วันนี้ (26 ธันวาคม) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานผลการตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ประจำวัน เวลา 07.00 น. โดยภาพรวมคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานครในเช้าวันนี้ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 34.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งถือว่ายังอยู่ภายใต้เกณฑ์ค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.
อย่างไรก็ตาม แม้ค่าเฉลี่ยรวมจะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่จากการตรวจสอบรายพื้นที่พบว่ายังมีบางเขตที่มีค่าฝุ่นละอองสูง โดย 12 อันดับเขตที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงสุด ได้แก่
1. เขตจตุจักร (45 มคก./ลบ.ม.)
2. เขตสาทร (44.9 มคก./ลบ.ม.)
3. เขตบางรัก (44.1 มคก./ลบ.ม.)
4. เขตปทุมวัน (41.9 มคก./ลบ.ม.)
5. เขตบางคอแหลม (41.6 มคก./ลบ.ม.)
6. เขตบางซื่อ (40.2 มคก./ลบ.ม.)
7. เขตภาษีเจริญ (39.8 มคก./ลบ.ม.)
8. เขตหนองแขม (39.5 มคก./ลบ.ม.)
9. เขตพระโขนง (39.2 มคก./ลบ.ม.)
10. เขตราชเทวี (38.2 มคก./ลบ.ม.)
11. เขตบางเขน (37.8 มคก./ลบ.ม.)
12. เขตราษฎร์บูรณะ (37.5 มคก./ลบ.ม.)
สำหรับการวิเคราะห์แยกตามกลุ่มเขต พบว่าคุณภาพอากาศในทุกพื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพเหนือ, กรุงเทพตะวันออก, กรุงเทพกลาง, กรุงเทพใต้, กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง (สีเหลือง) โดยกลุ่มเขตที่มีเพดานค่าฝุ่นสูงสุดคือ กรุงเทพเหนือ (สูงสุด 45 มคก./ลบ.ม.) และกรุงเทพใต้ (สูงสุด 44.9 มคก./ลบ.ม.) ทั้งนี้ แนวโน้มสถานการณ์ฝุ่นละอองในภาพรวมกำลัง ลดลง
เนื่องจากคุณภาพอากาศในบางพื้นที่เริ่มเข้าสู่ระดับ สีส้ม (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศฯ จึงขอแจ้งเตือนประชาชนดังนี้:
ประชาชนทั่วไป: ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร และควรจำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ต้องใช้แรงมาก พร้อมทั้งหมั่นสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง: ต้องสวมหน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งเมื่ออยู่นอกอาคาร หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากมีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์ทันที


