังเป็นความปรารถนาสูงสุดของจีนด้วย
หลังจากสงครามสงบลง ประชาชนตามแนวชายแดนได้ทยอยเดินทางกลับบ้านและเริ่มสร้างบ้านเรือนใหม่ จีนกำลังพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะให้ความช่วยเหลือในด้านมนุษยธรรม เช่น การตั้งถิ่นฐานใหม่ของประชาชนตามแนวชายแดน และยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับการกำกับดูแลการหยุดยิงและความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ตามความประสงค์ของทุกฝ่าย
การเจรจาและการปรึกษาหารือเป็นแนวทางที่ปฏิบัติได้จริงและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขข้อพิพาทที่ซับซ้อน และยังเป็นประเด็นสำคัญของความพยายามของจีนในการส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ
จีนสนับสนุนไทยและกัมพูชาในการแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ และได้ส่งเสริมการเจรจาไกล่เกลี่ยอย่างแข็งขันเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ผู้นำจีนได้มีการติดต่อสื่อสารกับผู้นำของไทยและกัมพูชา โดยมีการโทรศัพท์พูดคุยกันหลายครั้งระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
ทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เดินทางเยือนไทยและกัมพูชา 4 ครั้งเพื่อเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย ผู้แทนในทุกระดับของกระทรวงการต่างประเทศจีนและสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยและกัมพูชาได้ติดต่อสื่อสารกับทั้งสองฝ่าย โดยมุ่งเน้นที่การรับฟังความคิดเห็น คำนึงถึงข้อกังวลที่สมเหตุสมผลของแต่ละฝ่าย และแสวงหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ
การสนับสนุนของจีนไม่บังคับผู้อื่น และไม่แทรกแซงในหน้าที่หรือบทบาทของผู้อื่น แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างเวทีที่ผ่อนคลายสำหรับการเจรจา เพื่อให้ไทยและกัมพูชาสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างลึกซึ้งและแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจาได้
ข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดที่บรรลุระหว่างไทยและกัมพูชาในการประชุมพิเศษครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการทั่วไปว่าด้วยกิจการชายแดน แสดงให้เห็นว่าการเจรจาและการปรึกษาหารือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการแก้ไขข้อพิพาท
ความเป็นธรรมและความเป็นกลางคือจุดยืนของจีนในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบของจีนในฐานะประเทศในภูมิภาค
ไทยและกัมพูชาเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ และต่างก็เป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน ด้วยความสนับสนุนในฐานะเป็นมิตรประเทศและมีความรับผิดชอบในการรักษาสันติภาพในภูมิภาค จีนจึงยึดมั่นในจุดยืนที่เป็นธรรมและเป็นกลางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยไม่แสวงหาผลตอบแทนใดๆ และปราศจากผลประโยชน์ส่วนตน
จีนสนับสนุนให้อาเซียนมีบทบาทที่เหมาะสมในประเด็นไทย-กัมพูชา และยินดีให้ความช่วยเหลือแก่คณะผู้สังเกตการณ์ของอาเซียนในการกำกับดูแลการหยุดยิง จีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทย และหวงแหนความรู้สึกที่เป็นมิตรของประชาชนชาวไทยที่มีต่อจีน
เมื่อประเด็นอาวุธที่ผลิตในจีนดึงดูดความสนใจและความเข้าใจผิดจากสื่อและประชาชนชาวไทย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกคำชี้แจงทันที ปัจจุบัน มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า จีนกำลังเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในความขัดแย้งไทย-กัมพูชาหรือไม่ ข้าพเจ้าขอเน้นย้ำว่า “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ไม่ใช่เพียงแค่สโลแกน แต่เป็นนโยบายระยะยาวของรัฐบาลจีนที่มีต่อประเทศไทย และสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกผูกพันอันลึกซึ้งที่ชาวจีนมีต่อชาวไทยอย่างแท้จริง การคาดเดาใดๆ ที่มุ่งร้ายไม่เป็นธรรมต่อจีน และเราต้องระมัดระวังต่อการแทรกแซงของผู้ที่ไม่หวังดี
จีนและไทยมีความสัมพันธ์ฉันมิตรมายาวนานนับพันปี ด้วยความผูกพันอันลึกซึ้ง “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” มีมายาวนานและยังคงแข็งแกร่ง ตลอดครึ่งศตวรรษนับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สองประเทศก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันเสมอมา เป็นญาติที่ดี เพื่อนที่ดี และหุ้นส่วนที่ดีอย่างแท้จริง
เราเพิ่งเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย และ “50 ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย” อย่างยิ่งใหญ่ ไม่นานมานี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ เยือนจีนอย่างเป็นทางการครั้งประวัติศาสตร์ และทรงบรรลุข้อตกลงสำคัญใหม่กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการกระชับความสัมพันธ์ประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนของสังคมไทยอย่างจริงจังเพื่อดำเนินการตามฉันทมติสำคัญที่ประมุขของทั้งสองประเทศได้บรรลุร่วมกัน สานต่อความสัมพันธ์ฉันมิตร “จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” กระชับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างสองประเทศ ร่วมกันเขียนบทใหม่ในการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันในยุคใหม่ นำผลประโยชน์มากยิ่งขึ้นแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ และทำคุณูปการมากขึ้นต่อสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองของโลก


