รับเทรนด์สุขภาพบูม! ‘ORI’ เจาะตลาด ‘Premium Athleisure’ กางแผน 5 ปี ปูพรม 10 สาขาใจกลางกรุง ประเดิม ‘สยาม-เซ็นทรัลพาร์ค’ เจาะคนเมือง

ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าออกกำลังกายและสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพในประเทศไทยยังคงส่งสัญญาณเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลตนเองแบบองค์รวม จากการเก็บข้อมูลของดีแคทลอน พบว่านิยามของการดูแลสุขภาพในกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ขยายขอบเขตไปไกลกว่าเดิม โดยไม่ได้มุ่งเน้นเพียงความแข็งแรงทางกายภาพ แต่ยังรวมถึงการดูแลสุขภาพใจและการใช้เวลาร่วมกับผู้อื่น

เทรนด์ดังกล่าวสอดรับกับข้อมูลจากกรมพลศึกษาในปี 2567 ที่ระบุว่าอัตราการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอของคนไทยเพิ่มขึ้นเป็น 44.4% ประกอบกับรายงานจากธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ที่ชี้ว่าผู้บริโภคชาวไทยกว่าร้อยละ 44 มีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในหมวดสุขภาพและการศึกษา สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อและความตระหนักรู้ต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

จากโอกาสทางธุรกิจดังกล่าว ‘ORI (โอริ)’ ซึ่งเป็นแบรนด์พรีเมียมแอธลีเชอร์แวร์จึงเดินหน้ากลยุทธ์รุกตลาดเต็มกำลัง โดยตั้งเป้าขยายสาขารวม 10 แห่งภายใน 5 ปี เน้นเจาะทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ล่าสุดได้เปิดให้บริการแล้ว 2 สาขา ณ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ และศูนย์การค้าเซ็นทรัล พาร์ค เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มคนเมืองที่มองหาเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและดีไซน์

อภิสิทธิ์ สิงห์สัจจเทศ Brand Creator แบรนด์ ORI กล่าวว่า “ด้วยเทรนด์การดูแลและใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภคในปัจจุบันส่งผลให้ตลาดเสื้อผ้าออกกำลังกายเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่เสื้อผ้าที่ตอบโจทย์นั้นไม่ใช่แค่เสื้อผ้าที่สวมใส่ในยิมหรือออกกำลังกายเท่านั้น ลูกค้ายังมองหาเสื้อผ้าที่สามารถครอบคลุมทั้งในเรื่องความสวยงามของดีไซน์ และฟังก์ชั่นสำหรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต”

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ถูกนำมาใช้ควบคู่กับการขยายสาขา คือการปรับรูปแบบร้านค้าให้เป็นพื้นที่เชิงประสบการณ์ หรือ ‘Retail Experience’ โดยใช้พื้นที่ภายในร้านจัดกิจกรรมเวิร์กช็อปและการออกกำลังกาย เพื่อเชื่อมโยงกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจด้านสุขภาพเข้าด้วยกัน

แนวทางนี้มุ่งเน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคในรูปแบบของ ‘Community’ ซึ่งถือเป็นเทรนด์การตลาดที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมร่วมกันมากกว่าเพียงการเดินเลือกซื้อสินค้าตามปกติ

“ที่ผ่านมา ORI เน้นการสร้าง ‘Community’ เป็นสำคัญ ทางแบรนด์ได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทั้งภายในร้านและการออกไปจัดกิจกรรมร่วมกับพันธมิตร ทั้งสตูดิโอออกกำลังกายและเวลเนสชั้นนำ เพื่อให้ลูกค้าได้สวมใส่และสัมผัสประสิทธิภาพของสินค้าผ่านการใช้งานจริงในหลากหลายกิจกรรม” อภิสิทธิ์ กล่าวเสริม

ในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ แบรนด์ได้ทุ่มเทเวลาศึกษาพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายนานกว่า 2 ปี เพื่อคิดค้นนวัตกรรมเนื้อผ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มหลัก อาทิ กลุ่มที่เน้นความเบาสบายระบายอากาศสำหรับการออกกำลังกายทั่วไป และกลุ่มเนื้อผ้าพรีเมียมที่เน้นสัมผัสนุ่มนวลสำหรับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน

สำหรับแผนงานในอนาคต เตรียมที่จะเปิดตัวนวัตกรรมผ้าซิกเนเจอร์เพิ่มเติมในปี 2569 เพื่อรองรับการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง โดยเน้นคุณสมบัติการพยุงกล้ามเนื้อและความยืดหยุ่น เพื่อตอกย้ำจุดยืนในการเป็นแบรนด์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนที่รักการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ