×

หุ้นยาที่ร้อนแรงกว่าหุ้นเทคฯ? Eli Lilly ขึ้นแท่นบริษัทยาแห่งแรกของโลก สู่ ‘คลับล้านล้านดอลลาร์’ จากอานิสงส์ยาลดน้ำหนัก

22.11.2025
  • LOADING...
หุ้นยาที่ร้อนแรงกว่าหุ้นเทคฯ? Eli Lilly ขึ้นแท่นบริษัทยาแห่งแรกของโลก สู่ ‘คลับล้านล้านดอลลาร์’ จากอานิสงส์ยาลดน้ำหนัก

Eli Lilly บริษัทผู้ผลิตยาชื่อดังจากสหรัฐฯ ได้แรงสั่นสะเทือนให้กับวงการอุตสาหกรรมยา เมื่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ของบริษัทพุ่งแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 32.39 ล้านล้านบาท) ในระหว่างการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ (21 พ.ย.) ที่ผ่านมา

 

ส่งผลให้ Eli Lilly กลายเป็นบริษัทด้านการดูแลสุขภาพแห่งแรกของโลกที่ก้าวเข้าสู่ ‘คลับเอ็กซ์คลูซีฟ’ นี้ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกครอบครองโดยยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี

 

ราคาหุ้นของ Eli Lilly ที่พุ่งขึ้นกว่า 36% ในปีนี้ มีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากกระแสความต้องการที่มหาศาลในตลาดลดน้ำหนัก โดยเฉพาะความนิยมของยาฉีดลดน้ำหนัก Zepbound และยารักษาโรคเบาหวาน Mounjaro ซึ่งทั้งสองแบรนด์ใช้ตัวยาสำคัญเดียวกันคือ tirzepatide ที่ทำหน้าที่เลียนแบบฮอร์โมนในร่างกายเพื่อช่วยควบคุมความอยากอาหารและการเผาผลาญ

 

ความสำเร็จนี้ทำให้ Eli Lilly สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเหนือคู่แข่งสำคัญอย่าง Novo Nordisk ผู้ผลิตยา Ozempic และ Wegovy ในแง่ของยอดขายและการเติบโต โดยได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อประสิทธิภาพของยา และความสามารถในการขยายกำลังการผลิตที่รวดเร็วกว่าคู่แข่ง

 

ในไตรมาสล่าสุด Mounjaro ทำรายได้สูงถึง 6.52 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.11 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้น 109% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ Zepbound ทำรายได้ 3.59 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.16 แสนล้านบาท) พุ่งขึ้นถึง 184% ซึ่งรายได้จากพอร์ตโฟลิโอยาลดน้ำหนักและเบาหวานรวมกันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้รวมทั้งหมดของบริษัท

 

Eli Lilly ก่อตั้งขึ้นในปี 1876 โดยพันเอก Eli Lilly นักเคมีเภสัชกรรมและทหารผ่านศึกสงครามกลางเมือง บริษัทมีประวัติยาวนานในด้านโรคเบาหวาน โดยเป็นผู้ผลิตอินซูลินเชิงพาณิชย์รายแรกของโลกในปี 1923 และยังเป็นเจ้าของยาดังในอดีตอย่าง Prozac ยาต้านอาการซึมเศร้า และวัคซีนโปลิโอรุ่นแรกๆ

 

Evan Seigerman นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets ให้ความเห็นว่า “มูลค่าปัจจุบันสะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อความแข็งแกร่งในระยะยาวของธุรกิจกลุ่ม metabolic health ของบริษัท และยังบ่งชี้ว่านักลงทุนให้ความสนใจ Lilly มากกว่า Novo ใน ‘สงครามยาลดน้ำหนัก’ ครั้งนี้”

 

นอกจากความสำเร็จในปัจจุบันแล้ว นักลงทุนยังจับตามองยาเม็ดลดน้ำหนัก orforglipron ของ Eli Lilly ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติในช่วงต้นปีหน้า โดยนักวิเคราะห์จาก Citi มองว่ายานี้จะได้รับประโยชน์จากความสำเร็จของยาฉีดรุ่นก่อนหน้า และจะเป็นทางเลือกใหม่ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ป่วย

 

James Shin ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหุ้นไบโอฟาร์มาของ Deutsche Bank เปรียบเทียบว่า Eli Lilly เริ่มกลับมามีสถานะคล้ายกับหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven อีกครั้ง ซึ่งหมายถึงกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนตลาด และอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ท่ามกลางความกังวลต่อหุ้นกลุ่ม AI บางตัวที่เริ่มชะลอตัวลง

 

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงรออยู่ข้างหน้า ทั้งจากแรงกดดันด้านราคาของยา Mounjaro และ Zepbound รวมถึงการแข่งขันจากคู่แข่งรายใหม่อย่าง Pfizer และความสามารถของบริษัทในการรักษาระดับการเติบโตนี้ไว้ ท่ามกลางการขยายการเข้าถึงการรักษาที่มากขึ้นจากการเจรจากับรัฐบาล

 

อนาคตของ Eli Lilly ดูสดใสอย่างยิ่งในตลาดยาลดน้ำหนักที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.86 ล้านล้านบาท) ภายในต้นทศวรรษ 2030 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังที่สูงลิ่วของตลาดที่มีต่อการเติบโตของบริษัทในอนาคต

 

หมายเหตุ : ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 32.39 บาท ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2568

 

ภาพ: Ciara Kimsey / Shutterstock

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising