เรามักรู้สึกผิดเมื่อหยุดพัก หรือเมื่อปล่อยให้ตัวเองมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะ “ไม่ก่อประโยชน์” มากนัก ความรู้สึกนี้เรียกว่า productivity guilt คือการรู้สึกว่าทุกเวลาควรถูกใช้เพื่อทำงานหรือต่อยอดตัวเองอยู่เสมอ จนบางครั้งเราลืมไปว่าความสุขเล็กๆ ก็เป็นพลังสำคัญที่ทำให้ชีวิตเดินต่อไปได้อย่างราบรื่น
แนวคิด Luxuriate จึงเกิดขึ้นเพื่อเตือนให้เรากลับมาดื่มด่ำกับช่วงเวลาที่ดีอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเร่งรีบ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรให้ใครเห็น และไม่ต้องรู้สึกผิดที่เลือกความสุขให้ตัวเองก่อน มันอาจเป็นการจิบกาแฟแบบช้าๆ การทาครีมอย่างรู้สึกถึงผิว การแช่น้ำอุ่น หรือการอยู่กับแสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้า all of these count. เพราะหัวใจของการ luxuriate คือการ “อยู่กับปัจจุบัน” อย่างแท้จริง
เทรนด์นี้กำลังเพิ่มความสำคัญในโลก wellness เพราะตอบโจทย์สภาวะเหนื่อยล้าของคนยุคใหม่ เป็นความหรูหราแบบใหม่ที่ไม่ต้องใช้เงินมาก แต่ต้องใช้ความตั้งใจที่จะช้าลง เพื่อให้ร่างกายและใจได้พักจากความกดดันและข้อมูลที่ล้นเกิน การ luxuriate ยังสอดคล้องกับแนวคิดด้านจิตบำบัด โดยเฉพาะ somatic therapy ที่ใช้ประสาทสัมผัสเป็นเครื่องมือพากลับมาหาปัจจุบัน
การเริ่มฝึกไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แค่เลือกช่วงเวลาเล็กๆ ที่ทำให้ใจนุ่มขึ้น เช่น จิบชาโดยไม่จับมือถือ นั่งเงียบๆ สองนาที หรือแค่หายใจลึกๆ แบบรู้ตัว สิ่งเหล่านี้คือการบอกกับตัวเองว่า “ฉันคู่ควรกับความสุข แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม” และบางครั้ง ความหรูหราที่แท้จริงก็ไม่ใช่สิ่งของราคาแพง แต่เป็นความสามารถในการดื่มด่ำกับชีวิตแบบไม่รู้สึกผิดอีกต่อไป
ภาพ: Shutterstock


