×

Re-Start Eating Safely: หลังไม่ได้กิน 3-5 วัน ร่างกายต้องปรับตัวอย่างไร?

27.11.2025
  • LOADING...
Re-Start Eating Safely: หลังไม่ได้กิน 3-5 วัน ร่างกายต้องปรับตัวอย่างไร?

เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างน้ำท่วม หลายคนอาจไม่ได้รับอาหารเพียงพอนานหลายวัน 3–5 วันหรือมากกว่า ช่วงเวลานี้ทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะ “ขาดอาหาร” (Starvation / Fasting State) ระบบต่างๆ ในร่างกายจึงชะลอลงเพื่อประหยัดพลังงาน ทั้งการย่อย การดูดซึมสารอาหาร และการทำงานของกล้ามเนื้อ

 

เพราะแบบนี้เอง เมื่อเริ่มกลับมากินอาหารอีกครั้ง ร่างกายอาจ ยังไม่พร้อม รับอาหารในปริมาณมากทันที การกินเร็วหรือเยอะเกินไป อาจเสี่ยงทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า Refeeding Syndrome ภาวะอันตรายที่เกิดขึ้นเมื่อน้ำตาลและสารอาหารกลับเข้าสู่ร่างกายเร็วเกินไป ทำให้สมดุลเกลือแร่และน้ำในร่างกายเปลี่ยนทันที ส่งผลต่อหัวใจ กล้ามเนื้อ และระบบประสาทได้

 

ด้วยเหตุนี้ ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เพิ่งเริ่มได้รับอาหารหลังจากขาดอาหารมาหลายวัน จำเป็นต้องฟีดอาหารเข้าร่างกายอย่างช้าๆ และระมัดระวัง เพื่อให้ทุกระบบกลับมาทำงานได้อย่างปลอดภัยและค่อยเป็นค่อยไป

 

หลักการรับประทานอาหารอย่างปลอดภัย

 

  • ค่อยเป็นค่อยไป เริ่มด้วยอาหารที่ย่อยง่าย เช่น ซุปใส ข้าวต้ม ผักนึ่ง ไข่ต้ม ก่อน อย่ากระโดดไปหาอาหารมันจัดๆ รสจัดๆ หรือของทอดทันที เพราะระบบย่อยอาจยังไม่พร้อม
  • ทยอยเพิ่มพลังงานทีละน้อย หากร่างกายอดอาหารมาหลายวัน ควรให้อาหารในปริมาณที่ไม่มากเกินไปในวันแรก แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นในวันต่อไปตามสภาพร่างกาย โดยทั่วไปแพทย์/ นักโภชนาการจะเริ่มที่ประมาณ 10–20 แคลอรีต่อกิโลกรัมต่อวัน แล้วค่อยๆ เพิ่มตามความเหมาะสม
  • ดูแลเรื่องอิเล็กโทรไลต์และวิตามิน ช่วงอดอาหาร ร่างกายอาจขาดแร่ธาตุสำคัญ เช่น ฟอสเฟต (phosphate) โพแทสเซียม และแมกนีเซียม การเติมอาหารใหม่อาจดึงแร่ธาตุเหล่านี้จากเลือดเข้าเซลล์ ทำให้เลือดขาดแร่ และเกิดผลเสี่ยงต่อหัวใจ กล้ามเนื้อ ระบบประสาทได้
  • ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นอาหารตามปกติ ให้เวลาร่างกายปรับระบบย่อย อารมณ์ และการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ก่อนจะกลับไปกินเหมือนปกติ

 

สัญญาณที่ควรระวัง (ถ้าร่างกายเริ่มไม่รับ) ถ้าหลังจากเริ่มกินแล้วพบอาการใดต่อไปนี้ ควรให้ความสนใจและหากเป็นไปได้ ขอคำปรึกษาจากบุคลากรทางการแพทย์ 

 

  • อ่อนแรงผิดปกติ กล้ามเนื้ออ่อน ไม่สามารถลุกยืน เดินได้คล่อง
  • เหนื่อย หอบ หายใจไม่สะดวก
  • เวียนศีรษะ แขนขาชา ตึงเกร็ง หรือมีอาการชัก
  • บวมตามข้อเท้า แขน ขา หรือลำตัว (บ่งบอกภาวะสมดุลน้ำผิดปกติ)
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ เหนื่อยง่าย เหมือนใจสั่น เพราะสิ่งเหล่านี้อาจบ่งชี้ภาวะ refeeding syndrome ที่ต้องได้รับการดูแลทันที

 

เคล็ดลับให้ร่างกายฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป

 

  • กินหลายมื้อต่อน้อย ๆ แทนที่จะกินมื้อเดียวแล้วอิ่ม แบ่งเป็น 4–6 มื้อย่อยในวันแรก เพื่อให้ระบบย่อยค่อยๆ ปรับตัว
  • เน้นอาหารง่าย ย่อยง่าย และมีสารอาหารครบถ้วน เช่น ซุป ข้าวต้ม ผักนึ่ง ไข่ต้ม ปลา เนื้ออก ไขมันดีจากถั่ว/เมล็ดพืช
  • ดื่มน้ำพอควร อย่าดื่มมากจนเกินเพราะอาจทำให้สมดุลน้ำและเกลือแร่เพี้ยนได้ ระวังให้พอดี และถ้าคิดว่าอาจดื่มน้ำมากเกินไป ควรค่อยๆ ดื่ม และถ้าเป็นไปได้ รับน้ำเกลือแร่ด้วย
  • พักผ่อนให้พอ อย่าเร่งตัวเอง ร่างกายเพิ่งผ่านภาวะสู้กับความอดอยาก มันต้องใช้เวลาให้ระบบภายในฟื้นคืน
  • เพิ่มวิตามิน และเกลือแร่ ถ้ามีโอกาส (โดยเฉพาะในกรณีที่อดอาหารนานมาก) เพื่อช่วยให้ระบบเผาผลาญและระบบประสาทกลับมาทำงานได้ดี
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising